บล.ฟิลลิป:

ธนาคารเกียรตินาคินภัทร – KKP คุณภาพสินทรัพย์ที่แย่น่าจะผ่านจุดต่ำสุดไปแล้ว

Key Point

ผลขาดทุนรถยึดที่เพิ่มขึ้นมาก ทำให้กำไร 3Q66 ลดต่ำลง และทาง KKP ได้แก้ปัญหาด้วยการเข้มงวดในการปล่อยสินเชื่อ รวมไปถึงการปรับโครงสร้างหนี้ ซึ่งอาจจะทำให้สินเชื่อในปี 66 เติบโตต่ำกว่าเป้าที่ตั้งไว้ที่ 10% แต่ก็ทำให้ NPL และการตั้งสำรองเริ่มต่ำลง และคาดว่าจะลดลงต่อเนื่องใน 4Q66 รวมไปถึงทำให้กำไรปี 67 เพิ่มสูงขึ้นจากปี 66 ที่คาดว่ากำไรจะลดลง y-y ยังคงประมาณการกำไร คงราคาพื้นฐาน 58 บาท แนะนำ “ซื้อ”

ผลขาดทุนรถยึดที่เพิ่มขึ้นมาก ทำให้กำไร 3Q6 ลดลง

KKP มีกำไร 3Q66 1.3 พันลบ. ลดลง 38.5% y-y และ 9.3% q-q นอกจากต้นทุนดอกเบี้ย และค่าใช้จ่ายที่เพิ่มขึ้นแล้ว ยังมาจากผลขาดทุนรถยึดที่เพิ่มขึ้นสูงมาก โดยสูงถึง 1.3 พันลบ. เพิ่มขึ้นถึง 233.3% y-y และ 39% q-q ซึ่งทั้งหมดเป็นสินเชื่อเช่าซื้อที่ปล่อยในช่วงปี 65 ซึ่งเป็นปีที่ KKP นั้นได้เร่งการเติบโต โดยในปี 65 KKP มีสินเชื่อเติบโตถึง 21.4% y-y และเป็นการเติบโตของสินเชื่อรายย่อยและสินเชื่อเช่าซื้อถึง 23.6% y-y และ 19.3% y-y ตามลำดับ

การเข้มงวดในการปล่อยสินเชื่อ และปรับโครงสร้างหนี้อาจจะทำให้สินเชื่อต่ำกว่าเป้า

จากปัญหาในเรื่องคุณภาพสินทรัพย์ ทำให้ทาง KKP นั้นได้มีการปรับการปล่อยสินเชื่อให้เข้มงวดมากขึ้น และเน้นปล่อยสินเชื่อที่ให้ผลตอบแทนสูงและคุ้มกับความเสี่ยง นอกจากนี้ยังมีการปรับโครงสร้างหนี้ให้กับลูกค้าที่มีปัญหา ซึ่งทำให้สินเชื่อในช่วงหลังจากนี้อาจจะเพิ่มขึ้นจากใน 3Q66 ที่ปล่อยสินเชื่อได้แล้ว 6% ytd ไม่มากนัก และจะทำให้ต่ำกว่าเป้าที่หาง KKP ตั้งเป้าว่าจะปล่อยสินเชื่อเพิ่มในปีนี้ 10%

การปรับปรุงคุณภาพสินทรัพย์ทำให้ NPL การตั้งสำรองลดลง และอาจจะทำให้จ่ายปันผลได้มากขึ้น

การปรับปรุงคุณภาพสินทรัพย์ที่ผ่านมา เริ่มส่งผลให้ระดับ NPL ลดต่ำลง และการตั้งสำรองลดลง ซึ่งน่าจะลดลงได้อีกในไตรมาสต่อไป อย่างไรก็ตามการปรับปรุงคุณภาพสินทรัพย์นี้ถึงแม้ว่าจะทำให้สินเชื่อไม่โตตามเป้า แต่ทาง KKP ก็อาจจะมีการพิจารณาปรับ pay out ratio ขึ้น จากปีก่อนที่มีการ ปันผล 3.25 บาท/หุ้น ซึ่งคิดเป็น pay out ratio 36.2% อย่างไรก็ตามทางฝ่ายยังคงประมาณการเงินปันผลปี 66 ไว้ก่อนที่ 2.75 บาท/หุ้น ซึ่งคิดเป็น pay out ratic 37.2% ซึ่งก็คิดเป็นระดับ Div. yiel ที่ 5.6% แล้ว

ยังคงประมาณการ และราคาพื้นฐาน

ทางฝ่ายยังคงประมาณกำไรปี 66 ของ KKP ไว้ที่ 6.3 พันลบ. ลดลง 17.6% y-y โดยการตั้งสำรอง และผลขาดทุนรถยึดที่เพิ่มขึ้นทำให้กำไรลดต่ำลง และคาดปี 67 กำไรจะฟื้นตัว 34.2% yy เป็น 8.4 พันลบ. ยังคงราคาพื้นฐาน 58 บาท แนะนำ “ซื้อ”

ความเสี่ยง

  1. ความไม่แน่นอนของเศรษฐกิจโลก และเศรษฐกิจไทย
  2. ความเสี่ยงด้านเครดิต
  3. การเปลี่ยนแปลงของกฎเกณฑ์ที่เกี่ยวข้องกับการดำเนินงาน
- Advertisement -