บล.ฟิลลิป:
TFG เน้นขยายร้านค้าปลีกในไทย
IAA Consensus TP’66 :3.70 – 5.20
2Q66 รายได้ 13,562 ลบ. -0.8%q-q จากปริมาณขายไก่และราคาสุกรในประเทศลดลง แต่ +10.0%y-y จากราคาขายไก่ในต่างประเทศสูงกว่าปีก่อน และมีการขยายร้านค้าปลีกมากขึ้น GPM 9.5% ลดลง y-y และ q-q จากต้นทุนการเลี้ยงสูงขึ้น กำไรสุทธิ 68.8 ลบ. -83.8%q-q -94.5%y-y, 3Q66 คาดปริมาณขายและราคาทรงตัว, โรงเชือดไก่แห่งใหม่เสร็จ 1Q67 ปี 67 จะมีปริมาณขายไก่และสุกรได้เพิ่มขึ้น
- ต้นทุนการเลี้ยงกดดัน: 2Q66 ยอดขาย 13,562 ลบ. -0.8%q-q จากปริมาณการขายที่ลดลงจากเป็นช่วงชะลอการสั่งซื้อไก่จากญี่ปุ่นและราคาสุกรในประเทศที่ลดลง +10.0%y-y มีปริมาณการขายเพิ่มมากขึ้นจากการขยายช่วงทางในร้านค้าปลีก และราคาขายไก่ในต่างประเทศที่สูงขึ้น GPM 9.5%y-y ลดลง y-y และ q-q จากต้นทุนการเลี้ยงที่สูงขึ้น กำไรสุทธิ 68.8 ลบ. 83.8%q-q-94.5%y-y
- ปริมาณขายยังเพิ่มขึ้น y-y: ปัจจุบันยังคงมีการขยายร้านค้าปลีกเพิ่มขึ้น ทำให้ปริมาณการขายไก่ให้แก่บุคคลภายนอกลดลงเปลี่ยนมาขายให้ในบริษัทในเครือมากขึ้น สัดส่วนการขายไก่ในช่วง 1H66 มีสัดส่วนลดลงมาที่ 33% และสัดส่วนรายได้จากร้านค้าปลีกเพิ่มขึ้นเป็น 27% เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า แต่หากรวมกันแล้วยังมีปริมาณการขายไก่ที่เพิ่มขึ้น
- 3Q66 ทรงตัว: คาด 3Q66 ด้านปริมาณขายทรงตัวและราคาไก่อาจเห็นการอ่อนตัวในภูมิภาคยุโรป ขณะญี่ปุ่นราคาอาจปรับตัวขึ้นได้เล็กน้อยในบางชิ้นส่วน ส่วนต้นทุนการเลี้ยงคาดดีขึ้น q-q
- ซัพพลายลดลง: ปัจจุบันด้วยราคาหมูที่ต่ำ ผู้ประกอบการรายเล็กเริ่มมีการขายแม่พันธุ์ ขายหมูที่เล็กลง เพื่อรักษาสภาพคล่อง ทำให้ปัจจุบันมีน้ำหนักหมูออกที่สู่ตลาดลดลง การบริโภคและการส่งออกเริ่มมีมากขึ้น ราคาหมูพื้นตัวขึ้นมาจากช่วงต้นไตรมาส 3 และคิดว่าได้ผ่านจุดต่ำสุดไปแล้ว
- ปี 67 ปริมาณขายยังเติบโต: สร้างโรงเชือดไก่ เริ่มดำเนินการได้ใน 1Q67 กำลังผลิต 1.0-1.2 ตัว/วัน เพื่อขายให้ร้านค้าปลีกของ TFG ซึ่งจะทำให้ลดต้นทุนบางอย่างได้ โดยยังรักษาคุณภาพไว้เหมือนเดิม จากปัจจุบันที่ใช้โรงงานเพื่อการส่งออกส่งไปยังร้านค้าปลีก คาดปี 67 มีปริมาณขายสุกรและไก่เพิ่มขึ้น
- Advertisement -
