บล.ฟิลลิป:
KTC กำไร 3Q66 โตตามการฟื้นตัวของการจับจ่าย
ซื้อ TP’67: 54.00
ยอดใช้จ่ายผ่านบัตรที่ยังฟื้นตัวต่อเนื่อง ทำให้สินเชื่อเติบโต และทำให้รายได้ดอกเบี้ย และรายได้ค่าธรรมเนียมของ KTC เพิ่มขึ้น และทำให้กำไร 3Q66 เพิ่มขึ้น 4.7% y-y และ 2.8% q-q แต่ NPL ก็เพิ่มสูงขึ้นด้วย และทำให้สัดส่วนสำรองต่อ NPL ลดลง แต่ก็ยังเป็นระดับที่สูงมากอยู่ดี ยังคงประมาณการกำไรปี 66 ไว้เหมือนเดิม โดยเป็นการเติบโต 4.1% y-y ปรับไปใช้ราคาพื้นฐานปี 67 ที่ 54 บาท ยังแนะนำ “ซื้อ”
งบรวม | 3Q66 | 2Q66 | 3Q65 | % у-у | % q-q | 9M66 | 9M65 | % у-у |
กำไร | 1,856 | 1,806 | 1,773 | 4.7 | 2.8 | 5,534 | 5,414 | 2.2 |
EPS | 0.72 | 0.70 | 0.69 | 4.7 | 2.8 | 2.15 | 2.10 | 2.2 |
หมายเหตุ: กำไร = ล้านบาท, EPS = บาท
- 3Q66 กำไรเพิ่ม 4.7% y-y และ 2.8% q-q: KTC มีกำไร 3Q66 1.9 พันลบ. เพิ่มขึ้น 4.7% y-y และ 2.8% q-q โดยกำไรเพิ่มขึ้นจากการเพิ่มขึ้นของรายได้ดอกเบี้ย และรายได้ค่าธรรมเนียมที่เพิ่มขึ้นตามยอดใช้จ่ายผ่านบัตรที่ยังคงฟื้นตัวต่อเนื่อง ถึงแม้ว่าต้นทุนดอกเบี้ย และการตั้งสำรองจะยังคงเพิ่มขึ้น
- สินเชื่อเพิ่ม แต่ NPL ก็เพิ่มด้วย: สินเชื่อของ KTC ในไตรมาสนี้เพิ่มขึ้นอีก 1.1% q-q และเพิ่ม 10% y-y จาก
เป้าทั้งปีที่ทาง KTC ตั้งไว้ว่าจะปล่อยสินเชื่อเพิ่ม 10% อย่างไรก็ตาม NPL ก็เพิ่มขึ้นด้วยเป็น 2.3% จาก 2% ในไตรมาสก่อน และทำให้สัดส่วนสำรองต่อ NPL ลดลงเหลือ 382% จากไตรมาสก่อนที่มีอยู่ 433% แต่ก็ยังถือ
ว่าเป็นระดับที่สูงมากอยู่ดี - ยังคงประมาณการกำไร ปรับไปใช้ราคาพื้นฐานปี 67: ทางฝ่ายยังคงประมาณการกำไรปี 66 ของ KTC ไว้ที่
7.4 พันลบ. เพิ่มขึ้น 4.1% y-y อาจจะเป็นนการเพิ่มขึ้นไม่มาก แต่ก็เป็นไปตามเป้าที่ทาง KTC ตั้งเป้าจะมีกำไรในปี 66 มากว่าปี 65 เพื่อให้เหมาะสมกับช่วงระยะเวลาการลงทุน จึงปรับไปใช้ราคาพื้นฐานปี 67 ที่ 54 บาทยังคงแนะนำ “ซื้อ”