สัปดาห์ปัจจัยสำคัญได้แก่เงินเฟ้อสหรัฐฯ

Market Update

ตลาดหุ้น Dow Jones เมื่อคืนปิดบวกเล็กน้อย 0.17% แต่ตลาดหุ้น S&P500, Nasdaq ปิดในแดนลบ ถูกกดดันจากทิศทางดอกเบี้ยหลังรายงานจ้างงานแข็งแกร่ง ราคาน้ำมันดิบ BRT ปิดลบ 0.8% จากความกังวลเศรษฐกิจชะลอตัว

Market Outlook

เมื่อคืนที่ผ่านมา สหรัฐฯรายงานผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานที่ 2.16 แสนรายต่ำกว่าที่ Bloomberg Consensus คาดการณ์ที่ 2.3 แสนรายและลดลงจากสัปดาห์ก่อนหน้าที่ 2.29 แสนราย ขณะที่รายงานผู้ขอรับสวัสดิการต่อเนื่องที่ 1.67 ล้านราย ต่ำกว่าที่ Bloomberg Consensus คาดการณ์ที่ 1.7 ล้านราย และลดลงจากสัปดาห์ก่อนหน้าที่ 1.72 ล้านราย อย่างไรก็ตาม ภายหลังจากรายงานตัวเลขข้างต้น พบว่าอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯอายุ 2 และ 10 ปี ปรับลงสวนทาง Dollar Index แข็งค่าขึ้นต่อเนื่อง โดย CME FED Watch ให้น้ำหนักราว 92% ที่ FED จะคงดอกเบี้ยไว้ที่ระดับเดิมสำหรับการประชุมวันที่ 20 ก.ย. ส่วนสาเหตุที่อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯปรับลงสวนทางกับตัวเลขเศรษฐกิจที่แข็งแกร่ง ประเมินว่าเป็นผลจากราคาน้ำมันดิบ BRT ที่ย่อตัวลง หลังจากจีนรายงานมูลค่าส่งออกติดลบ 4 เดือนติดต่อ ทั้งนี้เชื่อว่าภาวะเงินเฟ้อเป็นปัจจัยที่นักลงทุนจะกลับมาให้ความสำคัญอีกครั้งหลังจากที่อัตราการขยายตัวของเงินเฟ้อหลายๆ ประเทศเริ่มฟื้นตัวจากจุดต่ำสุดไม่ว่าจะเป็นไทย สหรัฐฯ โดยเฉพาะสหรัฐฯ ที่สัปดาห์หน้ามีกำหนดรายงานเงินเฟ้อประจำเดือน ส.ค. ในวันพุธ Bloomberg Consensus คาดการณ์ที่ 3.6%YoY 0.5%MoM นับเป็นการปรับขึ้น 3 เดือนติดต่อและห่างไกลจากเป้าหมาย FED ที่ 2% จึงควรระมัดระวังการประชุมสิ้นเดือนนี้ที่ประธาน FED มีโอกาสสูงจะส่งสัญญาณเข้มงวด ซึ่งจะเป็นปัจจัยกดดันตลาดหุ้นทั่วโลก

วันนี้ ประเมิน SET INDEX อ่อนตัวลงในกรอบ 1535 – 1548 เชิงกลยุทธ์การลงทุนยังไม่เพิ่มพอร์ตการลงทุน จากการที่ภาพรวมยังไม่มีปัจจัยบวกเพียงพอ และระดับ Valuation ที่ยังไม่ถูกมากนัก สำหรับหุ้นแนะนำ Trading ระยะสั้นเลือกกลุ่มค้าปลีก (BJC CRC CPALL HMPRO) ธนาคารพาณิชย์ (BBL KBANK KTB SCB) ท่องเที่ยว (AOT CENTEL ERW MINT) ศูนย์การค้า (CPN) ร้านอาหาร (M) ขนส่ง (BEM) ส่งออกอาหาร (TU) โรงพยาบาล (BDMS)

หุ้นแนะนำซื้อวันนี้

TU (ซื้อ / ราคาเป้าหมาย 16.90 บาท) 3Q23 เราคาดว่าผลประกอบการจะฟื้นตัวจาก 2Q23 ได้โดยเฉพาะการฟื้นตัวในธุรกิจอาหารสัตว์เลี้ยงที่ลูกค้าเริ่มกลับมาสั่งของมากขึ้นแล้ว นอกจากนี้ในช่วงปลายไตรมาสยังมีโอกาสได้รับผลดีจากราคาปลาทูน่าที่ปรับตัวลดลงหลังจากยืนที่ระดับ 2,000 เหรียญสหรัฐฯ/ตันมา ตั้งแต่ต้นไตรมาส 2 ที่ผ่านมา

CPN (ซื้อ / ราคาเป้าหมาย 83.00 บาท) เพื่อให้เป็นไปตามแผนสำหรับการเติบโตปีละ 14-16% ช่วงปี 23-27 CPN ยังคงมีแผนเปิดตัวโครงการใหม่ต่อเนื่อง โดยมีความชัดเจนของศูนย์ใหม่แล้ว 5 โครงการ ที่จะทยอยเปิดในช่วงปี 23-25 นี้ นอกจากศูนย์การค้าแล้วยังมีโครงการโรงแรมและอสังหาริมทรัพย์ด้วย

- Advertisement -