บล.หยวนต้า (ประเทศไทย):
Central Plaza Hotel (CENTEL) คาดผลประกอบการ 3Q66 ฟื้นตัวดี แต่มาจากฐานต่ำ
Action BUY (Upgrade)
- TP upside (downside) +18.2%
- Close Oct 11, 2023 Price (THB) 44.00
- 12M Target (THB) 52.00
- Previous Target (THB) 52.00
What’s new?
- คาดกำไรปกติ 3Q66 ที่ 185 ล้านบาท เติบโตเด่น YoY จากฐานต่ำ ขณะที่การเติบโต QoQ หนุนจาก GPM ที่ดีขึ้นของ 1) ธุรกิจโรงแรม หลังโรงแรมใหม่ที่ญี่ปุ่นเปิด 2. ตันทุนวัตถุดิบของธุรกัจอาหารที่ลดลง
- แนวโน้ม 4Q66 คาดกำไรปกติเติบโต QoQ และ YoY ตามปัจจัยปัจจัยด้านฤดูกาลของไทยและมัลดีฟส์
Our view
- เราคงประมาณการกำไรปกติปี 2566-2567 ที่ 1.3 พันล้านบาท และ 1.9 พันล้านบาท ตามลำดับ
- เราคงราคาเหมาะสม ณ สิ้น 2Q67 ที่ 52.00 บาท ต่อหุ้น ปรับคำแนะนำขึ้นเป็น “ซื้อ”
- อย่างไรก็ดี เชิงกลยุทธ์ ราคาหุ้น CENTEL ในปัจจุบันเทียบตัวเลือกอื่นในกลุ่ม เราชอบ MINT มากกว่าจาก Upside Risk ที่สูงกว่าและซื้อขายบน EV/EBITDA Band ที่ต่ำกว่า
คาดกำไรปกติ 3Q66 เติบโตเด่น QoQ และ YoY แต่มาจากฐานต่ำ
เราคาดกำไรปกติ 3Q66 ที่ 185 ล้านบาท (+124% QoQ, +587% YoY) สรุปสาระสำคัญดังนี้
1) ธุรกิจโรงแรมคาดรายได้ที่ 2.0 พันล้านบาท (+4% QoQ, +32% Yor) คาด Occ. Rate เฉลี่ยที่ 68% เทียบ 65% ใน 2Q66 และคาด RevPar เฉลี่ยที่ 3.0 พันบาทต่อคืน (+6% QoQ, +38% YoY) โรงแรมในไทย RevPar +7% QoQ ดีขึ้นตามจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติ แต่โรงแรมในมัลดีฟส์ RevPar ยังอ่อนแอ ทำได้เพียงทรงตัว QoQ เนื่องจากยังอยู่ในช่วง Low Season เราคาด GPM ของธุรกิจโรงแรมใน 3Q66 ที่ 34.4% (+410bps QoQ, +850bps Yor) GPM ที่ดีขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ QoQ มาจากการเปิดให้บริการโรงแรมใหม่ที่ญี่ปุ่น ช่วยลดค่าใช้จ่ายก่อนการดำเนินงานราว 77 ล้านบาทที่เกิดใน 2Q66
2) ธุรกิจอาหารคาดรายได้ที่ 3.1 พันล้านบาท (-2% QoQ, +6% YoY) คาด SSSG เฉลี่ยใน 3Q66 ที่ -1% YoY ชะลอจากฐานสูง 2H65 ที่มี Pent-up Demand หลังการเปิดประเทศ แต่คาด GPM ของธุรกิจอาหารที่ 45.7% (+20bps QoQ, -110bps YoY) อัตราการทำกำไรดีขึ้นเล็กน้อย QoQ หนุนจากต้นทุน วัตถุดิบที่ลดลงอย่างค่อยเป็นค่อยไป ช่วงต้นไตรมาสยังมีการรับรู้ต้นทุนที่เป็นสต็อกเก่าราคาสูงอยู่บ้าง
3) คาด SG&A ที่ 1.7 พันล้านบาท (-1% QoQ, +2% YoY) SG&A/Sales อยู่ที่ 34.5%ใกล้เคียง 2Q66
4) ต้นทุนการเงินคาดที่ 292 ล้านบาท (+7% QoQ, +58% YoY) เพิ่มขึ้นจากอัตราดอกเบี้ยที่สูงขึ้น และดอกเบี้ยจ่ายจากสัญญาเช่าโรงแรมใหม่ที่ญี่ปุ่น และรับรู้สัญญาเช่าใหม่ของโรงแรมที่หัวหินเต็มไตรมาส
คงประมาณการ แต่ต้องจับตาความเสี่ยงที่อาจทำให้ปี 2567 มี Downside Risk
หากผลประกอบการออกมาตามคาด กำไรปกติ 9M66 จะคิดเป็น 65% ของประมาณการทั้งปี 2566 ของเราขณะที่แนวโน้ม 4Q66 เราคาดกำไรปกติเติบโตเด่นทั้ง QoQ และ YoY ตามปัจจัยด้านฤดูกาลของโรงแรมในไทยและมัลดีฟส์ที่เข้า High Season ทำให้เราคงประมาณการปี 2566-2567 ทั้งนี้ ปัจจัยสำคัญต้องติดตาม 1) ตัวเลขการฟื้นตัวของนักท่องเที่ยวต่างชาติ หากมาตรการส่งแสริมการท่องเที่ยวจากรัฐบาล เช่น การยกเว้นวีซ่าชั่วคราวให้กับนักท่องเที่ยวบางประเทศ การเรียกความเชื่อมั่นในการเดินทางเข้ามาเที่ยวไทยไม่สามารถกระตุ้นการฟื้นตัวของนักท่องเที่ยวต่างชาติกลับสู่ระดับ Pre COVID-19 ได้ภายในปี 2567 อย่างที่ตลาดคาดหวัง อาจทำให้ประมาณการปี 2567 ของเราและตลาดมี Downside และ 2) ผลกระทบจากแผน Major Renovating ในไทย 2 แห่งเริ่มตั้งแต่ 3Q66-4Q67 ได้แก่ โรงแรมที่หาดกะรน ภูเก็ต (ปิดปรับปรุงทั้งหมด) และโรงแรมที่พัทยา (ทยอยปิดบางส่วน เฟสละ 25% ของพื้นที่) การปิดปรับปรุงมีโอกาสกดดันผลประกอบการมากกว่าคาดในช่วงเวลาดังกล่าว
แนะนำ “ซื้อ” อิงราคาเหมาะสม ณ สิ้น 2Q67 ที่ 52.00 บาทต่อหุ้น
เราคงราคาเหมาะสม ณ สิ้น 2Q67 ที่ 52.00 บาทต่อหุ้น (อิง EVIEBITDA ที่ 13x เทียบเท่า +0.25SD ของค่าเฉลี่ยย้อนหลัง 5 ปี และรวม Premium 2% จาก Yuanta ESG Rating ระดับ AA แล้ว) จาก Upside Gain ราว 18.2% ทำให้เราปรับคำแนะนำขึ้นเป็น “ซื้อ” แต่ที่ระดับราคาหุ้นปัจจุบันเทียบในแง่ Valuation กับตัวเลือกอื่นในกลุ่มเราชอบ MINT มากกว่าจาก Upside Risk ที่สูงกว่า และซื้อขายบน EV/EBITDA ที่ต่ำกว่าอย่างมีนัยสำคัญ
ความเสี่ยงสำคัญ: จำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติต่ำกว่าคาด เกิดภาวะเศรษฐกิจถดถอยรุนแรงทั่วโลก และการแข่งขันด้านราคาในระยะถัดไป