บล.หยวนต้า (ประเทศไทย):

MK Restaurant Group (M) คาดกำไร 3Q66 อ่อนลงตามฤดูกาล … ระยะยาวยังท้าทาย

Action TRADING (Maintain)

  • TP upside (downside) +20.0%
  • Close Oct 16, 2023 Price (THB) 43.75
  • 12M Target (THB) 52.50
  • Previous Target (THB) 54.00

What’s new?

  • คาดกำไรปกติ 3Q66 ที่ 415 ลบ. อ่อนตัวลง 9.5% QoQ ตามปัจจัยฤดูกาล และทรงตัว YOY
  • แนวโน้มกำไร 4Q66 คาดทำระดับสูงสุดของปีจากปัจจัยฤดูกาลที่เป็น High Season ประกอบกับการรับรู้ราคาต้นทุนวัตถุดิบและค่าไฟฟ้าที่ปรับลดลงได้ต่อเนื่อง

Our view

  • เรายังประเมินว่าการฟื้นตัวในระยะสั้นยังมีความเสี่ยงจากเหตุการณ์ในพารากอนที่อาจทำให้จำนวนนักท่องเที่ยวต่ำกว่าคาด ส่วนในระยะยาวของ M ยังท้าทายจากภาวะการแข่งขันในตลาดที่สูงขึ้น
  • เราปรับไปใช้ราคาเป้าหมาย ณ สิ้นปี 2567 ทำให้ได้ราคาเป้าหมายใหม่ที่ 52.50 บาท (DCF, WACC 9.5%, t.g. 1%) คงคำแนะนำ “TRADING”

SSSG เริ่มแผ่วลงจากฐานที่เริ่มกลับสู่ระดับปกติ…. คาดกำไรทรงตัว YoY

เราคาดกำไรปกติ 3Q66 ที่ 415 ลบ. (9.5% QoQ, +1.8% YoY) อ่อนตัวลง QoQ ตามปัจจัยฤดูกาลที่เป็น ช่วงฤดูฝน และมีจำนวนวันหยุดน้อยลง แต่คาดกำไรทรงตัวได้ YoY โดยแนวโน้ม SSSG 3Q66 คาดที่ +2% YoY ค่อนข้างทรงตัวจากฐานในปีก่อนที่เริ่มกลับสู่ภาวะปกติ ทำให้เราคาดรายได้ที่ 4,189 ลบ. (-5.6% QoQ, +3.0% YoY ยังฟื้นตัวอย่างค่อยเป็นค่อยไป ในขณะเดียวกันได้ประโยชน์จากราคาต้นทุนวัตถุดิบเนื้อหมูที่ปรับลง (เนื้อหมูคิดเป็นสัดส่วน 20-30% ของต้นทุนรวม) หลังบริษัทได้เจรจาต่อรองลดราคากับ Supplier สำเร็จ ทำให้สามารถซื้อหมูได้ที่ราคาตลาดที่มีการปรับลดลง และแม้ราคาเป็ดจะสูงขึ้นเล็กน้อย 6% QoQ ก็ตาม แต่เราคาด GPM ของ M จะฟื้นขึ้นเป็น 66.2% จาก 65.7% ใน 2Q66 นอกจากนี้บริษัทจะรับรู้ผลของค่าไฟฟ้าที่ปรับลดลงตามค่า Ft ที่ปรับลง ส่งผลให้ SG&A/Sales คาดลดลงเป็น 55.2% จาก 55.6% ใน 2Q66 แต่จะยังสูงเมื่อเทียบกับ 53.7% ใน 3Q65 จากค่าใช้จ่ายพนักงานที่สูงขึ้น

แนวโน้ม 4Q66 เข้า High Season … ระยะยาวยังฟื้นตัวช้าจากการแข่งขันที่สูง

เราประเมินแนวโน้มผลประกอบการจะกลับมาเติบโตได้ทั้ง QoQ และ YoY ได้อีกครั้ง และมีโอกาสทำระดับสูงสุดของปีได้ใน 4Q66 ที่เป็นช่วง High Season ของธุรกิจร้านอาหาร และบริษัทจะรับรู้ผลของราคาต้นทุนวัตถุดิบและค่าไฟฟ้าที่ปรับลดลงได้ต่อเนื่องหนุน GPM ให้ฟื้นขึ้นต่อ อย่างไรก็ตามเราประเมินว่าปริมาณนักท่องเที่ยวต่างชาติใน 4Q66-1Q67 มีโอกาสจะน้อยกว่าเดิมที่ตลาดคาดการณ์จากผลกระทบของเหตุการณ์ในห้างฯ พารากอน โดยเฉพาะนักท่องเที่ยวชาวจีนที่เป็นกลุ่มลูกค้าต่างชาติหลักของ M ทำให้การฟื้นตัวของ LCS อาจยังทำได้ช้า และในระยะยาวเรามองว่า M ยังมีปัจจัยท้าทายจากการแข่งขันที่สูงขึ้น ทั้งจากร้านบุฟเฟท์ที่ราคาถูก และร้านสุกี้หม้อไฟจีนที่เป็นที่นิยมมากขึ้น นอกจากนี้เราประเมินว่าอัตรากำไรสุทธิของ M จะยังไม่กลับไปเทียบเท่ากับระดับช่วงก่อน COVID-19 ที่ราว 13-15% ภายใน 2-3 ปีนี้ เนื่องจากค่าใช้จ่ายพนักงานและค่าเช่าที่สูงขึ้น

ปรับราคาเป้าหมายลงเป็น 52.50 บาท … คงคำแนะนำ TRADING

เรายังคงประมาณการกำไรปกติปี 2566 – 2567 ที่ 1,580 ลบ. (+9.8% YoY) และ 1,845 ลบ. (+16.8% Yor) ตามลำดับ เราปรับไปใช้ราคาเป้าหมาย ณ สิ้นปี 2567 แต่ปรับ WACC เพิ่มเป็น 9.5% จากเดิมที่ 9.2 สะท้อนภาวะตลาดที่ผันผวนมากขึ้น และปรับลด Terminal growth ลงเป็น 1% จากเดิมที่ 1.5% ตามการแข่งขันในอุตสาหกรรมที่สูงขึ้น ทำให้ได้ราคาเป้าหมายใหม่ที่ 52.50 บาท แม้มี Upside gain 20.0% จากราคาหุ้นในปัจจุบัน แต่เนื่องจากมีความเสียงด้านจำนวนนักท่องเที่ยวที่อาจต่ำกว่าคาดการณ์, การปรับขึ้นค่าแรงขั้นต่ำ และภาวะของตลาดในปัจจุบัน เราจึงยังคงคำแนะนำ “TRADING”

- Advertisement -