บล.บัวหลวง:
Krungthai Card (KTC TB / KTC.BK)
KTC – กำไรเป็นไปตามที่เราคาด
กำไรเป็นไปตามที่เราคาด
KTC รายงานกำไรไตรมาส 3/66 ที่ 1.9 พันล้านบาท เพิ่มขึ้น 5%YoY และ 3% QoQ ซึ่งเป็นไปตามที่เราคาด และตลาดคาด กำไรจากการดำเนินงานก่อนตั้งสำรองฯอยู่ที่ 6.0 พันล้านบาท เพิ่มขึ้น 9% YoY และ 3% QoQ ทั้งนี้กำไร 9 เดือนแรกของปี 2566 คิดเป็น 76% ของประมาณการทั้งปีของเราที่ 7.3 พันล้านบาท
ประเด็นสำคัญจากผลประกอบการ
การปรับตัวเพิ่มขึ้นของกำไร YoY และ QoQ หนุนมาจากการเติบโตของ สินเชื่อและรายได้ที่ไม่ใช่ดอกเบี้ยที่เพิ่มขึ้น สินเชื่อในไตรมาสนี้เติบโต 10% YoY และ 1% QoQ หนุนโดยธุรกิจบัตรเครดิตและสินเชื่อส่วนบุคคลของ KTC รายได้ที่ไม่ใช่ดอกเบี้ยรวมอยู่ที่ 3.2 พันล้านบาท เพิ่มขึ้น 7% YoY และ 4% QoQ หนุนจากรายได้ค่าธรรมเนียมและรายได้บริการ
อัตราการตั้งสำรองของ KTC ในไตรมาส 3/66 อยู่ที่ 5.6% เพิ่มขึ้น 25bps YoY และ 6bps QoQ สัดส่วนหนี้เสียต่อสินเชื่อรวมเพิ่มขึ้นจาก 2.02% ณ สิ้นเดือน มิ.ย. 2566 มาอยู่ที่ 2.33% ณ สิ้นเดือน ก.ย. อัตราส่วนการตั้งสำรองต่อหนี้เสียของ KTC ลดลงจาก 433.1% ณ สิ้นเดือน มิ.ย. มาอยู่ที่ 381.5% ณ สิ้นเดือน ก.ย. ตัวเลขดังกล่าวบ่งบอกว่าคุณภาพสินทรัพย์ของบริษัทลดลง ตั้งแต่ปลายเดือนมิ.ย. NIM ไตรมาส 3/66 อยู่ที่ 10.64% ลดลง 6bps YoY (ต้นทุนทางการเงินสูงขึ้น) แต่เพิ่มขึ้น 13bps QoQ (อัตราผลตอบแทน สินเชื่อเฉลี่ยที่สูงขึ้น)
แนวโน้ม
เราคาดกำไรไตรมาส 4/66 ที่ 1.8 พันล้านบาท เพิ่มขึ้น 7% YoY (การเติบโตของสินเชื่อ) แต่ลดลง 4% QoQ (ค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานที่เพิ่มขึ้นตาม ปัจจัยฤดูกาล)
สิ่งที่เปลี่ยนแปลง
เรายังคงประมาณการกำไรปี 2566 ไว้คงเดิมไม่เปลี่ยนแปลงที่ 7.3 พันล้านบาท เพิ่มขึ้น 3% YoY อิงจากคาดการณ์สินเชื่อเติบโต 13% YoY ซึ่งจะกลบผลกระทบของการตั้งสำรองฯที่เพิ่มขึ้น เราคาดกำไรสุทธิปี 2567 เติบโต 10% YoY อิงจากการเติบโตของสินเชื่อที่ 13% YoY
คำแนะนำ
เราปรับเป้าหมายการลงทุนจาก ณ สิ้นปี 2566 ไปเป็น ณ สิ้นปี 2567 ที่ราคาเป้าหมายใหม่ที่ 46 บาท PER ปี 2567 ของ KTC อยู่ที่ 14.6 เท่า แต่คาดการณ์ EPS CAGRใน ปี 2567-68 อ ยู่ที่ 10% ซึ่งคิดเป็นอัตราส่วน PEG ที่ตึงตัวที่ 1.4 เท่า นอกจากนี้ คุณภาพสินทรัพย์ของ KTC ยังอ่อนตัวลงตั้งแต่ปลายเดือนมิ.ย. เรายังคงคำแนะนำ ขาย