วันนี้คาดตลาด “Rebound”

แนวรับ 1,470 / 1,460 แนวต้าน 1,474 / 1,487 คาดได้รับจิตวิทยาเชิงบวกจากตลาดต่างประเทศ หลังสหรัฐผ่านกฎหมายงบประมาณชั่วคราว รอดพ้นการเกิด Government Shutdown อีกครั้ง ขณะที่ US-Bond Yield เริ่มอ่อนตัวลง คาดหนุนทิศทางตลาดรีบาวด์ได้

Our View? “เด้งบ้าง”

คาดตลาดวันนี้ “Rebound” มองแนวรับที่บริเวณ 1,470 / 1,460 และแนวต้านที่บริเวณ 1,474 / 1,487 เรามองตลาดอาจจะได้รับจิตวิทยาเชิงบวกจากการที่ ปธน. โจ ไบเดน ลงนามกฎหมายงบประมาณชั่วคราวระยะเวลา 45 วัน ครอบคลุมถึงการจัดสรรงบประมาณสําหรับภารกิจการบรรเทาภัยพิบัติวงเงิน 1.6 หมื่นล้านดอลลาร์ แต่ไม่รวมงบประมาณที่จะให้ความช่วยเหลือแก่ยูเครน ซึ่งส่งผลให้สหรัฐรอดพ้นการเกิด Government Shutdown อีกครั้ง เป็นจิตวิทยาเชิงบวกต่อทิศทางราคาสินทรัพย์เสี่ยงได้บ้างในระยะสั้น

อย่างไรก็ตามเมื่อคืนวันศุกร์ที่ผ่านมากระทรวงพาณิชย์สหรัฐรายงานตัวเลขดัชนีราคาการใช้จ่ายเพื่อการบริโภคส่วนบุคคล (PCE) เดือน ส.ค. ออกมาที่ระดับ +0.4%MoM/ +3.5%YoY เท่ากับที่ตลาดคาดการณ์ไว้ ขณะที่ตัวเลข Core PCE เดือน ส.ค. ออกมาที่ระดับ +0.1%MoM / +3.9%YoY ใกล้เคียงที่ตลาดคาดเช่นกัน สะท้อนภาพเงินเฟ้อสหรัฐทยอยตัวปรับลดลงบ้าง แม้ยังอยู่ในระดับสูงอยู่ก็ตาม ในส่วนของการเคลื่อนไหวของดอลลาร์สหรัฐเริ่มชะลอกำลังลงบ้างแล้วโดย Dollar Index เช้านี้อยู่ที่ระดับ 106.1+/- จากการขึ้นทำจุดสูงสุดก่อนหน้าที่ระดับ 106.8+/- อีกทั้งอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐ (US-Bond Yield) รุ่นอายุ 10 ปีเช้านี้อยู่ที่ระดับ 4.57%+/- เริ่มชะลอกำลังลงบ้างแล้ว คาดจะช่วยหนุนทิศทางราคาสินทรัพย์เสี่ยงพื้นตัวขึ้นได้บ้าง คาดมีโอกาสที่อาจเห็นแรง Cover Short กลับได้บ้างในระยะสั้น อีกทั้งเรายังมีมุมมองเชิงบวกต่อการรายงานตัวเลขดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตของจีนเดือน ก.ย. ในวันพรุ่งนี้คาดจะออกมาที่ระดับ 50.2 มากกว่าที่ตลาดคาดเล็กน้อย อีกทั้งยังฟื้นตัวกลับขึ้นมายืนเหนือระดับ 50.0 แล้วบ่งชี้ภาคการผลิตจีนเริ่มกลับมาอยู่ในภาพของการขยายตัวอีกครั้ง เรามองเป็นปัจจัยบวกต่อทิศทางตลาดในภูมิภาคได้

ทางด้านราคาสัญญาน้ำมันดิบล่วงหน้า WTI. ส่งมอบเดือน พ.ย. เมื่อคืนนี้วันศุกร์ที่ผ่านมาเริ่มอ่อนตัวลงแล้วปิดที่ระดับ 90.79 ดอลลาร์/บาร์เรล -0.92 ดอลลาร์ (-1.00%) โดยได้รับปัจจัยลบจากประเด็นแนวโน้มซาอุดิอาระเบียอาจกลับมาเพิ่มกำลังการผลิตน้ำมันหลังจากราคาน้ำมันปรับตัวขึ้นในช่วงที่ผ่านมา เร็วกว่าที่ตลาดคาดไว้ เนื่องจากไม่ต้องการให้เกิดภาวะน้ำมันตึงตัวมากเกินไป ซึ่งอาจส่งผลให้เศรษฐกิจโลกถดถอยได้และจะส่งผลกระทบถึงความต้องการน้ำมัน อย่างไรก็ตาม แนะนำติดตามการประชุมคณะกรรมการร่วมด้านการตรวจสอบระดับรัฐมนตรี (JMMC) เพื่อรอดูสัญญาณของนโยบายกำลังการผลิตของ OPEC+ อีกครั้ง คาดจะกดดันทิศทางหุ้นในกลุ่มพลังงานอ่อนตัวปรับฐานใหม่ถ่วงตลาดหุ้นไทยได้

สำหรับปัจจัยในประเทศเรายังคงมุมมองเชิงบวกต่อตัวเลขส่งออกของไทยเดือน ส.ค. ออกมาสวนทางจากที่ตลาดคาดไว้ +2.60%YoY และพลิกกลับขึ้นมาขยายตัวแล้ว ขณะที่ตัวเลขนําเข้าลดลง เพิ่มขึ้น -12.8%YoY ส่งผลให้ดุลการค้าของไทยกลับมาเป็นบวก 360 ล้านบาทมองเป็นปัจจัยบวกต่อทิศทางหุ้นในกลุ่มชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ (KCE และ HANA) ได้ อีกทั้งเราคาดการที่ตลาดปรับลดลงอยู่ในระดับต่ำกว่า 1,500 ส่งผลให้ความน่าสนใจในเชิง Valuation มากขึ้น โดยล่าสุดซื้อขายกันเพียง Fwd PE 16.7 เท่า หรือราวค่าเฉลี่ยย้อนหลัง 5 ปี –0.5 S.D. เรามองเป็นปัจจัยที่ช่วยทำให้ Downside ของ SET Index เริ่มลดลงได้บ้าง สัปดาห์นี้แนะนำติดตามการรายงานตัวเลขดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) เดือน ก.ย. ของไทย คาดจะออกมาที่ระดับ -0.15%MoM / +0.70%YoY สะท้อนถึงกำลังซื้อในประเทศที่ยังอ่อนแอต่อเนื่อง

ธีมการลงทุน “Selective Play”

หุ้นแนะนำวันนี้ “BBL”

  • เราคาดกำไร 3Q66 จะออกมาที่ 9,341 ลบ. ลดลง 18%QoQ แต่เพิ่มขึ้น 22%YoY โดย NIM ยังคงปรับตัวขึ้นได้เล็กน้อย ขณะที่เรามอง L/D Ratio ของ BBL ต่ำที่สุดในกลุ่มธนาคาร 82.3% ซึ่งจะทำให้ NIM ของ BBL สามารถปรับเพิ่มขึ้นได้แรงกว่าธนาคารขนาดใหญ่อื่นๆ เนื่องจากสามารถปล่อยสินเชื่อในภาวะดอกเบี้ยขาขึ้น โดยไม่ต้องระดมเงินฝากเพิ่มขึ้น
  • ทางเทคนิค ราคา Breakout ที่เส้นแนวโน้มขาลงทำจุดสูงสุดใหม่ พร้อม Vol. หนาแน่น MACD วกตัวขึ้น และ SSTO ให้สัญญาณซื้อ แนะนำ “ซื้อสะสม”
  • กลยุทธ์ ซื้อสะสม แนวรับ 166.50 / 165.00 Target 170.00 / 175.00 Stop <164.50

- Advertisement -