KS Daily View 20.09.2023 >>> บาทอ่อน/บอนด์ดีดแรง กดดันตลาด /จับตาประชุม FOMC คืนนี้ ประเมินกรอบซื้อขาย 1,520/1,535 หุ้นแนะนำ COM7 ITC

สรุปภาวะตลาดเมื่อวานนี้

ต่างประเทศ : ดัชนี DJIA -0.31%, S&P 500 -0.22%, NASDAQ -0.23%โดย Sector ที่ outperform ใน S&P500 เช่น Health care (+0.10%), Communication services (+0.01%), Information technology (-0.08%) ขณะที่ Energy (-0.83%), Consumer discretionary (-0.65%), Real estate (-0.56%)

ในประเทศ: SET Index -4.61 pts. หรือ -0.30% ปิดที่ 1,522.96 จุด ตัวขับเคลื่อนหลักสำคัญ ADVANC (+1.35%), INTUCH (+1.72%), PTTEP (+0.60%), TRUE (+1.32%) ขณะที่ CPALL (-1.58%), BDMS (-1.87%), AOT (-0.71%), DELTA (-0.47%)

แนวโน้มตลาดหุ้นในประเทศ:

มองดัชนีตลาดพักตัวต่อ นอกจากมีประเด็นความเสี่ยงจากผลการประชุม FOMC ช่วงข้ามคืนวันนี้ที่ต้องรอพิจารณา อัตราดอกเบี้ยพันธบัตรรัฐบาลอายุ 10 ของไทยก็ปรับตัวเพิ่มขึ้นต่อเนื่องส่งผลให้ valuation และอัตราเงินปันผลจากตลาดหุ้นไทยเริ่มมีความน่าสนใจน้อยลงเมื่อเทียบกับความเสี่ยงหรือเทียบกับการลงทุนในพันธบัตรรัฐบาลไทยที่ให้ผลตอบแทนที่สูงขึ้น นอกจากนี้ตลาดมีความกังวลว่ารัฐบาลมีความจำเป็นที่จะต้องกู้เงินเพิ่มขึ้นเพื่อใช้สำหรับการออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจชุดใหญ่ อาจเป็นการดูดสภาพคล่องออกจากตลาดหุ้น มองกรอบซื้อขายวันนี้ที่ 1,520/1,535 จุด

ประเด็นสำคัญที่เป็นกระแสในช่วงนี้และมีผลต่อการลงทุน:

1.) อัตราดอกเบี้ยพันธบัตรรัฐบาลอายุ 10 ของไทยปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องล่าสุดทะลุระดับ 3.10% วานนี้ บนความกังวลว่ามาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจชุดใหญ่ของรัฐบาลเศรษฐาทำให้การขาดดุลการคลังเพิ่มขึ้นซึ่งส่งผลให้รัฐบาลจำเป็นต้องกู้เงินเพิ่มจำนวนมากทำให้หนี้สาธารณะปรับตัวขึ้นจนอาจทำให้สัดส่วนหนี้สาธารณะต่อ GDP ของไทยวิ่งเข้าหาเกณฑ์กำหนดกรอบตามกฎหมายที่ต้องไม่เกิน 70% ของ GDP

2.) ยุโรปรายงานตัวเลขดัชนีราคาผู้บริโภคทั่วไป (Headline CPI) เดือนส.ค. ขยายตัว 5.2% YoY ต่ำกว่าที่ตลาดคาดที่จะทรงตัวเมื่อเทียบกับเดือนก่อนหน้าที่ 5.3% YoY ขณะที่ดัชนีราคาผู้บริโภคพื้นฐาน (Core CPI) ขยายตัว 5.3% YoY ตัวเลขออกมาตามที่ตลาดคาดและทรงตัวเมื่อเทียบกับเดือนก่อนหน้าที่ 5.3% YoY แม้เงินเฟ้อทยอยปรับตัวลดลงต่อ แต่การปรับตัวลงของแรงกดดันเงินเฟ้อในยุโรปเป็นไปอย่างค่อนข้างช้า อย่างไรก็ดี มองไม่มีผลต่อแนวโน้มอัตราดอกเบี้ยหรือทิศทางนโยบายการเงินในยุโรปแล้วหลัง ECB ส่งสัญญาณชัดในรอบการประชุมครั้งก่อนว่าอัตราดอกเบี้ยปัจจุบันได้มาถึงระดับที่จะสามารถส่งผลมากพอให้อัตราเงินเฟ้อค่อยๆปรับลดลงสู่เป้าหมายของ ECB ได้ในระยะเวลาที่เหมาะสมแล้ว

3.) นายธีระชัย ภูวนาถนรานุบาล อดีต รมว.คลัง โพสเฟซบุ๊กกรณีมีกระแสข่าวระบุว่ารมว.คลังจะปลดผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เพราะขัดนโยบายรัฐบาล หลังทางนายเศรษฐพุฒิ สุทธิวาทนฤพุฒิ ผู้ว่าฯ ธปท.กล่าวถึงการหารือกับ นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐนตรี และ รมว.คลัง ในเรื่องนโยบายเงินดิจิทัลวอลเล็ต 1 หมื่นบาทว่า หากรูปแบบในการทำนโยบายออกมาเป็น Digital Asset ทางแบงก์ชาติยืนยันมาตลอดว่าไม่สนับสนุน

Theme การลงทุนสัปดาห์นี้

ประเมินตลาดหุ้นไทยแกว่งตัวในกรอบ 1,520 – 1,570 จุด คาดตลาดแกว่งตัวรอประเมินถ้อยแถลงของ Fed Chair Powell ในคืนวันพุธที่ 20 ก.ย. รวมถึงผลการประชุมธนาคารกลางของประเทศใหญ่อื่นๆ (จีน ญี่ปุ่น อังกฤษ) ทิศทางราคาโภคภัณฑ์ โดยเฉพาะราคาน้ำมันดิบ Brent ที่ล่าสุดทำจุดสูงสุดนับแต่เดือน พ.ย. 2565 และพัฒนาการของปัญหา Geopolitical risk ระหว่างจีน กับยุโรป/สหรัฐฯ ขณะที่ปัจจัยในประเทศ ติดตามการเดินทางเข้าร่วมประชุมสมัชชาสหประชาชาติของนายกรัฐมนตรีที่สหรัฐฯ ระหว่างวันที่ 18-22 ก.ย. โดยทางนายกจะถือโอกาสไปพบกับนักลงทุนต่างประเทศที่สนใจลงทุนในประเทศไทย

หุ้นแนะนำวันนี้ Top pick:

COM7 (ราคาพื้นฐาน 36.72 บาท) แนวโน้มยอดขาย iPhone 15 แข็งแกร่ง ดีกว่า iPhone 14 หลังยอดจอง online เต็มหลายที่ อีกทั้งบริษัทเผยเตรียมประกาศดีลเพิ่มใหม่กับเครื่องใช้ไฟฟ้าปลายปีนี้

ITC (ราคาพื้นฐาน 26.8 บาท) มองบริษัทได้อานิสงค์บวกจากค่าเงินบาทอ่อน ขณะด้านตัวเลขส่งออกยืนยันยอดขายอาหารสัตว์เลี้ยงผ่านจุดต่ำสุดแล้วและคาดจะค่อยๆฟื้นตัวขึ้น ประเมินกำไรเร่งตัว QoQ ใน 3Q23 และแตะระดับสูงสุดของปีใน 4Q23 ขณะที่ valuation หุ้นไม่แพง upside เยอะน่าสนใจ

รายงานตัวเลขเศรษฐกิจ

  • วันพุธติดตามการประชุมธนาคารกลางจีน (PBOC) ตลาดคาดคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายไว้ที่เดิมทั้งในส่วนของ LPR (Loan Prime Rate) ระยะ 1 ปีที่ 3.45% และระยะ 5 ปีที่ 4.20% และช่วงดึกข้ามคืนมีประชุมธนาคารกลางของสหรัฐฯ FOMC ตลาดคาดจะคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายไว้ที่ 5.50% โดยในรอบนี้จะมีการแถลงตัวเลขคาดการณ์แนวโน้มเศรษฐกิจและเงินเฟ้อของสหรัฐฯด้วยซึ่งน่าจะเป็นตัวเลขที่ตลาดให้ความสนใจ
  • วันพฤหัสบดีติดตามผลประชุมธนาคารกลางอังกฤษ (BOE) ตลาดคาดมีการปรับเพิ่มขึ้นอัตราดอกเบี้ย 25bps จาก 5.25% เป็น 5.50% ต่อด้วยตัวเลขดัชนีภาคการผลิตระดับรัฐของสหรัฐฯ (Philly Fed manufacturing Index) เดือนก.ย. ตลาดคาดที่ปรับตัวลงอยู่ที่ -0.4 จากเดือนก่อนหน้าที่ 12.0 จุด ต่อด้วยตัวเลขยอดขายบ้านมือสอง (Existing Home Sales) เดือน ส.ค. ตลาดคาดที่ 4.10m เทียบกับเดือนก่อนหน้าที่ 4.07m
  • วันศุกร์ติดตามผลการประชุมธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) ตลาดคาดคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายไว้ที่ -0.10% แต่ให้น้ำหนักความสนใจที่ทาง BOJ จะมีการปรับเปลี่ยนมาตรการผ่อนคลายอื่นๆเช่น Yield Curve Control (YCC) หรือไม่ หลังเงินเฟ้อสามารทรงตัวได้ในระดับสูง ต่อด้วยดัชนีภาคการผลิตเบื้องต้นของทั้งฝั่งยุโรปและสหรัฐฯของเดือนก.ย. ซึ่งตลาดคาดทั้งคู่จะทรงตัวเท่าเดิมกับเดือนก่อนหน้าที่ระดับเ 43.5 จุดและ 47.9 จุดตามลำดับ
- Advertisement -