บล.บัวหลวง:
Inflation – ดัชนีเงินเฟ้อประเทศไทยปรับตัวขึ้น 0.3% ในเดือน ก.ย.
ดัชนีเงินเฟ้อทั่วไปของประเทศไทยอยู่ที่ 0.30% YoY ในเดือน ก.ย. (ลดลงอย่างมากจาก 0.88% YoY ในเดือน ส.ค.) ดัชนี้เงินเฟ้อพื้นฐานอยู่ที่ 0.63% YoY [ลดลงเล็กน้อยจาก 0.79% YoY ในเดือน ส.ค.) ซึ่งเงินเฟ้อทั่วไป และเงินเฟ้อพื้นฐานต่ำกว่าประมาณการของตลาดที่ 0.8% และ 0.7% ตามลำดับ สำหรับ MoM ในเดือน ก.ย. เงินเฟ้อทั่วไปลดลง แต่เงินเฟ้อพื้นฐานยังทรงตัวสำหรับปี 2566 เราคาดดัชนีเงินเฟ้อทั่วไปที่ 1.4% และเงินเฟ้อพื้นฐานที่ 1.2%
ราคาสินค้าที่ไม่ใช่อาหารเป็นตัวดันดัชนี้ในเดือน ก.ย.
ดัชนีราคาอาหารปรับตัวลง 0.1% YoY ในเดือน ก.ย. โดยเฉพาะราคาของสัตว์บกที่ลงแรง กลบผลจากราคาอาหารที่ไม่ใช่เนื้อสัตว์ที่ปรับตัวขึ้น YoY ขณะที่ดัชนีราคาสินค้าที่ไม่ใช่อาหารปรับตัวขึ้น 0.6% YoY โดยหลักจากราคา น้ำมันเบนซิน หากมองด้าน MoM ดัชนีเงินเฟ้อทั่วไปลดลง 0.4% MoM จากราคาพลังงาน (ราคาน้ำมันดีเซลและค่าไฟ) และอาหาร (หลักๆจากสินค้าที่ไม่ใช่เนื้อสัตว์) ที่ลดลง
ดัชนีเงินเฟ้อจะชะลอตัวตลอดช่วงที่เหือของปี 2566
เราคาดดัชนีเงินเฟ้อทั่วไปเดือน ต.ค. จะลดลง 0.1% YoY จากราคาพลังงานที่ลดลง (ค่าไฟและดีเซล) กลบราคาอาหารที่สูงขึ้น ซึ่งตัวเลขดังกล่าวน่าจะลดลง MoM เนื่องจากราคาดีเซลเฉลี่ยที่ลดลง ดัชนีเงินเฟ้อพื้นฐานน่าจะอยู่ในระดับต่ำกว่า 1% YoY
คงประมาณการเงินเฟ้อปี 2566 ดังเดิม
เราคงประมาณการเงินเฟ้อปี 2566 ที่ 1.4% YoY และเงินเฟ้อพื้นฐานที่ 1.2%YoY โดยหลักมาจากราคาอาหาร (ผลกระทบของปรากฏการณ์เอลนีโญที่ดันราคาของสัตว์บกและสินค้าที่ไม่ใช่เนื้อสัตว์ให้สูงขึ้น ดูในรูปที่ 3) และราคาน้ำมันที่สูงขึ้น
ไม่มีการขึ้นดอกเบี้ย
เนื่องจากเงินเฟ้อที่ต่ำ (และในปี 2567 ก็น่าจะต่ำเช่นกัน) แนวโน้มการเติบโตของ GDP ประเทศไทยที่ไม่น่าตื่นเต้นและธปท. ที่ส่งสัญญาณหยุดขึ้นดอกเบี้ยหลังการประชุมกนง.ล่าสุด เราคาดว่าธปท.น่าจะคงอัตราดอกเบี้ยที่ 2.5% ไปจนเกือบตลอดปี 2567
