นักลงทุนรอดูเงินเฟ้อสหรัฐฯ คืนพรุ่งนี้

Market Update

ตลาดหุ้น Dow Jones เมื่อคืนปิดบวก 0.25% แต่ Nasdaq ปิดบวก 1% ได้แรงหนุนจากหุ้น TSLA โดยนักลงทุนรอดูเงินเฟ้อสหรัฐฯ คืนพรุ่งนี้ ด้านราคาน้ำมันดิบ BRT ทรงตัวแต่ WTI ปรับลง 0.3% กังวลกับเศรษฐกิจจีน

Market Outlook

ภาพรวมวันนี้ยังไร้ปัจจัยใหม่ที่มีนัยยะสำคัญ ประเมินนักลงทุนรอดูการแถลงนโยบายจากรัฐบาลวันที่ 2 ที่จัดขึ้นตั้งแต่วานนี้และกำหนดสิ้นสุดวันนี้ แต่อย่างไรก็ ตามเชื่อว่าไม่มีผลมากต่อตลาดหุ้นเนื่องจากเป็นสิ่งที่นักลงทุน Price In ไปก่อนหน้า และหากนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจเม็ดเงินน้อยกว่าที่เคยหาเสียงไว้ก่อนหน้านี้มอง เป็นลบมากขึ้นกับภาวะเศรษฐกิจ สำหรับการเคลื่อนไหวของสินทรัพย์ต่างๆ เมื่อคืนที่ผ่านมา พบว่าอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯอายุ 2 และ 10 ปีมิได้เปลี่ยนแปลงมากนัก แต่ยังทรงตัวอยู่ในระดับสูง ด้าน Dollar Index อ่อนค่า สอดคล้องกับราคาทองคำปรับขึ้นเล็กน้อย ประเมินการเคลื่อนไหวที่จำกัดของแต่ละสินทรัพย์กำลัง Wait & See รอดูเงินเฟ้อสหรัฐฯ (CPI) ที่มีกำหนดรายงานในคืนพรุ่งนี้ราว 19.30 ตามเวลาประเทศไทย Bloomberg Consensus คาดที่ 3.6%YoY 0.6%MoM หากรายงานสูงกว่าตลาดคาดการณ์จะยิ่งเพิ่มแรงกดดันต่อสินทรัพย์ต่างๆ อาทิ ตลาดหุ้น ตลาดพันธบัตร และทองคำ ขณะที่ช่วงถัดไปยังมีความเสี่ยงจากเรื่องของดอกเบี้ย FED ที่มีแนวโน้มประธาน FED จะส่งสัญญาณเข้มงวดสูงขึ้น เนื่องจากเงินเฟ้อค่อยๆ ปรับขึ้นต่อเนื่องและห่างไกลจากเป้าหมายของ FED ที่ 2% นอกจากนี้ดอกเบี้ยที่อยู่ระดับสูงจะไม่เป็นผลดีกับเศรษฐกิจและตลาดหุ้น ซึ่งสอดคล้องกับระดับ Valuation ของ SET INDEX ที่ล่าสุดปรับลงมาซื้อขายต่ำกว่า -1SD นับเป็นระดับที่ค่อนข้างสูง

วันนี้ประเมิน SET INDEX ปรับตัวขึ้น 1542 – 1550 ฟื้น ตัวเล็กน้อยตามตลาดต่างประเทศแต่ยังประเมินว่า Upside มีสูงมากนักจากหลายๆ ปัจจัยกดดันที่กล่าวไปข้างต้น เชิงกลยุทธ์การลงทุนจังหวะปรับขึ้นยังมองเป็น โอกาสลดพอร์ตการลงทุน ส่วนหุ้นแนะนำระยะสั้น เลือกกลุ่มค้าปลีก (BJC CRC CPALL HMPRO) ท่องเที่ยว (AOT CENTEL ERW MINT SPA) ธนาคารพาณิชย์ (BBL KBANK KTB SCB) ศูนย์การค้า (CPN) ขนส่ง (BEM) อิเล็กทรอนิกส์ (KCE)

หุ้นแนะนำซื้อวันนี้

KCE (ซื้อ / ราคาเป้าหมาย 56.50 บาท) บริษัทคาดยอดขายปี 2024 (ในสกุลเงินดอลลาร์ฯ) จะฟื้นตัว 4%-5% YoY เพราะลูกค้าเริ่มตนสต็อกและเชื่อมั่นต่อภาพรวมเศรษฐกิจมากขึ้น โดยคาด GPM ปี 2024 ที่ 22% -23% แต่อาจแตะ 26%-27% ถ้าสภาพแวดล้อมออกมาดี แต่เรายังรัดกุมด้วยคาดการณ์ GPM ปี 2024 ที่ 23% จากแนวโน้มระยะยาวที่ลดลง ตั้งแต่ยอดสูงของบริษัทในปี 2016

CPALL (ซื้อ / ราคาเป้าหมาย 72.00 บาท) SSSG ไตรมาส 2/23 บวก 7.9% เทียบ 8.0% ในไตรมาส 1/23 และ 14.2% ในไตรมาส 2/22 โดย SSSG ที่แข็งแกร่งได้แรงหนุนจากจำนวนลูกค้า/สาขา/วันที่ฟื้นตัวเป็น 995 คน (+8% YoY) จาก 918 คนในไตรมาส 1/23 และ 941 คนในไตรมาส 2/22 ส่วนยอดบิลยังทรงตัว YoY และ QoQ ที่ 84 บาทในไตรมาส 2/23 ยอดขายออนไลน์สู่ออฟไลน์ (O2O) คิดเป็นสัดส่วนราว 10% ของยอดขายรวม

- Advertisement -