บล.หยวนต้า (ประเทศไทย)

Sabina (SABINA) ยังเติบโตได้ในระดับปานกลาง

Action BUY (Maintain)

  • TP upside (downside) +20.4%
  • Close Oct 18, 2023 Price (THB) 25.75
  • 12M Target (THB) 31.00
  • Previous Target (THB) 31.25

What’s new?

  • คาดกำไรสุทธิ 3Q66 ที่ 116 ลบ. (+2.3%QoQ, +15.4% YoY) จากรายได้ NSR เป็นหลัก แม้ว่ารายได้จาก OEM จะยังไม่เติบโตตามภาวะเศรษฐกิจชะลอตัวในยุโรป
  • แนวโน้ม 4Q66 มีโอกาสทำ New high ได้จากผลของฤดูกาล SG&A/Sales ลดลง และค่าไฟลดลง กำลังการผลิตเพิ่มขึ้น แต่ยังอยู่ในกรอบประมาณการทั้งปีของเรา

Our view

  • คงมุมมองบวกต่อแนวโน้มผลประกอบการ
  • ประมาณการกำไรปี 67 มีทั้ง Downside risk จากภาวะเศรษฐกิจโลกและ CLMV แต่ก็มี Upside risk จากมาตรการรัฐฯ ทำให้เรายังคงประมาณการกำไรปี 67 แต่ปรับลด PER ในการประเมินมูลค่าลงจาก 21.4 เท่า เป็น 20.0 เท่า ตามภาวะตลาด และปรับไปใช้ราคาเป้าหมายสิ้นปี 67 อยู่ที่ 31.00 สะสมที่ระดับ 25 บาท +/-

คาด 3Q66 โตทั้ง QoQ และ YoY

คาดรายได้ 1Q66 ที่ 863 ลบ. (+3.0% QoQ, +11.5% YoY) แม้ว่ารายได้จาก OEM ยังไม่ฟื้นตัวตามภาวะเศรษฐกิจในยุโรป ทำให้ลูกค้ายังมีสต๊อกสินค้าเหลืออยู่ ขณะที่รายได้ในประเทศเป็นตัวหลักหนุนการเติบโต รวมถึงประเทศเพื่อนบ้านยังคงมียอดขายที่แข็งแกร่ง รวมถึงการจัดโปรโมชั่น วันที่ 9 เดือน 9 ทำให้รายได้จาก NSR เป็นตัวหลักหนุนการเติบใน 3Q66 นอกจากนี้รายได้ของ MODA ยังคงมีโมเมนตัมเชิงบวกแต่ยังไม่มีนัยสำคัญ เนื่องจากอยู่ในช่วงขยายจุดขาย และเริ่มทำตลาด NSR แต่ยังต้องใช้เวลาเรียนรู้สักระยะ เราคาด GPM ทรงตัว QoQ ที่ 50% เพิ่มขึ้นจาก 48% ใน 3Q65 คาด SG&A/Sales ที่ 34.2% ลดลงจาก 34.9% ใน 2066 แต่ยังสูงกว่า 32.8% ใน 3Q65 นอกจากนี้ใน 3Q66 มีประโยชน์จากการใช้ Solar roof ที่จะช่วยลดค่าไฟลงราว 1.8 ลบ./ไตรมาส บริษัทตั้งเป้าลด SG&A/Sales ลงเป็น 33% ซึ่งเราคาดว่าจะทำได้ในปี 2567 คาดกำไรสุทธิ 3Q66 ที่ 116 ลบ. (+2.3%QoQ, + 15.4% YoY)

4Q66 ลุ้นกำไร New high แต่อยู่ในกรอบประมาณการ

แผนเพิ่มกำลังการผลิตโรงงาน 18.6% เป็น 8.6 ล้านชิ้น/ปี เสร็จแล้ว ขณะที่กำลังวางแผนเพิ่มเครื่องจักร และ Robot เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการผลิต และลดการใช้แรงงานคนลง เพื่อลดผลกระทบจากแนวโน้มค่าแรงขั้นต่ำที่เพิ่มขึ้น เราคาดกำไร 4Q66 ทำระดับสูงสุดใหม่ที่ 120 ลบ.+/- จากผลของฤดูกาลที่คาดว่าจะมีรายได้สูงที่สุดของปี แม้ว่า OEM จะยังไม่ฟื้น โดยในช่วงโปรโมชั่น 10 เดือน 10 ได้รับการตอบรับสูงเช่นเคย ขณะที่จะมีโปรโมชั่นช่วง 11 เดือน 11 และ 12 เดือน 12 ที่ผู้บริโภคนิยมใช้จ่ายมากขึ้น ตามลำดับ ขณะที่ SG&A/Sales คาดว่าจะลดลงจากรายได้ที่สูงขึ้น และค่าไฟฟ้าที่ลดลงจากค่า Ft ที่ปรับตัวลงเร็วกว่าที่คาดส่งผลเต็มไตรมาส ช่วยหนุนผลประกอบการส่วนหนึ่ง ส่งผลให้กำไรทั้งปี 2566 ยังอยู่ในกรอบประมาณการที่ 472 ลบ. เติบโต 13.1% YoY และคาดเงินปันผลในช่วงสิ้นปีที่ 0.64 บาท ให้ผลตอบแทน 2.5%

สะสมเมื่ออ่อนตัว

เรายังคงมุมมองเชิงบวกต่อแนวโน้มผลประกอบการของ SABINA ปัจจุบันซื้อขายด้วย PER67 เพียง 16.6 เท่า แม้ว่าประมาณการกำไรปี 2567 ของเรามี Downside risk จากรายได้ OEM ความเสี่ยงของเศรษฐกิจโลก และเศรษฐกิจในประเทศจากอัตราดอกเบี้ยทรงตัวในระดับสูง แต่ก็มี Upside risk จากมาตรการลดค่าครองชีพของรัฐบาล มาตรการเงินดิจิตอล 10,000 บาท และรายได้และกำไรจาก MODA ในฟิลิปปินส์ ยังไม่รวมในประมาณการ จึงยังคงประมาณการกำไรสุทธิปี 2567 ไว้ที่ 540 ลบ. (+14.4% YoY) โดยเราปรับไปใช้ราคาเป้าหมายเป็นสิ้นปี 2567 แต่ลด PER ในการประเมินมูลค่าตามภาวะตลาดจาก 21.4 เท่า เป็น 20.0 เท่า ได้ราคาเป้าหมายที่ 31.00 บาท มี Upside gain 20.4% คงคำแนะนำ ซื้อ เชิงกลยุทธ์แนะนำสะสมบริเวณต่ำกว่า 25 บาท+/-

- Advertisement -