บล.บัวหลวง:
GFPT (GFPT TB / GFPT.BK)
GFPT – คาดกำไรหลักทรงตัว QoQ ในไตรมาส 3/66 และแนวโน้มดีขึ้นในไตรมาส 4/66
เราคาดว่ากำไรหลักไตรมาส 3/66 จะเติบโตเพียง 1% QoQ เนื่องจากคาดการณ์การส่งออกที่ลดลง กำไรหลักไตรมาส 4/66 จะเพิ่มขึ้น QoQ หนุนโดยการส่งออก
กำไรหลักไตรมาส 3/66 คาดว่าจะลดลง 54% YoY แต่เพิ่มขึ้น 1% QoQ
เราคาดกำไรหลักไตรมาส 3/66 ที่ 336 ล้านบาท ลดลง 54% YoY แต่เพิ่มขึ้น 1% QoQ เป็นไปตามที่เราคาดก่อนหน้า เราคาดว่ายอดขายและกำไรจากบริษัทร่วมในไตรมาส 3/26 จะชะลอตัว เราคาดว่ายอดขายในไตรมาส 3/66 จะปรับตัวลดลง 7% YoY และ 3% QoQ เนื่องจากปริมาณการส่งออกไปยังญี่ปุ่น (เนื่องจากการอ่อนค่าของเงินเยนเมื่อเทียบกับเหรียญสหรัฐฯ) และจีน (เศรษฐกิจที่ซบเซา) ที่ลดลง เราคาดการส่งออกอยู่ที่ 6,700 ตัน ลดลงจาก 8,800 ตันในไตรมาส 3/65 และ 8,300 ตันในไตรมาส 2/66 เมื่อมองไปยังอัตรากำไรขั้นต้น จากต้นทุนข้าวโพดและกากถั่วเหลืองที่ลดลงในไตรมาส 3/66 เราคาดอัตรากำไรขั้นต้นอยู่ที่ 12.2% ในไตรมาส 3/66 เพิ่มขึ้นจาก 11.7% ในไตรมาส 2/66 (แต่ยังคงน้อยกว่า 18.6% ในไตรมาส 3/65 มาก เนื่องจากรายได้ที่ลดลง) เราคาดกำไรรวมจากบริษัทร่วม (จีเอฟเอ็นและแม็คคีย์) ที่ 120 ล้านบาท ทรงตัว QoQ และลดลงจาก 207 ล้านบาทในไตรมาส 3/65 (โดยหลักมาจากกำไรที่ลดลงของจีเอฟเอ็น)
ต้นทุนวัตถุดิบที่ลดลงจะหนุนอัตรากำไร
ราคาไก่สดเฉลี่ยในกรุงเทพฯ และต่างจังหวัดอยู่ที่ 42 บาท/กก. ในไตรมาส 3/66 ลดลงจาก 44 บาท/กก. ในไตรมาส 2/66 และ 48 บาท/กก. ในไตรมาส 3/65 ราคาปัจจุบันอยู่ที่ 38 บาท/กก. ลดลงตามราคาข้าวโพดและกากถั่วเหลืองที่ปรับลดลง GFPT มองว่าต้นทุนการผลิตไก่ทั้งอุตสาหกรรมอยู่ที่ 40 บาท/กก. บริษัทกล่าวว่าราคาโครงไก่ปัจจุบันอยู่ที่ 10-11 บาท/กก.ลดลงจาก 14 บาท/กก. ในไตรมาส 2/66 และ 11 บาท/กก. ในไตรมาส 3/65 จุดคุ้มทุนอยู่ที่ 11 บาท/กก. เรามองว่าราคาไก่ไทยปัจจุบันถึงจุดต่ำสุดแล้ว (เทศกาลกินเจเริ่มวันที่ 15-23 ต.ค.) และจะฟื้นตัวอย่างมีนัยสำคัญในช่วงหลังของไตรมาส โดยเริ่มเข้าสู่เทศกาลและการท่องเที่ยวขาเข้าที่เพิ่มขึ้น
คาดตัวเลขปรับดีขึ้นในไตรมาส 4/66
โดยทั่วไปกำไรไตรมาส 4 ของ GFPT จะลดลงตามปัจจัยฤดูกาล เนื่องจากเป็นช่วงโลว์ซีซั่นการส่งออกไก่ แต่ปีนี้ บริษัทมีแนวโน้มจะสามารถเอาชนะปัจจัยฤดูกาลได้ในไตรมาส 4/66 เราคาดกำไรไตรมาส 4/66 เพิ่มขึ้น 5% QoQ (ยังคงลดลง 16% YoY) หนุนโดยการส่งออกที่เพิ่มขึ้น เราคาดอัตรากำไร ขั้นต้นไตรมาส 4/66 อยู่ที่ 12.4% (เพิ่มขึ้นเล็กน้อยจาก 12.2% ในไตรมาส 3/66 แต่ลดลงจาก 13.7% ในไตรมาส 4/65) หนุนจากยอดขายที่สูงขึ้นและราคาวัตถุดิบที่ลดลง แม้ว่าเราจะปรับลดประมาณการกำไรลง 1% ในปี 2566 และ 4% ในปี 2567 แต่เราคงคำแนะนำซื้อเก็งกำไร ที่ราคาเป้าหมายที่ 15.50 บาท ปัจจุบันหุ้นซื้อขายที่ระดับราคาไม่แพง ที่ PER ปี 2567 ที่ 8.6 เท่า (ค่าเฉลี่ยระยะยาวอยู่ที่ 10.9 เท่า) และเราคาดว่าตัวเลขจะปรับตัวดีขึ้นในไตรมาส 4/66