เงินเฟ้อสหรัฐฯ สูงกว่าตลาดคาดเล็กน้อย

Market Update

ตลาดหุ้น Dow Jones ปิดลบ 0.2% หลังจากสหรัฐฯ รายงานเงินเฟ้อสูงกว่านักวิเคราะห์คาดการณ์ ด้านราคาน้ำมันดิบ BRT ปิดลบ 0.2% หลังสหรัฐเปิดเผยสต็อกนํ้าบินดิบเพิ่มขึ้นสวนทางกับคาดการณ์

Market Outlook

เมื่อคืนที่ผ่านมาสหรัฐฯรายงานเงินเฟ้อประจําเดือน ส.ค. พบว่าออกมาที่ 3.7%YoY 0.6%MoM สูงกว่า Bloomberg Consensus คาดการณ์ 3.6%YoY ด้านเงินเฟ้อพื้นฐานรายงานออกมาที่ 4.3%YoY 0.3%MoM สูงกว่า Bloomberg คาดเล็กน้อย 0.25%MoM หากพิจารณาองค์ประกอบภายในจะพบว่าราคาสินค้าที่ปรับขึ้นมาเมื่อเทียบกับเดือนก่อนที่ชัดเจนจะได้แก่ ราคาพลังงาน (+10.5%MoM) น้ำมันเบนซิน (+10.6%MoM) นํ้ามันเตา (+9.1%MoM) ซึ่งสอดคล้องกับการปรับขึ้นมาของราคานํ้ามันดิบ BRT ที่ปรับขึ้นมา 8.5%MoM (เดือน ส.ค. เทียบ ก.ค.) และการปรับขึ้นของราคานํ้ามันดิบเป็นสาเหตุหลักที่ส่งผลให้เงินเฟ้อทั่วไปปรับเพิ่มขึ้น 3 เดือนติดต่อ  ขณะที่หากพิจารณาไปยังเงินเฟ้อทั่วโลกในเดือน ก.ย. มีโอกาสที่จะปรับเพิ่มขึ้นต่อตามการฟื้นตัวของราคานํ้ามันดิบ ภายหลังจากทราบข้อมูลข้างต้นพบว่า อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐ อายุ 2 และ 10 ปีปรับลงเล็กน้อยแต่ยังอยู่สูง ด้าน CME FED Watch ให้นํ้าหนัก 97% ที่ FED จะคงดอกเบี้ยไว้ที่ระดับเดิมในการประชุมวันที่ 20 ก.ย. อย่างไรก็ตาม ความเสี่ยงคือการที่เงินเฟ้อปรับขึ้นต่อเนื่อง และห่างจากเป้าหมายของ FED จึงคงมุมมองระมัดระวังต่อการประชุม FED ปลายเดือน ก.ย.

สำหรับปัจจัยในประเทศวานนี้ที่ประชุม ครม. ได้ออกมาตรการหนุนเศรษฐกิจ อาทิ ปรับลดค่าไฟฟ้าเป็น 4.1 บาท/กิโลวัตต์ต่อชั่วโมง จากเดิม 4.45 เราประเมินเป็นลบกลุ่มโรงไฟฟ้า โดยเฉพาะ GPSC (กระทบกำไร 28% จากประมาณการเดิม), BGRIM (กระทบกำไร 23% จากประมาณการเดิม) ลดราคาน้ำมันดีเซลให้ต่ำกว่า 30 บาท/ลิตร คาดมีผลกระทบเชิงลบกับกลุ่มปั้นนํ้าบิน (OR PTG) ต่อค่าการตลาดที่อาจลดลง ฟรี Visa ชั่วคราวให้กับจีนและคาซัคสถาน ประเมินเป็นบวกกับกลุ่มท่องเที่ยว ค้าปลีก ร้านอาหาร (AOT AWC CENTEL CPALL ERW M MINT)

วันนี้ประเมิน SET INDEX เคลื่อนไหวในกรอบ 1527-1543 เชิงกลยุทธ์ยังไม่เพิ่มนํ้าหนักการลงทุน แม้ดัชนีจะปรับฐานลงมาแล้วจากหลายๆ ความเสี่ยงที่รออยู่ถัดไป ลุ้นแนะน่าระยะสั้น ได้แก่ กลุ่มค้าปลีก (BJC CRC CPALL HMPRO) ท่องเที่ยว (AOT CENTEL ERW MINT SPA) ธนาคารพาณิชย์ (BBL KBANK KTB SCB) ศูนย์การค้า (CPN) ขนส่ง (BEM)

หุ้นแนะนำซื้อวันนี้

CPALL (ซื้อ / ราคาเป้าหมาย 72.00 บาท) กําไรสุทธิไตรมาส 2/23 อยู่ที่ 4.4 พันล้านบาท ด้วยกําไรปกติที่ 4.5 พันล้านบาท (+47% YoY, +19%QoQ) ดีกว่าที่เราและ Bloomberg consensus คาด 15% หนุนจากการเติบโตของยอดขายสาขาเดิม (SSSG) ที่บวก 7.9% และอัตรากำไรขั้นต้น (GPM) ที่แข็งแกร่งในธุรกิจร้านสะดวกซื้อที่ปรับเพิ่ม 100 bps YoY ช่วยชดเชยผลตอบแทนพนักงาน ค่าไฟฟ้า และต้นทุนทางการเงินที่ปรับเพิ่มขึ้นได้ ส่วน SSSG ตั้งแต่ต้นไตรมาส 3/23 ยังเป็นบวก YoY

COCOCO (ซื้อ / ราคาเป้าหมาย 11.50 บาท) เริ่มต้นบทวิเคราะห์ COCOCO ด้วยคําแนะน่า “ซื้อ” มูลค่าพื้นฐาน 11.50 บาท อิง 24.6xPE’24E ใกล้เคียงค่าเฉลี่ยกลุ่มเครื่องดื่มโดยรวม คําแนะนําซื้อสะท้อน 1) พื้นที่การเติบโตอีกมากในตลาดน้ำมะพร้าว 2) ขยายกําลังการผลิตเพื่อรองรับความต้องการที่เติบโตอย่างรวดเร็ว และ 3) ศักยภาพในการก่าหาไรที่ดีกว่าคู่แข่งในอุตสาหกรรม COCOCO คือผู้นำตลาดส่งออกน้ำมะพร้าวของไทย ด้วยส่วนแบ่งตลาดที่ 15% ในงวด 6 เดือนปี 2023

- Advertisement -