บล.บัวหลวง: 

SC Asset Corporation (SC TB /SC.BK)

SC – 4 เหตุผล ที่มองว่าตอนนี้ SC ถูกเกินไป

ราคาหุ้น SC ปรับตัวลง 17% ในช่วงเดือนที่ผ่านมา แม้ว่า: 1) ยอดจองซื้อไตรมาส 3/66 มีแนวโน้มเติบโตเร็วที่สุดในบรรดาคู่แข่ง 2) ยอดเปิดตัวโครงการและยอดจองซื้อนับตั้งแต่ต้นปีจนถึงปัจจุบันมีแนวโน้มจะบรรลุเป้าหมายทั้งปี 3)mคาดกำไรหลักไตรมาส 3/66 แข็งแกร่ง และ 4) ราคาหุ้นอยู่ในระดับราคาไม่แพง

ยอดจองซื้อในไตรมาส 3/66 เป็นผู้นำการเติบโตในกลุ่มอสังหาฯ

เราคาดว่า SC จะรายงานยอดจองซื้อไตรมาส 3/66 ที่ 8.5 พันล้านบาทเพิ่มขึ้น 65% YoY และ 16% QoQ เราคาดยอดขายโครงการแนวราบในไตรมาส 3/66 ที่ 4.3 พันล้านบาท เพิ่มขึ้น 3% YoY (แต่ลดลง 20% QoQ) หนุนโดยโครงการใหม่ที่เปิดตัวในไตรมาส 3/66 (1 หมื่นล้านบาท) ซึ่งทั้งหมดเป็นโครงการบ้านเดี่ยวระดับบน ยอดขายโครงการคอนโดในไตรมาส 3/66คาดว่าจะอยู่ที่ 4.2 พันล้านบาท เพิ่มขึ้น 329% YoY และ 117% QoQ ยอดขายโครงการคอนโดที่คาดว่าจะแข็งแกร่งเนื่องจากกำหนดเปิดตัวโครงการในไตรมาส 2/66 ได้แก่ โครงการ COBE รัชดา-พระราม 9 (แบรนด์ใหม่เปิดตัว 24 มิ.ย. จำนวน 1,620 ยูนิต มูลค่าโครงการ 6.0 พันล้านบาท) และ The Scope Langsuan คอนโดระดับไฮเอนด์ (9.8 พันล้านบาท ปรับราคาจาก 8.6 พันล้านบาท เนื่องจากอุปสงค์ที่แข็งแกร่ง)

ยอดจองซื้อ 3 หมื่นล้านบาทคาดว่าจะทำได้จริง และดาวน์ไซต์มีจำกัด

SC ตั้งเป้ายอดจองซื้อปี 2566 ที่ 3 หมื่นล้านบาท เราคาดยอดจองซื้อนับตั้งแต่ต้นปีจนถึงปัจจุบันที่ 2.1 หมื่นล้านบาท (โครงการแนวราบ 62%, โครงการคอนโด 38%) เพิ่มขึ้น 21% YoY และคิดเป็น 70% ของเป้าหมายทั้ง ปี บริษัทมีตารางเปิดตัวโครงการเพิ่มขึ้นในไตรมาส 4/66 ที่ 1.3 หมื่นล้านบาท (โครงการแนวราบ 71%, โครงการคอนโด 29%) ลดลง 29% YoY (มูลค่าเปิดตัวโครงการในไตรมาส 4/65 ที่สูงผิดปกติ) แต่เพิ่มขึ้น 33% QoQ โครงการคอนโดระดับไฮเอนด์ที่น่าจับตามองรายหนึ่งในไตรมาส 4/66 คือ The Scope ประสานมิตร (74 ยูนิต, มูลค่าโครงการ 2.6 พันล้านบาท, 35 ล้านบาท/ยูนิต) เราคาดว่า SC จะรายงานยอดจองซื้อสูงสุดแห่งปีในไตรมาส 4/66 ได้แรงหนุนจากแผนการเปิดตัวโครงการที่เพิ่มขึ้น จนถึงขณะนี้โครงการที่อยู่อาศัยระดับไฮเอนด์ถูกจองอย่างดีในปีนี้ และกว่า 65% ของการเปิดตัวโครงการในครึ่งหลังของปี 2566 ของ SC นั้นเป็นโครงการระดับไฮเอนด์ ดังนั้น เราคาดว่าจะบรรลุเป้าหมายยอดจองซื้อทั้งปีที่ 3 หมื่นล้านบาท

กำไรหลักไตรมาส 3/66 แข็งแกร่ง (หนุนจากยอดขายโครงการระดับไฮเอนด์)

เราคาดกำไรหลักไตรมาส 3/66 ที่ 690 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 6% YoY และ 39% QoQ คาดการณ์การเติบโตของกำไรหลัก YoY และ QoQ นั้นเกิดจากยอดโอนโครงการที่เพิ่มขึ้นและอัตรากำไรขั้นต้นที่เพิ่มขึ้น (โครงการแนวราบระดับไฮเอนด์มักมีอัตรากำไรขั้นต้นสูง) เราคาดว่ายอดจองซื้อโครงการที่อยู่อาศัยในไตรมาส 3/66 อยู่ที่ 5.5 พันล้านบาท เพิ่มขึ้น 10% YoY และ 11% Q0Q ณ สิ้นเดือนมิ.ย. 2566 ยอดจองซื้อคิดเป็น 75% ของเป้าหมายยอดขายปี 2566 ของ SC ที่ 2.5 หมื่นล้านบาท ยูนิตส่วนใหญ่ที่โอนระหว่างไตรมาส 3/66 เป็นโครงการแนวราบระดับไฮเอนด์ (แบรนด์ แกรนด์ บางกอก บูเลอวาร์ด และบางกอก บูเลอวาร์ด) และคอนโดเดอะ สโคป หลังสวน (ยอดจองปลายเดือนมิ.ย. 2566 อยู่ที่ 1.3 พันล้านบาท) อัตรากำไรขั้นต้นจากการขายโครงการที่อยู่อาศัยน่าจะอยู่
ในช่วง 32.5-33.5% เพิ่มขึ้นจาก 32.6% ในไตรมาส 3/65 และ 31.3% ในไตรมาส 2/66 ประมาณการกำไร
หลัก 9 เดือนแรกของปี 2566 ของเราคิดเป็น 67% ของประมาณการทั้งปีของเรา

ตอนนี้คือจังหวะเข้าซื้อ เนื่องจากราคาหุ้นปรับตัวลงแรง

กำไรของ SC จะเติบโตทั้งไตรมาส 3/66 และ 4/66 ปัจจุบันหุ้น SC ซื้อขายที่ระดับราคาไม่แพงที่ PER ปี 2567 ที่ 5.8 เท่า ซึ่งลดลงอย่างมากจากค่าเฉลี่ยในปี 2549-2564 ที่ 7.5 เท่า เรายังคงคำแนะนำ  “ซื้อ” ที่ราคาเป้าหมายปี 2567 ที่ 5.20 บาท อิงจาก PER ที่ 7.5 เท่า (ค่าเฉลี่ยระยะยาวของ SC)

 

- Advertisement -