บล.บัวหลวง: 

Residential Property – ภูเก็ตจะเป็น Property boom แห่งใหม่ในประเทศไทย (NEUTRAL)

Property boom แห่งใหม่ในประเทศไทย Property boom ในประเทศไทยแห่งต่อไปมีแนวโน้มว่าจะเป็นภูเก็ต ในบรรดาบริษัทที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ SIRI เตรียมพร้อมดีที่สุด (ผู้นำคอนโดของภูเก็ต) ตามมาด้วย SPALI (ผู้นำโครงการแนวราบของภูเก็ต) ORI (ผู้เล่นหน้าใหม่ที่เติบโตอย่างรวดเร็ว) และ CPN (ผู้ประกอบการศูนย์การค้าชั้นนํา)

ทําไมเราจึงคิดว่าภูเก็ตจะเป็น Property boom แห่งใหม่ในประเทศไทย

ตลาดอสังหาริมทรัพย์ในภูเก็ตฟื้นตัวควบคู่ไปกับการฟื้นตัวของการท่องเที่ยว และการจราจรทางอากาศที่หนาแน่นมากขึ้นไปยังเกาะ ปัจจัยสำคัญที่ส่งผลให้เกิดการเติบโต ได้แก่ 1) การเปลี่ยนแปลงจากการท่องเที่ยวสู่ไลฟ์สไตล์ 2) เสของภูเก็ต 3) ผู้ซื้อชาวรัสเซีย 4) การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน 5) การเปลี่ยนแปลงของตลาดคอนโด และ 6) ตลาดอสังหาริมทรัพย์ที่มีการแข่งขัน

นอกจากนี้ เมื่อวันที่ 25 ส.ค. 2566 นายกรัฐมนตรี เศรษฐา ทวีสิน ได้มาเยือน จังหวัดภูเก็ต วางแนวปฏิบัติในการส่งเสริมการท่องเที่ยวสร้างรายได้เข้าประเทศ และเข้าพบผู้บริหารท่าอากาศยานภูเก็ต เพื่อหารือเกี่ยวกับการขยายสนามบินและยุทธศาสตร์การพัฒนาจังหวัดภูเก็ต

บริษัทจดทะเบียนใดบ้างที่มีโครงการบนเกาะ?

SIRI: บมจ. แสนสิริได้พัฒนาโครงการที่อยู่อาศัยในจังหวัดภูเก็ตมานานกว่า 10 ปี เช่น เดอะ เบส อัพทาวน์ ภูเก็ต (มูลค่าโครงการ 1.0 พันล้านบาท ในปี 2557) เดอะ เดค ป่าตอง (มูลค่าโครงการ 1.4 พันล้านบาท ในปี 2558) และ เดอะ เบส ไฮท์ ภูเก็ต (มูลค่าโครงการ 900 ล้านบาท ในปี 2558) ทุกโครงการ ขายหมดแล้ว และ SIRI ยังคงมีโครงการในมือ 3 โครงการในภูเก็ต ได้แก่ สิริ เพลส แอร์พอร์ต (มูลค่าโครงการ 600 ล้านบาท), อณาสิริ ป่าคลอก (มูลค่า โครงการ 1.4 พันล้านบาท) และดีคอนโด รีฟ (มูลค่าโครงการ 1.5 พันล้าน บาท) นอกจากนี้ยังมีที่ดินในภูเก็ตรวม 129 ไร่ ซึ่งสามารถพัฒนาเป็น โครงการคอนโด 5 โครงการ และโครงการแนวราบ 1 โครงการ หากว่ารายได้ถูกบันทึกไว้ในปี 2567 เราคาดว่ายอดโอนโครงการในภูเก็ตอาจคิดเป็น 5-10% ของรายได้ และ 3-7% ของกำไรของ SIRI (ทั้งโครงการปัจจุบันและ โครงการใหม่)

SPALI: บริษัทมีโครงการที่เปิดดำเนินการอยู่ 10 โครงการในภูเก็ต โดยมี มูลค่าการขายคงเหลือ 3 พันล้านบาท SPALI เปิดตัวโครงการหนึ่งในช่วง ไตรมาส 3/66 ได้แก่ ศุภาลัย วิลล์ รัษฎา ภูเก็ต (มูลค่าโครงการ 420 ล้าน บาท) และมีแผนจะเปิดตัวโครงการอื่นในไตรมาส 4/66 นอกจากนี้บริษัทยังมีแผนสำหรับการพัฒนาโครงการเพิ่มเติมอีก 5 โครงการ หากว่ารายได้ถูกบันทึกไว้ในปี 2567 เราคาดว่ายอดโอนโครงการในภูเก็ตจคิดเป็น 5-10% ของรายได้ และ 2-6% ของกำไรสุทธิของ SPALI (ทั้งโครงการปัจจุบันและโครงการใหม่)

ORI: บริษัท ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) มีโครงการคอนโดในภูเก็ต ได้แก่ The Origin Center Phuket (มูลค่าโครงการ 1.3 พันล้านบาท) โครงการถูกจองเต็มแล้วในไตรมาส 3/66 ORI จะเปิดตัวโครงการ The Origin กระทู้-ป่าตอง (มูลค่าโครงการ 1.4 พันล้านบาท) โดยบริษัทคาดว่าจะ มียอดจองซื้อที่แข็งแกร่งสำหรับโครงการนี้เช่นกัน

CPN: นอกจากจะเป็นผู้ประกอบการศูนย์การค้ารายใหญ่ที่สุดในประเทศไทยแล้ว CPN ยังมีธุรกิจพัฒนาที่อยู่ อาศัยที่ขยายตัวอย่างรวดเร็ว บนพื้นที่ 2 ไร่ติดกับศูนย์การค้าเซ็นทรัล ภูเก็ต บริษัทเปิดตัวเฟส 1 ของคอนโด ระดับไฮเอนด์ Phyll Phuket (มูลค่าโครงการ 1.5 พันล้านบาท หรือ 100,000 บาท/ตร.ม.) CPN คาดเฟส 1 จองไปแล้ว 70% เฟสที่ 2 และ -3 มีกำหนดเปิดตัวอย่างไม่แน่นอนหลังปี 2567 หากว่ายอดโอนโครงการเฟส 1 จะถูกบันทึกเป็นส่วนใหญ่ในปี 2567 เราคาดว่ารายได้ของบริษัทจะเพิ่มขึ้น 2%

- Advertisement -