บล.ฟิลลิป:
KTB สินเชื่อกลับมาเติบโต แต่กำไรจะลด q-q
ทยอยซื้อ TP’66: 20.50
คาดสินเชื่อ 3Q66 กลับมาเติบโต และทำให้กำไรยังเพิ่มสูงขึ้นได้ y-y แต่ q-q คาดกำไรจะลดลง จากค่าใช้จ่าย ดอกเบี้ย ค่าใช้จ่าย และการตั้งสำรองที่เพิ่มขึ้น สินเชื่อที่เติบโตคาดว่ามาจากุสินเชื่อรายใหญ่ และสินเชื่อภาครัฐเมื่อ รวมกับต้นทุนดอกเบี้ยที่เพิ่มขึ้น อาจจะทำให้ส่วนต่างอัตราดอกเบี้ยหดตัวลง คงประมาณการและราคาพื้นฐาน แนะนำ “ทยอยซื้อ”
งบรวม | 3Q66E | 2Q66 | 3Q65 | % y-y | % q-q | 9M66E | 9M65 | % y-y |
กําไร | 8,968 | 10,156 | 8,450 | 6.1 | -11.7 | 29,190 | 25,589 | 14.1 |
EPS | 0.64 | 0.73 | 0.60 | 6.1 | -11.7 | 2.09 | 1.83 | 14.1 |
หมายเหตุ: กำไร = ล้านบาท, EPS = บาท
- คาด 3Q66 กำไรเพิ่มขึ้น 6.1% y-y แต่ลดลง 11.7% q-q: คาด KTB จะมีกำไร 3Q66 9 พันลบ. เพิ่มขึ้น 6.1% y-y จากรายได้ดอกเบี้ยที่เพิ่มสูงขึ้น จากการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้นเงินกู้ ถึงแม้จะคาดว่าค่าใช้จ่ายดอกเบี้ย ค่าใช้จ่าย และการตั้งสำรองจะเพิ่มสูงขึ้นก็ตาม แต่คาดว่าจะลดลง 11.7% q-q จากค่าใช้จ่าย และการตั้งสำรองที่เพิ่มขึ้น ถึงแม้จะยังคาดรายได้ดอกเบี้ยจะยังคงเพิ่มขึ้นต่อก็ตาม
- สินเชื่อกลับมาเติบโต แต่ส่วนต่างอัตราดอกเบี้ยอาจลดลง: ในเดือน ส.ค. KTB เป็นธนาคารที่มีสินเชื่อเติบโตสูงที่สุดในกลุ่ม โดยเพิ่มขึ้น 1.6% m-m และทำให้สินเชื่อกลับมาเติบโตได้ 0.03% ytd และคาดว่า 3Q66 สินเชื่อจะเติบโตได้ประมาณ 0.7% ytd อย่างไรก็ตาม คาดว่าสินเชื่อที่เติบโตขึ้นนี้จะมาจากสินเชื่อรายใหญ่ และสินเชื่อภาครัฐเป็นหลัก ซึ่งเมื่อรวมกับต้นทุนดอกเบี้ยที่เพิ่มขึ้นตาม การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยแล้ว อาจจะทำให้ส่วนต่างอัตราดอกเบี้ยของ KTB ใน 3Q66 ลดต่ำลง