รับความเสี่ยงต่ำแนะชะลอการลงทุน

Market Update

ตลาดหุ้น Dow Jones เมื่อคืนปิดลบ 1.3% กลับมากังวลกับเงินเฟือสหรัฐฯหลังจากรายงานตลาดแรงงานที่แข็งแกร่ง ด้านราคาน้ำมันดิบ BRT ปิดบวก 0.2% จากแรงหนุนอุปทานตึงตัว

Market Outlook

เมื่อคืนที่ผ่านมาสหรัฐฯรายงานตำแหน่งเปิดรับสมัครงานที่ 9.6 ล้านตำแหน่งสูงกว่าที่ Bloomberg Consensus คาดการณ์ที่ 8.8 ล้านตำแหน่ง พบอุตสาหกรรมที่มีการเปิดรับสมัครงานสูงขึ้นเมื่อเทียบกับเดือนก่อน ได้แก่ ภาคผลิต สินค้าคงทน สินค้าไม่คงทน ภาคการเงิน การให้บริการทางธุรกิจ การศึกษาและธุรกิจโรงพยาบาล รวมไปถึงภาครัฐบาล ทั้งนี้หลังจากทราบตัวเลขดังกล่าวพบ US Bond Yield อายุ 10 ปีปรับขึ้นต่อเนื่องทดสอบระดับ 4.8% นับเป็นระดับที่สูงสุดในรอบ 16 ปี พร้อมกับค่าเงินดอลลาร์สหรัฐที่แข็งค่าต่อเนื่องทดสอบระดับ 107 และเป็นระดับที่สูงสุดในรอบ 1 ปี สร้างแรงกดดันต่อค่าเงินบาทให้แข็งค่าทดสอบ 37.09 บาท / ดอลลาร์สหรัฐฯ โดย CME FED Watch ล่าสุดให้น้ำหนัก 71.8% ที่ FED จะคงดอกเบี้ยไว้ที่ระดับเดิมในการประชุมเดือน พ.ย. แต่ลดลงจากช่วงก่อนหน้าต่อเนื่องที่ 83% สะท้อนว่านักลงทุนเริมกลับมากังวลมากขึ้นกับดอกเบี้ยและภาวะเงินเฟ้อ โดยคืนนี้รอติดตามการจ้างงานภาคเอกชน (ADP) Bloomberg Consensus ประเมินไว้ที่ 1.54 แสนรายหากสูงกว่าคาดการณ์จะยิ่งเพิ่มแรงกดดันต่อตลาดหุ้น

ส่วนปัจจัยในประเทศวานนี้มีเหตุการณ์ไม่สงบ ณ ศูนย์การค้าแห่งหนึ่ง เราประเมินระยะสั้นกระทบต่อกลุ่มท่องเที่ยวในเชิงจิตวิทยา หากอิงเหตุการณ์ความไม่สงบแยกราชประสงค์ในช่วงวันที่ 17 ส.ค. 2015 พบว่า SET INDEX ปรับลง 2.7% และหุ้นในกลุ่มท่องเที่ยวอย่าง AOT ปรับลง 8.7% ERW ปรับลง 13% และ CENTEL ปรับลง 13% อย่างไรก็ตาม หลังจากนั้นก็สามารถฟื้นตัวขึ้นมาได้ แต่กับครั้งล่าสุดเชื่อว่าผลกระทบจะไม่เท่าช่วงความไม่สงบ ณ ราชประสงค์ วันนี้ประเมิน SET INDEX อ่อนตัวลงต่อเนื่องในกรอบ 1435 – 1445 เชิงกลยุทธ์การลงทุน ดัชนี ณ ระดับปัจจุบันเหมาะกับการสะสมเพื่อลงทุนระยะกลาง – ยาว จากระดับ Valuation ที่น่าสนใจ หากรับความเสี่ยงต่ำแนะชะลอการลงทุน ตามสภาวะตลาดที่ยังผันผวน ส่วนรับความเสี่ยงสูงที่ยังต้องการ Trading แนะกลุ่มส่งออก (HANA KCE TU) Defensive (ADVANC BDMS) ค้าปลีก (BJC CRC CPALL HMPRO)

หุ้นแนะนำซื้อวันนี้

TU (ซื้อ / ราคาเป้าหมาย 16.90 บาท)

3Q23 เราคาดว่าผลประกอบการจะฟื้นตัวจาก 2Q23 ได้โดยเฉพาะการฟื้นตัวในธุรกิจอาหารสัตว์เลี้ยงที่ลูกค้าเริ่มกลับมาสั่งของมากขึ้นแล้ว นอกจากนี้ในช่วงปลายไตรมาสยังมีโอกาสได้รับผลดีจากราคาปลาทูน่าที่ปรับตัวลดลงหลังจากยืนที่ระดับ 2,000 เหรียญสหรัฐฯ/ต้นมา ตั้งแต่ต้นไตรมาส 2 ที่ผ่านมา

CPALL (ซื้อ / ราคาเป้าหมาย 72.00 บาท)

กำไรก่อนหักภาษี (EBT) จากธุรกิจหลักในไตรมาส 2/23 จากธุรกิจร้านสะดวกซื้อ (7-Eleven) (กำไรสุทธิเฉพาะกิจการ 6.1 พันล้านบาท +21% YoY) และมี EBT คิดเป็น 73% ของทั้งหมด ส่วนธุรกิจขายส่งและค้าปลีกคิดเป็น 27% ของ EBT

- Advertisement -