บล.บัวหลวง:

Siam Cement (SCC TB /SCC.BK)

SCC – ไตรมาส 3/66 ที่ไม่น่าตื่นเต้นสะท้อนไปในราคาหุ้นแล้ว คาดไตรมาส 4/66 จะดีขึ้น QoQ

กำไรไตรมาส 3/66 ที่ไม่น่าตื่นเต้นจะตามมาด้วยการเติบโต QoQ ในไตรมาส 4/66 หนุนจากอุปสงค์ที่เพิ่มขึ้นเป็นวงกว้าง ปัจจุบัน SCC ซื้อขายที่ PBV ปี 2567 ที่ 0.9 เท่า (ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยระยะยาวอยู่ 1.8 ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน) และเราคาดว่าอัตราผลตอบแทนจากเงินปันผลในปี 2567 จะอยู่ที่ 4.9% (ค่าเฉลี่ยของ SET อยู่ที่ 3%)

คาดกำไรหลักไตรมาส 3/66 ลดลง YoY และ QoQ

เราคาดกำไรสุทธิไตรมาส 3/66 ของ SCC อยู่ที่ 3,755 ล้านบาท (เพิ่มขึ้น 54% YoY แต่ลดลง 54% QoQ) และกำไรหลักอยู่ที่ 3,034 ล้านบาท (ลดลง 14% YoY และ 57% QoQ) ผลการดำเนินงานที่อ่อนแอลงของธุรกิจเคมีภัณฑ์และบรรจุภัณฑ์เป็นปัจจัยสำคัญที่กดดันกำไรหลักให้ลดลง YoY ในด้าน QoQ เราคาดว่าผลการดำเนินงานจะอ่อนตัวลงทุกธุรกิจ ทั้งเคมีภัณฑ์, ปูนซีเมนต์และวัสดุก่อสร้าง (CBM)} และบรรจุภัณฑ์ โดยกำไรไตรมาส 3/66 ของธุรกิจเคมีภัณฑ์คาดว่าจะลดลง YoY และ QoQ (ส่วนต่างราคาที่ลดลงของผลิตภัณฑ์ส่วนใหญ่ เนื่องจากภาวะอุปทานส่วนเกิน)

ผลการดำเนินงานของธุรกิจ CBM และบรรจุภัณฑ์มีแนวโน้มปรับตัวลดลง QoQ

กำไรของธุรกิจซีเมนต์และวัสดุก่อสร้าง (CBM) คาดว่าจะเพิ่มขึ้น YoY โดยได้แรงหนุนจากอัตรากำไรที่สูงขึ้น (ต้นทุนถ่านหินที่ลดลง) แต่มีแนวโน้มลดลง QoQ เนื่องจากปริมาณการขายที่ลดลงตามฤดูกาล

สำหรับธุรกิจบรรจุภัณฑ์ เราคาดว่า SCGP จะรายงานกำไรสุทธิไตรมาส 3/66 ที่ 1,321 ล้านบาท (ลดลง 28% YoY และ 11% QoQ) และกำไรหลักที่ 1,321 ล้านบาท (ลดลง 18% YoY และ 4% QoQ) ปัจจัยสำคัญที่ทำให้เราคาดว่ากำไรหลักจะลดลงคือปริมาณการขายที่ลดลง และอัตรากำไรที่ลดลงสำหรับธุรกิจกระดาษบรรจุภัณฑ์และเยื่อกระดาษ (YoY และ QoQ) และค่าใช้จ่ายในการบำรุงรักษาที่เพิ่มขึ้น (มีการหยุดซ่อมบำรุงโรงงานเยื่อกระดาษในไตรมาส 3/66] อย่างไรก็ตาม กำไรที่มากขึ้นจากธุรกิจบรรจุภัณฑ์ทั้งบรรจุภัณฑ์กระดาษและบรรจุภัณฑ์โพลีเมอร์ (ปริมาณขายที่เพิ่มขึ้นและอัตรากำไรขั้นต้น ที่สูงขึ้น หนุนจากต้นทุน RCP และต้นทุนพลังงาน (ส่วนใหญ่จากถ่านหิน) ที่ลดลง) น่าจะช่วยบรรเทาการปรับตัวลดลงของกำไรหลักได้บางส่วน

คาดกำไรหลักขยายตัวเล็กน้อย QoQ ในไตรมาส 4/66

เราคาดแนวโน้มเศรษฐกิจที่ดีขึ้นของประเทศไทยจะยังคงหนุนอุปสงค์ต่อเคมีภัณฑ์, ปูนซีเมนต์และวัสดุก่อสร้าง, และบรรจุภัณฑ์ในไตรมาส 4/66 YoY นอกจากนี้อุปสงค์ต่อปูนซีเมนต์และวัสดุก่อสร้างคาดว่าจะเพิ่มขึ้น QoQ ในไตรมาส 4/66 จากปัจจัยทางฤดูกาล (จบฤดูฝน) ในขณะที่ความต้องการผลิตภัณฑ์บรรจุภัณฑ์จะแข็งแกร่งขึ้น QoQ เราคาดว่าแรงกดดันด้านต้นทุนจะผ่อนคลายลง YoY ในไตรมาส 4/66 (ทรงตัว QoQ) ซึ่งจะช่วยหนุนอัตรากำไรของธุรกิจ CBM และธุรกิจบรรจุภัณฑ์ จากแนวโน้มดังกล่าวกำไรหลักในไตรมาส 4/66 ของ SCC น่าจะเติบโต YoY (หนุนจากทุกธุรกิจ) และ QoQ (กำไรที่พิ่มขึ้นของธุรกิจ CBM และบรรจุภัณฑ์)

ความคาดหวังที่ลดลงต่อผลการดำเนินงานหลักในครึ่งหลังของปี 2566 ทำให้เราปรับประมาณการกำไรหลัก
ปี 2566 ลง 21% เป็น 18,145 ล้านบาท และปรับลดประมาณการกำไรสุทธิปี 2566 ลง 11% เป็น 31,797
ล้านบาท ทั้งนี้เราปรับเป้าหมายการลงทุนไปเป็นสิ้นปี 2567 โดยราคาเป้าหมายใหม่ที่จากวิธีคิดลดกระแสเงิน
สดอยู่ที่ 384 บาท (WACC ที่ 8.5% และ Terminal Growth ที่ 2%)

 

- Advertisement -