บล.บัวหลวง: 

NEX – นี่แค่เริ่มต้น…

คุณคณิสสร์ ศรีวชิระประภา ซีอีโอของ NEX พูดในการประชุมออนไลน์กับทาง BLS ของเราเมื่อสัปดาห์ผ่านมาว่า เขาคาดว่าอัตรากำไรขั้นต้นของธุรกิจ EV จะอยู่ในกรอบ 10-12% บริษัทจะเปิดตัวรถกระบะไฟฟ้าในปีหน้า และมีแผนจะมีโชว์รูม 15 แห่งภายในเดือน มิ.ย. 2567

อัตรากำไรขั้นต้นของธุรกิจ EV ที่มั่นคง

แม้ว่า NEX จะส่งมอบรถ EV เพียง 487 คันในไตรมาส 2/66 เทียบกับ 563 ค้นในไตรมาส 1/66 แต่อัตรากำไรขั้นต้นในไตรมาส 2/66 อยู่ที่ 13.4% (เพิ่มขึ้นจาก 3.3% ในไตรมาส 1/66) ส่งผลให้กำไรสุทธิไตรมาส 2/66 ทำสถิติใหม่ที่ 353 ล้านบาท คุณคณิสสร์กล่าวว่าเขาคาดว่าจะสามารถรักษาระดับอัตรากำไรขั้นต้นไว้ได้ในกรอบ 10-12% เนื่องจากขณะนี้สายการผลิตใช้ได้เต็มประสิทธิภาพมากขึ้น อัตราค่าระวางเรือกลับสู่ปกติ ค่าไฟลดลง และ อัตราแลกเปลี่ยนอยู่ในระดับที่ดี ในครึ่งปีแรกของปี 2567 โรงงานร่วมทุนแห่งใหม่ (ผู้ถือหุ้นรายอื่นมี EA และบริษัทเทคโนโลยีของจีน) จะเริ่มผลิตมอเตอร์ไฟฟ้าสายไฟแรงสูง หน่วยควบคุมโดเมน (DCU) และหน่วยควบคุมแบตเตอรี่ (BCU)

แผนธุรกิจใหม่สำหรับปีหน้า

สายการผลิตรถกระบะ EV ใหม่ของ NEX เริ่มดำเนินการในไตรมาส 3/66 โดยมีแผนจะเปิดตัวรถดังกล่าวในงาน Thai Motor Expo ในเดือน พ.ย. ซึ่งการแข่งขันแตกต่างกับตลาดรถยนต์ไฟฟ้าผู้โดยสารอย่างมาก ซึ่งถูกแบรนด์จีนเข้ามาตีตลาด คุณคณิสสร์ไม่คิดว่าผู้เล่นรายใหญ่รายใดจะเปิดตัวรถกระบะไฟฟ้าในประเทศไทยในช่วงสองปีข้างหน้า NEX ได้ส่งมอบรถยนต์ไฟฟ้าให้กับ DHL (ประเทศไทย), Ceva Logistics, SUWD, Montri Transport และ PTTGC ซึ่งคาดว่าจะมีคำสั่งซื้อเพิ่มเติมในอนาคต

การผลิต EV ของบริษัทอาจเพิ่มขึ้นได้ถึง 18,000-27,000 คัน ซึ่งคิดเป็น 2-3 เท่าของกำลังการผลิต EV Bus ในปัจจุบันที่ 9,000 คัน นอกจากนี้คุณคณิสสร์ยังคาดว่าจะมีโชว์รูม NEX จำนวน 15 แห่งภายในเดือน มิ.ย.2567 และตั้งเป้ายอดขายรถกระบะ EV ในปี 2567 อยู่ที่ 1,500-3,000 คันสำหรับปี 2567 เราคาดว่าจะส่งมอบรถกระบะ EV 2,000 คัน และรถบัส EV 3,000 คัน และรถยนต์เพื่อการพาณิชย์อื่นๆ ซึ่งหมายถึงต้นทุนการผลิตเฉลี่ย/หน่วยที่ต่ำลง เนื่องจากรถปิคอัพ EV มีราคาถูกกว่าการผลิตรถโดยสาร

แนวโน้มรายได้ที่แข็งแกร่งจนถึงสิ้นปี 2566

บริษัทยังมีรถโดยสาร EV จำนวน 1,220 คันที่ยังต้องส่งมอบให้กับไทยสมายล์และเมื่อมีรัฐบาลชุดใหม่ เราคาดว่าคำสั่งซื้อจากหน่วยงานของรัฐบาลใหม่สำหรับรถยนต์เพื่อการพาณิชย์ EV รวมถึงเส้นทางรถโดยสารประจำทาง EEC จะเพิ่มมากขึ้น รัฐตั้งเป้าการการผลิตรถยนต์ 30% ให้เป็นรถยนต์ไฟฟ้า (BEV) นอกจากนี้ แท็กซี่จะค่อยๆเปลี่ยนไปใช้รถยนต์ไฟฟ้า เราจึงเห็นอัพไซด์มากขึ้นต่อประมาณการกำไรหลักปี 2567 จากการจัดซื้อจัดจ้างหน่วยงานภาครัฐชุดใหม่ โดยเริ่มจากการประมูลรถบรรทุกขยะ EV มูลค่า 7,500 ล้านบาท คุณคณิสสร์คาดว่าข้อกำหนดอ้างอิง (TOR) สำหรับการประกวดราคารถบรรทุกขยะ EV จะเปิดตัวในเดือน ต.ค. 2566 เราได้ปรับการลงทุนของเราจากสิ้นปี 2566 ไปเป็น 2567 โดยมี PER ที่ 18 เท่า (ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยระยะยาวของ NEX อยู่ 0.5 ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน) และราคาเป้าหมายใหม่ที่ 15 บาท

- Advertisement -