บล.บัวหลวง:
Energy – มาตรการลดค่าใช้จ่ายด้านน้ำมันเชื้อเพลิงของรัฐบาล
What’s new?
ครม. มีมติเห็นชอบเกี่ยวกับมาตรการลดค่าใช้จ่ายด้านน้ำมันเชื้อเพลิง
Highlights:
- เมื่อวันที่ 13 ก.ย. ที่ผ่านมา ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบมาตรการลดค่าใช้จ่ายด้านน้ำมันเชื้อเพลิงให้แก่ประชาชนดังนี้
- ในส่วนราคาน้ำมันดีเซล จะปรับลดราคาน้ำมันดีเซลลง 2.50 บาทต่อลิตร ซึ่งจะส่งผลให้ราคาน้ำมันดีเซลไม่ให้เกิน 30 บาทต่อลิตร ตั้งแต่วันที่ 20 ก.ย.2023 ถึงวันที่ 31 ธ.ค.2023 โดยใช้กลไกของภาษีสรรพสามิตและกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง
- ส่วนราคาน้ำมันเบนซิน กระทรวงพลังงานจะพิจารณารายละเอียดแนวทางการช่วยเหลือแบบมุ่งเป้าให้แก่ผู้ใช้น้ำมันเบนซินกลุ่มเปราะบาง เช่น กลุ่มมอเตอร์ไซค์รับจ้างและแท็กซี่ และนำเสนอคณะรัฐมนตรีพิจารณาอีกครั้ง รวมทั้งกำกับดูแลให้มีค่าการตลาดอยู่ในระดับที่เหมาะสม ประมาณ 2.00 บาทต่อลิตร
ตามมติ กบง.
- หากพิจารณาจากค่าการตลาดในปัจจุบัน ซึ่งค่าการตลาดน้ำมันดีเซลอยู่ที่ 1.71 บาทต่อลิตร ในขณะที่ค่าการตลาดน้ำมันเบนซิน (แก๊สโซฮอล์ 95 E10) อยู่ที่ 2.94 บาทต่อลิตร มติดังกล่าวจะส่งผลให้ค่าการตลาดน้ำมันเบนซินลดลง 0.94 บาทต่อลิตร
- ทั้งนี้กรณีที่ 1: หากใช้สมมติฐานว่าผู้ค้าน้ำมันปรับลดค่าการตลาดน้ำมันเบนซิน (โดยไม่มีการปรับเพิ่มค่าการตลาดน้ำมันดีเซลให้เป็น 2.00 บาทต่อลิตร) จากประมาณการเบื้องต้นเราคาดว่าการปรับลดค่าการตลาดน้ำมันเบนซินดังกล่าวจะคิดเป็นdownside ต่อประมาณการกำไรปี 2023 ของ OR ราว 2% และ ของ BCP ราว 1%
- กรณีที่ 2: หากใช้สมมติฐานว่าผู้ค้าน้ำมันปรับลดค่าการตลาดน้ำมันเบนซิน แต่ปรับเพิ่มค่าการตลาดน้ำมันดีเซลให้เป็น 2.00 บาทต่อลิตร จากประมาณการเบื้องต้นเราคาดว่าการปรับลดค่าการตลาดน้ำมันเบนซินดังกล่าวจะคิดเป็น downside ต่อประมาณการกำไรปี 2023 ของ OR ราว 0.5% และ ของ BCP ราว 0.5%
View From Fundamental:
ข่าวดังกล่าวน่าจะเป็น negative sentiment ต่อราคาหุ้นกลุ่มผู้ค้ำน้ำมัน เช่น BCP, ESSO, OR, PTG สำหรับหุ้นกลุ่มพลังงานเราชอบหุ้น upstream oil & gas และหุ้นกลุ่มโรงกลั่นมากกว่า ในเชิงปัจจัยพื้นฐาน preferred pick ได้แก่ PTTEP (ซื้อ; ราคาเป้าหมาย 200 บาท) และ TOP (ซื้อ; ราคาเป้าหมาย 78 บาท)