บล.ฟิลลิป: 

ITC เห็นการฟื้นตัวใน 3Q66

IAA Consensus TP’66 : 16.00 – 30.00

คาด 3Q66 รายได้เพิ่มราว 5-10% q-q ได้ลูกค้ารายใหญ่เพิ่ม  และเห็นลูกค้าเดิมเริ่มกลับเข้ามาสั่งซื้อเพิ่มขึ้น ทั้งฝั่งยุโรปและสหรัฐ คาด GPM ดีขึ้น q-q จากการปรับราคาขายเพิ่ม และมีปริมาณการขายที่เพิ่มขึ้น ทำให้ต้นทุน/หน่วยลดลง แต่ไตรมาสนี้อาจเห็นขาดทุนจากค่าเงิน มอง 4Q66 ยังคงเห็นการฟื้นตัวต่อเนื่อง และจะได้รับผลจากต้นทุนทูน่าที่ลดลงได้เต็มไตรมาส

  • ลูกค้ากลับมาซื้อเพิ่ม: 3Q66 คาดรายได้เติบโตราว 5-10%q-q ยอดขายฝั่งสหรัฐดีขึ้นq-q ลูกค้ากลับเข้ามาซื้อเพิ่มจากทั้งแบรนด์ใหญ่และลูกค้า retailer ในสหรัฐ และไตรมาสนี้ได้เริ่มจัดส่งสินค้าให้กับลูกค้าแบรนด์ใหญ่รายที่ 4 ในสหรัฐ ซึ่งรวม 4 รายใหญ่ในสหรัฐ คิดเป็นสัดส่วนราว 47% ของรายได้รวม ยอดขายในโซนยุโรปดีขึ้น q-q ได้มีการเริ่มส่งสินค้าให้กับลูกค้ารายใหญ่ในฝั่งเศส แสดงถึงการหาลูกค้าใหม่ๆได้อย่างต่อเนื่อง ส่วนหนึ่งมาจากการพัฒนาสินค้าใหม่ๆอย่างต่อเนื่อง และสามารถปรับตัวสินค้าให้คู่ค้าเข้าถึงจากในระดับราคาที่ดีขึ้น โดยรวมยังคงเห็นผลกระทบจากภาวะเงินเฟ้อและการลดระดับสินค้าของลูกค้าอยู่บ้าง คาดว่า 4Q66 จะดีขึ้นตามลำดับ ส่วนต้นทุนขาย คาดดีขึ้น q-q จาก 1.) ปรับราคาขายเพิ่มขึ้น 5% ใน 3Q66 กับลูกค้าบางราย 2.) ได้ประโยชน์ค่าเงินบาทที่อ่อนค่าขึ้น 3.) มีปริมาณการขายที่เพิ่มขึ้นทำให้ต้นทุน/หน่วยต่ำลง 4.) สัดส่วนการขายสินค้า Premium ที่ 44.2% สูงขึ้นกว่าในช่วง1H66 5.) ราคาวัตถุดิบทูน่าที่ปรับตัวลดลงในช่วง 3Q66 เฉลี่ยอยู่ที่ 1,850 USD/ton (2Q66 ที่ 2,000 USD/ton) ราคาอกไก่ 90 บาท/กก. (2Q66 ที่ 92 บาท/ กก.) ซึ่งจะส่งผลต่อต้นทุนตั้งแต่เดือน .. เป็นต้นไป และในไตรมาสนี้อาจเห็นขาดทุนจากค่าเงิน
  • ปี 67 ยังเติบโต: การเติบโตระยะยาวของตลาดอาหารสัตว์เลี้ยงเฉลี่ยที่ 6.2%CAGR แต่ผู้บริหารยังมองว่า ITC โตได้มากกว่าตลาด คาดปี 67 เติบโต 15%y-y ไปอย่างสม่ำเสมอ จากการขยายธุรกิจในสหรัฐ ยุโรป และจีน ส่วนโรงงานใหม่เริ่มผลิตได้ต้นปี2567 จะทำให้มีกำลังผลิตเพิ่มขึ้น 18.7%y-y ซึ่งในช่วงปีแรกๆของการลงทุนจะมีค่าเสื่อม/หน่วยที่สูง อาจมีผลกระทบต่อ GPM ในปี 67
- Advertisement -