หมดแรง อาจแดงอีกวัน / 1,475-1,490

มุมมองตลาดหุ้นวันนี้

  • SET ค่อยๆ ซึมลง : หลังวานนี้ SET เผชิญแรงขายช่วงท้ายตลาดปิดลบกว่า 15.01 จุด (-1.00%) แรงกดดันจากfund flow ต่างชาติยังไหลออก มองวันนี้แรงซื้อขายอาจเริ่มเบาบาง ส่วนหนึ่งรับวันหยุดยาวต่อเนื่องช่วงวันชาติจีน ด้านปัจจัยเฉพาะกลุ่ม วานนี้ BBL นำร่อง ประกาศปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเงินกู้อีก 0.25% และเงินฝากอีก 0.10-0.25% คาดจะเป็นแรงขับเคลื่อนให้กลุ่มธนาคารน่าสนใจในวันนี้ ผ่าน NIM ที่ปรับตัวขึ้นตาม ขณะที่ปัจจัยภายนอกตลาดหันมาจับตาการประกาศตัวเลข Core PCE และ PCE สหรัฐเดือน ส.ค. โดยคาด ขยายตัว 3.9%y-y และ 3.5%y-y หลังขยายตัว 4.2%y-y และ 3.3%y-y ตามลำดับ ในเดือนก่อน โดยมองอิทธิพลจากราคาพลังงานที่ ปรับตัวขึ้นในช่วงเดือนในช่วงเดือน ก.ค. และ ส.ค. อาจทำให้ตัวเลขดังกล่าวออกมาสูงกว่าที่ตลาดคาด และเฟดอาจต้องพิจารณาปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีกครั้งอย่างไรก็ดีวานนี้ตัวเลข GDP 2Q66 สหรัฐที่ออกมาตามคาดที่ +2.1%q-q และถ้อยแถลงของนาย Jerome Powell ที่ไม่ได้ชี้นำสัญญาณใดๆ ที่เกี่ยวข้องกับเศรษฐกิจหรือนโยบายการเงินจึงไม่ได้สร้างแรงผลักดันใหม่ให้ตลาดด้าน Bond Yield สหรัฐ และ Dollar Index ที่เคยคงตัวในระดับสูงกดดันภาพรวมตลาดสินทรัพย์เสี่ยงช่วงก่อนหน้า เริ่มชะลอตัวลงสั้นๆ ลดแรงกดดันต่อภาพรวมการลงทุนลงบ้าง ขณะที่นลท. กำลังติดตามตัวเลขศก. และประเด็น US Government Shutdown ในวันที่ 1 ต.ค. นี้ หากงบประมาณชั่วคราวไม่สามารถผ่านการอนุมัติจากสภาคองเกรสได้ทันภายในวันที่ 30 ก.ย. โดยหน่วยงานกลางของรัฐบางส่วนจะต้องเริ่มหยุดทำการชั่วคราว และอาจส่งผลลบให้ภาพรวมเศรษฐกิจที่กำลังฟื้นตัวอีกครั้ง โดยภาพรวมมองปัจจัยใหม่มีค่อนข้างจำกัด คาดตลาดอิงทางพักฐานไปก่อนเพื่อรอปัจจัยใหม่ที่จะเข้ามาผลักดัน
  • กลยุทธ์การลงทุน : 1) Defensive play: BCH, BDMS, BH, CHG 2) ดอกเบี้ยขาขึ้น: BBL, KBANK, TTB, TISCO 3) บาทอ่อนค่า : TU, KCE, HANA 4) เก็งงบ 3Q66 : ADVANC, SPALI, AOT 5) Selective: BCP, PRM, PSL

ปัจจัยบวก

  • โตโยต้าเผยยอดผลิตรถยนต์ทั่วโลกเพิ่มขึ้น 4% แตะที่ระดับ 798,771 คันในเดือนส.ค. เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว ซึ่งถือเป็นระดับสูงเป็นประวัติการณ์สำหรับเดือนส.ค.
  • ฟิทช์ ประกาศคงอันดับเครดิตสากล EXIM Bank ที่ ‘BBB+’ แนวโน้ม มีเสถียรภาพ สร้างความเชื่อมั่นให้นักลงทุนต่างชาติ
  • สศค. เผย ดัชนีเชื่อมั่นเศรษฐกิจภูมิภาค เดือน ก.ย. แนวโน้มดีขึ้น ตามการท่องเที่ยวและการลงทุน
  • รฟม.ไฟเขียวปรับลดค่าโดยสารสายสีม่วง โดยจะเริ่ม 1 ธ.ค.นี้ คาดจะสูญรายได้กว่า 190 ล้านบาท แต่จะเป็นบวกต่อค่าครองชีพประชาชน โดยข้อเสนอทั้งหมดจะยื่นเสนอต่อกระทรวงคมนาคมในวันนี้

ปัจจัยลบ

  • ม.หอการค้าฯ ปรับลดประมาณการศก.ไทยปี 66 ลงมาที่ 3.0% จากเดิม 3.6% เนื่องจาก GDP2Q66 ชะลอตัวกว่าที่คาด การส่งออกปรับตัวลดลงมากกว่าที่คาด ปัญหาความล่าช้าในการจัดทำงบประมาณปี รวมถึงปรากฏการณ์เอลนีโญ
  • สศอ.เผยดัชนี MPI เดือนส.ค.อยู่ที่ระดับ 91.85 ลดลง 7.53% y-y เป็นผลจากการส่งออกที่ชะลอตัวตามภาวะศก.โลก รวมถึง ศก.ในประเทศที่ยังฟื้นตัวช้า
  • จีนเข้าสู่ช่วงวันหยุดยาววันชาติ คาดสินค้า Commodity จะมีแรงชื้อขายเบาบางในช่วงดังกล่าว
  • รมว.แรงงานชี้จะขึ้นค่าแรงในปีใหม่นี้โดยยืนยันการขึ้นค่าแรงจะ ไม่กระทบ SME แต่ทางฝ่ายมองอาจต้องระวังการปรับขึ้นค่าแรงทั้งระบบ อาจเพิ่มต้นทุนให้การประกอบกิจกรรมทางเศรษฐกิจ

PICKS OF THE DAY

AOT BUY

  • เป้าหมาย 71.00 / 73.00  แนวรับ 67.00 / 68.00
  • คาดกำไร 4Q66 ฟื้น q-q และ y-y: จากตัวเลขผู้โดยสารและเที่ยวบินใน2M4Q66 +54.5% และ +36.6% y-y และเฉลี่ยรายเดือนสูงกว่า 3Q66 และ ก.ย. มีแนวโน้มดีต่อเนื่อง ซึ่งการ เติบโตมาจากการบินระหว่างประเทศที่มีรายได้สูงกว่าคนไทย คาด 4Q66 รายได้และกำไรโตทั้ง q-q และ y-y
  • ฟรีวิซ่า นทท. จีนส่งผลดีใน 1H67: ฟรีวีซ่า นทท.จีนและคาซัคสถานที่ใช้ 25 ก.ย. 66 – 29 ก.พ. 67 ซึ่งตรงกับ high season การท่องเที่ยวของไทย และยังตรงกับเทศกาลสำคัญ ไหว้พระจันทร์และวันชาติจีนในช่วง 29 ก.ย.-6 ต.ค.  และตรุษจีนช่วง 9-15 ก.พ. 67 คาด นทท. จีนเดินทางเข้ามามากขึ้น ในขณะที่ชาติอื่น ๆ ก็ยังคงฟื้นตัวได้ต่อเนื่องทำให้การดำเนิน งานยังดีได้ต่อเนื่อง

HANA BUY

  • เป้าหมาย 63.00 / 65.00 แนวรับ 60.00
  • ยอดขายเซมิคอนฯเติบโต: ยอดขายเซมิคอนฯทั่วโลก เดือน ก.ค. ที่ 43.2 พันล้านดอลลาร์ +2.3% จากเดือน มิ.ย. เพิ่มขึ้นจากภูมิภาค อเมริกา จีน ยุโรป และเอเซีย ตามลำดับ ซึ่ง HANA จะได้ประโยชน์ไปด้วยเนื่องจากธุรกิจอยู่ในช่วงกลางน้ำของอุตสาหกรรม เป็นผู้ประกอบและทดสอบแผงวงจร (PBCA) และให้บริการด้านอิเล็กทรอ นิกส์แบบครบวงจร (EMS)
  • ได้ประโยชน์บาทอ่อน: HANA ผลิตสินค้าอยู่ในหลายอุตสาหกรรม แม้สัดส่วนรายได้กลุ่ม telecom ลดลง แต่ยังมีกลุ่ม Auto และ medical ขึ้น มาทดแทนในปีนี้ แสดงถึงมีการกระจายรายได้ค่อนข้างดี ระดับรายได้ไม่ผันผวนมาก ค่าเงินบาท(อ่อนค่า)จึงเป็นปัจจัยที่มีผลต่อทิศทางของ GPM และกำไรสุทธิ
- Advertisement -