บล.บัวหลวง:
Utilities – หุ้นราคาถูกสำหรับการลงทุนระยะยาว (NEUTRAL)
หุ้นกลุ่มโรงไฟฟ้าที่เราให้คำแนะนำซื้อขายที่ PER ปี 2567 อยู่ที่ 11-29 เท่า ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยระยะยาวอยู่ 0.3-2.2 ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน ซึ่งเป็นระดับราคาที่ดี และเราคาดว่ากำไรหลักจะฟื้นตัวต่อเนื่องไปจนถึงปี 2568 เราปรับเป้าหมายการลงทุนจาก ณ สิ้นปี 2566 ไปเป็น ณ สิ้นปี 2567 เรายังคงชอบ GULF มากที่สุดในกลุ่ม
เมื่อ ปตท. กำหนดเพดานราคาก๊าซ การลดค่าไฟฟ้าก็ไม่ใช่เรื่องใหญ่
กกพ. ปรับลดอัตราค่าไฟฟ้าลง 15% จาก 4.71 บาท/หน่วย ในช่วงบิลเดือน พ.ค.-ส.ค. เหลือ 3.99 บาท/หน่วย สำหรับเดือน ก.ย.-ธ.ค. แต่การปรับลดค่าไฟฟ้าดังกล่าวเกิดจาก 2 มาตรการ ได้แก่ 1) ยืดระยะเวลาชำระหนี้ของ กฟผ. และ 2) การกำหนดเพดานราคาก๊าซของ ปตท. โดย กกพ. มีคำสั่งให้ ปตท. กำหนดเพดานราคาก๊าซเฉลี่ยสำหรับเดือน ก.ย.-ธ.ค. ไว้ที่ไม่เกิน 305 บาท/ ล้าน btu (อ้างอิงจาก Bangkok Post, 27 ก.ย.) ลดลง 12% จากช่วงเดือน พ.ค.-ส.ค. ค่าก๊าซที่ลดลงกลบผลกระทบของอัตราค่าไฟฟ้าที่ลดลง
ทั้งนี้ หากราคา LNG ปรับตัวสูงขึ้น อาจมีอัพไซด์ต่อคาดการณ์กำไรของ GULF ของเรา จากการปรับราคาไฟฟ้าของโรงไฟฟ้า Jackson ของ GULF (ในรัฐอิลลินอยส์) ที่ทำให้อัตรากำไรขั้นต้นเพิ่มขึ้นเมื่อต้นทุนก๊าซสูงขึ้น ปัจจุบันการส่งออก LNG ของสหรัฐฯ คิดเป็นประมาณ 10% ของการผลิตก๊าซของสหรัฐฯ ดังนั้นราคา LNG ระหว่างประเทศจึงมีอิทธิพลอย่างมากต่อราคาก๊าซธรรมชาติในประเทศของสหรัฐฯ
กกพ. พักเซ็นสัญญาซื้อขายโรงไฟฟ้าพลังงานลม
ศาลปกครองกลางมีคำสั่งระงับ กกพ. เซ็นสัญญาซื้อไฟฟ้าจากโรงไฟฟ้าพลังงานลมรวม 1.5GW จากการประมูลครั้งล่าสุด (ความเป็นมา: บมจ. Energy Absolute (EA) ฟ้อง กกพ. หลังโครงการฟาร์มกังหันลมไม่ผ่านการ คัดเลือก; EA ได้วางแผนที่จะใช้ที่ดิน ส.ป.ก.ในการฟาร์มกังหันลม) โดย กกพ. จะอุทธรณ์ต่อคำสั่งศาลดังกล่าว ทั้งนี้ในกลุ่มโรงไฟฟ้าที่เราให้คำแนะนำ มีหุ้น 3 ตัวที่ชนะการประมูลไฟฟ้าพลังงานลม ได้แก่ BGRIM (16MW, 5% ของจำนวนทั้งหมดที่ได้รับการอนุมัติโดย กกพ. ในการประมูล), GULF (622MW, 36%] และ GUNKUL (180MW, 18%]
ทั้งนี้ กระบวนการออก PPA ยังคงดำเนินต่อไปอย่างไม่มีข้อจำกัดสำหรับโซลาร์ฟาร์ม โซลาร์ฟาร์มพร้อมแหล่งกักเก็บพลังงาน และโครงการพลังงานขยะ
แนวโน้มกำไรของกลุ่ม
เราคาดกำไรหลักรวมในไตรมาส 3/66 ที่ 6,501 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 106% YoY (กำลังการผลิตใหม่และราคาก๊าซที่ลดลง) และ 22% QoQ (กำลังการผลิตใหม่และกำไรที่สูงขึ้นตามปัจจัยฤดูกาลที่ XPCL) เราคาดกำไรหลักไตรมาส 4/66 อยู่ที่ 5,461 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 55% YoY (ราคาก๊าซที่ลดลง)แต่ลดลง 16% QoQ (กำไรที่ลดลงตามปัจจัยฤดูกาลที่ XPCL และราคาไฟฟ้าที่ลดลง) หากคาดการณ์เชิงอนุรักษ์นิยมว่าราคาไฟฟ้าจะอยู่ที่ 3.99 บาท/หน่วย และราคาก๊าซที่ 305 บาท/ล้าน btu ต่อเนื่องไปจนถึงปี 2567 (สมมติว่าระยะเวลาชำระหนี้ของกฟผ. และเพดานราคาก๊าซธรรมชาติของ ปตท. ถูกยืดออกไป) เรายังคงคาดว่ากำไรของโรงไฟฟ้า SPP จะยังคงฟื้นตัวเล็กน้อย และหากราคาก๊าซปรับตัวลดลงเร็วกว่าอัตราค่าไฟฟ้าในปี 2568 กำไรของโรงไฟฟ้า SPP จะฟื้นตัวแข็งแกร่ง
