บล.กรุงศรีฯ:

TRANSPORTATION SECTOR – พยายามผลักดันราคาตั๋วรถไฟฟ้า 20 บาทตลอดสาย (POSITIVE)

นายสุริยะ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม พยายามจะผลักดันให้มี การใช้ราคาตัวรถไฟฟ้า 20 บาทตลอดสาย แต่ในเฟสแรกจะเริ่มใช้กับสายสีม่วงและแดงก่อน ซึ่งเป็นสายที่มีจำนวนผู้โดยสารน้อยมาก การที่จะทำให้เกิดผลกระทบอย่างมีนัยยะต้องมีการให้เงินอุดหนุนจำนวนมาก หรือต้องมีการแก้สัมปทาน แต่ไม่ว่าจะดำเนินไปในแนวทางไหนก็ไม่ น่าจะทำให้ผู้ประกอบการภาคเอกชนได้ผลประโยชน์ลดลง เรายังคงคําแนะนําซื้อทั้ง BEM (ราคาเป้าหมาย 11.50 บาท) และ BTS (ราคาเป้าหมาย 8.50 บาท) แต่เราชอบ BEM มากกว่าเพราะกำไรมีแนวโน้มเติบโตชัดเจนมากกว่า

การใช้ราคาตั๋วรถไฟฟ้า 20 บาทตลอดสายน่าจะยุ่งยากมากขึ้น

นายสุริยะ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมคนใหม่ แถลงต่อรัฐสภาเมื่อวานนี้ว่าจะผลักดันมาตรการตั๋วรถไฟฟ้าราคาเดียวตลอดสาย โดยในช่วงสามเดือนข้างหน้า จะมีการใช้ตั๋วราคา 20 บาทตลอดสายกับรถไฟฟ้าสายสีม่วง และแดง ส่วนขั้นตอนต่อไป รัฐมนตรีจะเจรจากับผู้ประกอบการทุกราย ซึ่งรวมถึง BEM และ BTS ด้วย ว่าจะสามารถใช้ราคาตั๋ว 20 บาทตลอดสายในระบบของทั้งสองบริษัทได้อย่างไร โดยหนึ่งในวิธีที่อาจจะทำให้มีการใช้มาตรการนี้ได้สำเร็จคือการขยายสัมปทานให้กับผู้ประกอบการภาคเอกชน

รัฐบาลตัดสินใจเลือกทางไหนก็จะไม่ส่งผลลบกับผู้ประกอบการอยู่ดี

ถึงแม้ว่ารัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมจะพยายามดำเนินนโยบายตั๋วราคาเดียว แต่เรายังคงมองว่าการดำเนินการในวงกว้างที่รวมระบบของทั้ง BEM และ BTS ไม่ใช่เรื่องง่าย เราคิดว่าการใช้ตั๋วราคาเดียวในสายสีม่วงและแดงไม่ได้ช่วยผู้ใช้รถไฟฟ้ามากนัก เพราะทั้งสองสายนี้มีจำนวนผู้โดยสารน้อย โดยสายสีม่วงมีเพียง 50,000-60,000 เที่ยว/วัน และสายสีแดงมีเพียง 19,000 เที่ยว/วัน เท่านั้น ซึ่งต่ำกว่าอย่างมากเมื่อเทียบกับสายสีเขียว (ดำเนินการโดย BTS) ที่ 600,000 เที่ยว/วัน และสายสีน้ำเงินที่ 420,000 เที่ยว/วัน ทั้งนี้ การที่จะทำให้นโยบายนี้เกิดผลอย่างมีนัยสำคัญได้ ต้อง ดำเนินการกับสายสีเขียวและน้ำเงิน ซึ่งไม่ใช่เรื่องง่าย และดูเหมือนว่ารัฐมนตรีจะไม่ อยากใช้เงินอุดหนุนในโครงการนี้ ดังนั้น จึงมีการยกประเด็นการขยายสัญญาสัมปทานขึ้นมา เรามองว่าการแก้สัมปทานอาจจะสร้างความสับสน เพราะจะทำให้ เกิดการตรวจสอบจากสาธารณะ เรามองว่านโยบายนี้จะไม่สามารถดำเนินการได้ หรือหากดำเนินการได้สำเร็จ ก็จะก่อให้เกิดภาระด้านเงินอุดหนุนจากรัฐบาล ไม่ได้เป็นภาระกับฝั่งผู้ประกอบการในภาคเอกชน

เราเลือก BEM (ราคาเป้าหมาย 11.50 บาท) เป็นหุ้นเด่นของเรา

เราแนะนำซื้อทั้ง BEM (ราคาเป้าหมาย11.50 บาท) และ BTS (ราคาเป้าหมาย 8.50 บาท) แต่เราชอบ BEM มากกว่าเพราะมีประเด็นการเติบโตของกำไรชัดเจนมากกว่า โดยเราคาดว่ากำไรของ BEM จะเติบโตอย่างแข็งแกร่งใน 3Q23 เช่นเดียวกับใน 2Q23 เพราะเป็นช่วง peak ของฤดูท่องเที่ยว แต่ในทางกลับกัน เราคาดว่าผลประกอบการของ BTS จะยังคงถูกกดดันจากผลการดำเนินงานที่อ่อนแอของบริษัทย่อย (VGI) และรถไฟฟ้าสายสีเหลืองที่เพิ่งเปิดใหม่

- Advertisement -