ไร้ปัจจัยใหม่ๆ รอติดตามส่งออกเช้านี้

Market Update

ตลาดหุ้น Dow Jones เมื่อคืนปิดบวก 0.1% ภาพรวมไร้ปัจจัยใหม่ๆ นักลงทุนรอดูตัวเลขเศรษฐกิจต่างๆ และความเห็นของเจ้าหน้าที่ FED ด้านราคาน้ำมันดิบ WTI ปิดลบ 0.4% ถูกกดดันจากการแข็งค่าของดอลลาร์สหรัฐฯ

Market Outlook

เมื่อคืนที่ผ่านมา ไม่มีตัวเลขเศรษฐกิจที่สำคัญ นักลงทุนรอดูความเชื่อมั่นผู้บริโภค จากสถาบัน CB ของสหรัฐฯในคืนนี้ Bloomberg Consensus ประเมินไว้ที่ 105.5 รวมถึงยอดขายบ้านมือหนึ่งของสหรัฐฯ Bloomberg Consensus ประเมินไว้ที่ 6.9 แสนหลังคาเรือน หากทั้ง 2 ตัวเลขสูงกว่าคาดมองเป็นปัจจัยกดดันต่อตลาดหุ้นจาก ความกังวลเงินเฟ้อและดอกเบี้ย สำหรับการเคลื่อนไหวของแต่ละสินทรัพย์เมื่อคืน พบว่า US Bond Yield ทั้งรุ่นอายุ 2 และ 10 ปียังคงปรับขึ้นต่อเนื่อง สอดคล้องกับ Dollar Index ที่ปรับแข็งค่าและราคาทองคำที่ปรับลง ด้านค่าเงินบาทยังคงแนวโน้มการอ่อนค่า โดยการเคลื่อนไหวของแต่ละสินทรัพย์กำลังบ่งชี้ว่าตลาดหุ้นยังปรับขึ้นได้ยากในระยะสั้นแต่เงินบาทที่อ่อนค่าจะเป็นบวกกับหุ้นในกลุ่มส่งออก (KCE TU)

สำหรับในประเทศเช้านี้กระทรวงพาณิชย์มีกำหนดรายงานภาวะการค้าระหว่างประเทศ Bloomberg คาดการณ์มูลค่าส่งออกประจำเดือน ส.ค. หดตัว (-5%YoY) และมูลค่านำเข้าหดตัว (-10%YoY) พร้อมประเมินดุลการค้าขาดดุล 1.7 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ พร้อมแนะรอติดตามดุลบัญชีเดินสะพัดจากธนาคารแห่งประเทศไทยในวันศุกร์ Bloomberg Consensus คาดการณ์เกินดุล 500 ล้านดอลลาร์ สหรัฐฯ วันนี้ประเมิน SET INDEX เคลื่อนไหวในกรอบ 1500 – 1515 เชิงกลยุทธ์การลงทุนยังมองบวกกับตลาดหุ้นในระยะสั้น ด้วยการที่เชื่อว่านักลงทุน Price In ปัจจัยด้านดอกเบี้ยไปมากแล้ว และสถิติตลาดหุ้น 4Q มักเป็นช่วงที่ให้ผลตอบแทนเป็นบวก จึงแนะ Trading เน้นหุ้นที่ได้ประโยชน์จากภาครัฐ อาทิ ค้าปลีก (BJC CRC CPALL HMPRO) ท่องเที่ยว (AOT CENTEL ERW MINT SPA) ธนาคารพาณิชย์ (BBL KBANK KTB SCB) ศูนย์การค้า (CPN) ร้านอาหาร (M) ส่งออก (TU) สินค้า IT (COM7)

หุ้นแนะนำซื้อวันนี้

TU (ซื้อ / ราคาเป้าหมาย 16.90 บาท) 3Q23 เราคาดว่าผลประกอบการจะฟื้นตัวจาก 2Q23 ได้ โดยเฉพาะการฟื้นตัวในธุรกิจอาหารสัตว์เลี้ยงที่ลูกค้าเริ่มกลับมาสั่งของมากขึ้นแล้ว นอกจากนี้ในช่วงปลายไตรมาสยังมีโอกาส ได้รับผลดีจากราคาปลาทูน่าที่ปรับตัวลดลงหลังจากยืนที่ระดับ 2,000 เหรียญสหรัฐฯ/ตัน มาตั้งแต่ต้นไตรมาส 2 ที่ผ่านมา

AOT (ซื้อ / ราคาเป้าหมาย 82.00 บาท) ช่วง FY4Q23 อาจเห็นการชะลอตัวเล็กน้อยเพราะเป็นช่วง Low Seasons และการรับรู้ค่าใช้จ่ายสำหรับอาคาร SAT-1 ที่จะเปิดในช่วงกลางเดือน ก.ย. นี้ ทั้งนี้เรายังประมาณการกำไรทั้งปีไว้ที่ 9,996 ล้านบาท และคาดว่าจะเติบโตเป็น 29,365 ล้านบาทใน FY24 หลังได้รับผลดีจากการเก็บส่วนแบ่งรายได้จาก King Power ในอัตราใหม่เข้ามาเต็มปี

- Advertisement -