ปาดเหงื่อ เลี่ยง Shutdown / 1,460-1475

มุมมองตลาดหุ้นวันนี้

  • SET เปิดบวกได้แต่อาจยืนไม่อยู่: แรงหนุนจากปัจจัยภายนอกทั้งฝั่ง Eurazone เมื่อคืนวันศุกร์ที่ผ่านมา เผยดัชนี CPI และ Core CPI ลดลงจาก ส.ค.ที่ 5.2% และ 5.3% สู่เดือนก.ย.ที่ 4.3% และ 4.5% และฝั่งสหรัฐเผยจู๊ชนี PCE และ Core PCE เดือน ส.ค. อยู่ในระดับที่คาดไว้ 3.5%y-y และ 3.9%y-y ตามลำดับ ช่วยลดแรงกดดันต่อรนาคารกลางสำคัญ ทั้ง ECB และ FED ในการใช้นโยบายทางการเงินแบบเข้มงวดลงไปได้บ้าง แม้ว่า Dotplot จะยังสะท้อนมุมมองของจนท.เฟดหลายรายยังสนับสนุนขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีกครั้งในปีนี้ โดย CME FedWatchtod ยังเชื่อว่ารอบประชุม 1 พ.ย.นี้ เฟดจะยังคงอัตราดอกเบี้ยระดับ 5.25-5.50% และใช้อัตราดังกล่าวไปถึงกลางปีหน้า ปัจจัยหนุนตลาดหุ้นภูมิภาคสำคัญอีกหนึ่งอย่าง คือ สภาคองเกรสของสหรัฐผ่านร่างกฎหมายงบประมาณชั่วคราวด้วยมติ 335:91 เสียง และผ่านวุฒิสภา 889 เสียง ทำให้ปธน.สหรัฐลงนามกฎหมายชั่วคราวได้ทัน และทำให้สหรัฐลดความเสี่ยงในการถูกหั่น Credit Rating หลังจากที่ก่อนนี้ทาง Moody’s ได้ส่งคำเตือนหาก Shutdown หน่วยงานจะกระทบต่อ Credit Rating ของสหรัฐ ด้านราคานํ้ามัน WTI, BRENT ยังทรงตัวระดับสูงที่ 90 และ 92 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ตามลำดับ ทำให้ภาพรวมตลาดน้ำมันยังดึงตัวแม้ว่าซาอุฯ มีแนวโน้มจะกลับมาเพิ่มกำลังการผลิต แต่ดัชนี PMI ภาคการผลิตจีนที่พลิกจาก ส.ค. ที่ 49.7 จุด มาสู่เดือนก.ย.ที่ 50.2 จุด ทำให้อุปสงค์จากจีนช่วยพยุงและจะเป็นแรงหนุนต่อกลุ่มพลังงานในช่วงที่น้ำมันเข้า High Season อย่างไรก็ตาม แรงหนุนต่อดัชนีอาจจำกัดจากภาพรวมต่างชาติยังขายหุ้นไทยจบเดือนก.ย.ที่ 2.19 หมื่นลบ.MTD, และขาย 1.57 แสนลบ. YTD ทางฝ่ายแนะนำนักลงทุนซื้อขายโดย Selective Play ในหุ้นที่คาดจะเผยงบ 3Q66 เชิงบวก, ได้ประโยชน์จากบาทอ่อน เป็นต้น และตลอดสัปดาห์นี้จีนปิดทำการ
  • กลยุทธ์การลงทุน: 1) ดอกเบี้ยขาขึ้น:BBL, KBANK, KTB, TTB 2) DefensiveStock: ADVANC, BDMS, BH, 3) หุ้นรับนักท่องเที่ยวจีน: CENTEL, ERW,TKN, 4) จับจ่ายใช้สอย: BJC, CPN, CRC 5) ค่าเงินบาทอ่อนค่า: HANA, KCE, TU 6) กลุ่มโรงกลั่น: PTTEP, TOP, SPRC

ปัจจัยบวก

  • ธปท. เผย ศก. ไทยเดือนส.ค. กำลังฟื้นตัวจากภาคท่องเที่ยว ซึ่งสอดคล้องกับอธิบดีกรมธุรกิจพลังงานที่รายงานภาพรวมการใช้น้ำมันเดือน ม.ค.-ส.ค.อยู่ที่ 154.88 ล้านลิตรต่อวัน (+2.3%y-y) โดยนํ้ามันอากาศยานเฉลี่ยอยู่ที่ 13.3 ล้านลิตรต่อวัน(+70%y-y)
  • รมว.คลังเผย ไม่มีนโยบายเก็บภาษีธุรกรรมขายหุ้นและยังไม่มีนโยบายพิจารณาภาษีกำไรจากการขายหุ้น มองเป็นผลดีต่อภาคการส่งเสริมลงทุนในไทย
  • รมช.คลัง ขอให้แบงก์รัฐตรึงดอกเบี้ยเงินกู้ ขณะที่ออมสินและ ธอส.ประกาศตรึงดอกเบี้ยเงินกู้ถึงสิ้นปี 2566

ปัจจัยลบ

  • แม้วันศุกร์ที่ผ่านมาต่างชาติจะซื้อหุ้นไทย 1,071 ลบ. แต่ยอดรวม เดือน ก.ย.ขายสุทธิในหุ้นไทย 21,973 ลบ. และขายสุทธิแล้วกว่า 157,171 ลบ. YTD
  • ทางการเยอรมนีเผยว่ากำลังคุมเข้มการกำกับดูแลคัดกรองการลงทุนในจีน วัตถุประสงค์เพื่อกีดกันจีนจากอุตสาหกรรมของเยอรมนี
  • ธปท.เผยการส่งออกไทยเดือน ส.ค.หดตัว 1.8% จากอุปสงค์คู่ค้าที่ชะลอตัว ขณะที่สินค้าเกตรลดลงจากทุเรียนที่ส่งออกไปจีนหมดฤดูเก็บเกี่ยว
  • บริษัทที่ปรึกษาด้านพลังงาน Rapidan Group เผยว่า ซาอุฯ ซึ่งจะทบทวนนโยบายน้ำมันทุกเดือนนั้น อาจกลับมาเพิ่มกำลังผลิตน้ำมันอีกครั้ง หลังราคาน้ำมัน BRENT สูงกว่า 90 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล PICKS OF THE DAY  Krungthai กรุงไทย BUY BUY

PICKS OF THE DAY

KTB BUY

  • เป้าหมาย 19.70/20.50 แนวรับ 18.50
  • ได้ประโยชน์จากโครงการรัฐ: เป็นธนาคารที่มีสัดส่วนสินเชื่อภาครัฐอยู่มากที่สุดในกลุ่มธนาคาร โดย ณ สิ้น 2Q66 มีอยู่ 19% ของสินเชื่อทั้งหมด ซึ่งคาดว่าจะได้ประโยชน์จากโครงการลงทุนต่าง ๆ ทั้งจากความต้องการสินเชื่อ และได้ประโยชน์จากแอปเป๋าตัง
  • ส่วนต่างอัตราดอกเบี้ยเติบโตสูงที่สุดในช่วงดอกเบี้ยขาขึ้น: ในช่วงอัตราดอกเบี้ยขาขึ้นที่ผ่านมา KTB เป็นธนาคารที่มีส่วนต่างอัตราดอกเบี้ยเพิ่มขึ้นมากที่สุด โดยเพิ่มขึ้นถึง 0.4% ในขณะที่ค่าเฉลี่ยของกลุ่มธนาคารเพิ่มขึ้นเพียง 0.16%

ERW BUY

  • เป้าหมาย 5.70/5.85 แนวรับ 5.30/5.40
  • ปรับเป้าการเติบโตของรายได้ปี 66 เพิ่มเป็น 50%: ผลประกอบการทำ New High ของ กำไรไตรมาส 2 สะท้อน Momentum เชิงบวกที่มีต่อการท่องเที่ยว ในประเทศไทย โดยธุรกิจโรงแรม Hop in, ชั้นประหยัด และ ชั้นกลาง เป็นกลุ่มที่ฟื้นตัวได้ดีจากทั้งนักท่องเที่ยวต่างชาติและไทย พร้อมปรับเป้ารายได้ทั้งปีโต 50% จาก 45%
  • คาดกำไร 3Q66 โตต่อ: คาด กำไรใน 3Q66 ยังคงโตต่อจากการฟื้นตัวของนักท่องเที่ยวเข้าสู่ช่วง High Season หนุนโรงแรม ระดับกลาง-หรูกลับมาฟื้นตัวได้ดีกว่าช่วงครึ่งปีแรก
- Advertisement -