ตลาดหุ้นวานนี้

SET Index ลดลง 2 จุด (-0.13%) ปิดที่ระดับ 1,469 จุด Fund flow ต่างชาติยังไหลออก กดดันหุ้น Big Cap ปรับตัวลงกดดันดัชนี อาทิ กลุ่มธนาคาร, โรงกลั่น, ปิโตรฯ, โรงไฟฟ้า และ ไฟแนนซ์

แนวโน้มตลาดหุ้นวันนี้

ประเมิน SET อ่อนตัวแนวรับ 1,460 – 1,465 จุด ภาวะตลาดขาดปัจจัยใหม่กระตุ้นการลงทุน โดยแรงกดดันหลักยังคงเป็น Fund flow ต่างชาติไหลออกจากความ กังวล FÈD คงดอกเบี้ยระดับสูงเป็นเวลานานเพื่อสกัดเงินเฟ้อ นอกจากนี้ราคาน้ำมันดิบที่ทรุดตัวลงแรงหลุด 90 US/Barrels นั้นเป็นลบต่อกลุ่มพลังงานและดัชนี จึงแนะนำรอซื้อช่วงอ่อนตัวแบบ Selective buy

กลยุทธ์การลงทุน: Selvectie buy

  • TU ITC AAI ASIAN CFRESH MEGA KCE HANA อานิสงส์เงินบาทอ่อนค่า
  • BBL SCB KBANK KTB BLA TLI อานิสงส์ US bond yield ดีดตัวขึ้น
  • ADVANC INTUCH BEM BTS BDMS BCH กลุ่ม Defensive ช่วงตลาดพักตัว

หุ้นแนะนำวันนี้

  • CENTEL (ปิด 47.25 ซื้อ/เป้า IAA Consensus 53 บาท) ดักเก็งกำไร คาดได้ประโยชน์โดยตรงจากจำนวนนักท่องเที่ยวที่คาดว่าจะเร่งตัวขึ้นตั้งแต่ปลายสัปดาห์นี้ เนื่องจากเป็นช่วงหยุดยาวหรือ Golden week ของชาวจีนผสานกับไทยให้ฟรีวีซ่าจีนเริ่ม 25 ก.ย.23 – ก.พ. ปีหน้า
  • TU (ปิด 14.60 ซื้อ/เป้า IAA Consensus 16.50 บาท) รับอานิสงส์ค่าเงินบาทอ่อนค่าสู่ระดับ 37 บาทต่อดอลลาร์ อ่อนค่ามากสุดในรอบ 10 เดือน ขณะที่ราคาทูน่าซึ่งเป็นวัตถุดิบหลักลดลงสู่ระดับ 1,700/ton ในเดือน ก.ย. ลดลงต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 3

บทวิเคราะห์วันนี้ AMATA, Media sector, SJWD

ประเด็นสำคัญวันนี้

(-) ธนาคารโลกลดคาดการณ์ GDP ในปีนี้และปีหน้าของกลุ่มประเทศเอเชียตะวันออกรวมทั้งประเทศไทย: ธนาคารโลก (World bank) ปรับลดคาดการณ์ GDP ของประเทศกำลังพัฒนาในเอเชียตะวันออกและแปซิฟิกในปีนี้เหลือ 5% จากเดิม 5.1% และคาดการณ์ GDP ปีหน้าที่ 4.5% จาก 4.8% ส่วนไทย World Bank ลดคาดการณ์ GDP ปีนี้เหลือโต 3.4% จากเดิม 3.6% และคาด GDP ปีหน้า โต 3.5% จากเดิม 3.7%

(+/-) ดัชนี PMI ภาคการผลิตของสหรัฐออกมาดีเกินคาดแต่ยังอยู่ในระดับต่ำกว่า 50: สหรัฐรายงานดัชนี PMI ภาคการผลิตเดือน ก.ย. ปรับตัวขึ้นสู่ระดับ 49.8 บ จาก 47.9 ในเดือน ส.ค. และมากว่าที่ Consensus คาดไว้ที่ 48.9 ในขณะเดียวกับ ดัชนีภาคการผลิตซึ่งจัดทําโดย ISM ก็ปรับขึ้นในทิศทางเดียวกันสู่ระดับ 49 จาก 47.6 ในเดือนส.ค. และมากกว่าที่ Consensus คาดไว้ที่ 47.8 (ดัชนี้ที่ต่ำกว่าระดับ 50 สะท้อนภาคการผลิตยังหดตัว)

(-) ราคาน้ำมันดิบร่วงแรงกังวลตุรกีและซาอุฯ กลับมาผลิตน้ำมันดิบเพิ่มขึ้น: ราคาน้ำมันดิบ WTI ลดลง 1.97$ (-2.2%) ปิดที่ระดับ 88,82$/bbl จาก 1) ดอลลาร์แข็งค่าขึ้นทําให้ราคาน้ำมันแพงขึ้นในมุมของผู้ซื้อที่ใช้เงินสกุลอื่น, 2) มีข่าวตุรกีเตรียมเตรียมเปิดท่อส่งน้ำมันดิบจากอิรัก Capacity 0.5 ล้านบาร์เรลต่อวันในสัปดาห์นี้จากที่ปิดไปราว 6 เดือน และ 3) มีข่าวซาอุฯ อาจจะกลับมาผลิตน้ำมันเพิ่มขึ้น

ข่าวในประเทศและต่างประเทศ

สรุปข่าวเศรษฐกิจในประเทศและต่างประเทศ

ไทย

(+) ดัชนีความเช่ือมั่นทางธุรกิจ เดือนก.ย.66 อยู่ที่ 50.4 ปรับเพิ่มขึ้นจากเดือนส.ค. ซึ่งอยู่ที่ระดับ 48.9

(+) ธนาคารโลก (World bank) คาดเศรษฐกิจไทยปี 66 ขยายตัว 3.4% จาก 2.6% ในปี 65 แต่ลดลงจากคาดการณ์ก่อนหน้านี้ที่ 3.9% ส่วนปี 67 คาด GDP จะขยายตัว 3.5% และขยายตัว 3.3% ในปี 68

(-) ดัชนี PMI ภาคการผลิตเดือน ก.ย.ลดลงสู่ระดับ 47.8 จาก 48.9 ต่ำกว่าที่ Consensus คาดไว้ที่ 49 และทําสถิติต่ำสุดในรอบ 2 ปี 4 เดือน

สหรัฐ

(+) ดัชนีภาคการผลิตเดือนก.ย. ปรับตัวขึ้นสู่ 49.0 จาก 47.6 ในเดือนส.ค. ทําสถิติสูงสุดต้ังแต่เดือนพ.ย.2565 และสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดที่ 47.7

(+) ISM รายงาน ดัชนี PMI ภาคการผลิตขั้นสุดท้าย เดือนก.ย. ปรับตัวขึ้นสู่ 49.8 จาก 47.9 ในเดือนส.ค. และสูงกว่าตัวเลขเบื้องต้นที่ระดับ 48.9

ยุโรป

(-) ยูโรโซน – ดัชนีราคาผู้บริโภคท่ัวไป (CPI) เดือนก.ย. อยู่ที่ 4.3% ลดลงจากระดับ 5.2% ในเดือนส.ค. และทําสถิติต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนต.ค. 2564

(-) ยูโรโซน – ดัชนี PMI ภาคการผลิตของยูโรโซนลดลงสู่ระดับ 43.4 ในเดือนก.ย. จากระดับ 43.5 ในเดือนส.ค.

เอเชีย

(+/-) จีน – ตลาดหุ้นจีนปิดทําการวันนี้ (3 ต.ค.) เนื่องในวันชาติ

 

- Advertisement -