วันนี้คาดตลาด “Sideways”

แนวรับ 1,380 / 1,366 แนวต้าน 1,390 / 1,400

คาดตลาดจะให้ความสนใจกับการติดตามการประชุม FOMC ในสัปดาห์นี้ ขณะที่สถานการณ์ในตะวันออกกลางยังมีความไม่แน่นอน ส่งผลให้ตลาดผันผวนได้บ้าง ปัจจัยภายในประเทศติดตามความคืบหน้าของนโยบายดิจิทัลวอลเล็ตต่อ

Our View? “ใจสู้หรือเปล่า?”

คาดตลาดวันนี้ “Sideways” มองแนวรับที่บริเวณ 1,380 / 1,366 และแนวต้านที่บริเวณ 1,390 / 1,400 สัปดาห์นี้เราให้น้ำหนักไปกับการติดตามการประชุม FOMC ของธนาคารกลางสหรัฐ (FED) ในวันที่ 31 ต.ค. – 1 พ.ย. นี้ โดยตลาดคาดว่า FED จะยังคงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับ 5.25-5.50% ต่อไป อย่างไรก็ตาม ต้องติดตามถ้อยแถลงของคุณเจอโรม พาวเวล ประธาน FED ถึงมุมมองที่ FED มีต่อเศรษฐกิจสหรัฐและแนวโน้มของการปรับใช้นโยบายทางการเงินในระยะถัดไป จากการที่เศรษฐกิจสหรัฐยังมีความแข็งแกร่งมากกว่าที่ตลาดคาด รวมทั้งอัตราเงินเฟ้อยังอยู่ในระดับสูง สร้างความกังวลถึงโอกาสที่ FED จะคงอัตราดอกเบี้ยในระดับสูงยาวนานกว่าที่ตลาดคาดการณ์ไว้ โดยเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา กระทรวงพาณิชย์สหรัฐรายงานตัวเลขดัชนีราคาการใช้จ่ายเพื่อการบริโภคส่วนบุคคล (PCE) เดือน ก.ย.ออกมาอยู่ที่ระดับ +0.4%MoM / +3.4%YoY ใกล้เคียงกับที่ตลาดคาด กระตุ้นความกังวลดังกล่าวเพิ่มเติม อย่างไรก็ดี เรายังมีมุมมองเชิงบวกต่อการที่อัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐ (US-Bond Yield) ปรับตัวแรง รับรู้ประเด็นดังกล่าวไปบ้างในระดับหนึ่งแล้ว ขณะที่ปัจจุบันเริ่มอ่อนตัวลงจากระดับ 5.0% เช้านี้อยู่ที่ระดับ 4.8%+/- มองเป็นปัจจัยลดทอนแรงกดด้นของราคาสินทรัพย์เสี่ยงได้บ้าง

ในส่วนของความไม่สงบในตะวันออกกลาง กลุ่มฮามาสส่งสัญญาณถึงความพร้อมในการเจรจาเพื่อปล่อยตัวประกัน  หลังอิสราเอลปฏิบัติการโจมตีทางภาคพื้นดิน มองเป็นจิตวิทยาเชิงบวกกับทิศทางราคาสินทรัพย์เสี่ยงได้บ้าง อย่างไรก็ตามเรามองประเด็นดังกล่าวยังมีความไม่แน่นอนค่อนข้างสูง คาดจะยังเป็น Noise รบกวนตลาดได้ต่อไป

อย่างไรก็ดีเรายังมีมุมมองเชิงบวกต่อการที่จีนออกนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจ โดยจะออกพันธบัตรรัฐบาลเพิ่มเติมอีก 1 ล้านล้านหยวน เพื่อพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานภายในประเทศ ซึ่งจะส่งผลให้การขาดดุลงบประมาณปี 66 ของจีนปรับตัวขึ้นจากระดับ 3.0% เป็น 3.8% คาดจะสามารถกระตุ้นเศรษฐกิจจีนในช่วงปีหน้าได้ เรามองเป็นจิตวิทยาเชิงบวกต่อหุ้นในกลุ่มปิโตรเคมี (SCC, PTTGC และ IVL) ได้บ้างในระยะสั้น

ทางด้านราคาสัญญาน้ำมันดิบล่วงหน้า WTI. ส่งมอบเดือน ธ.ค. เมื่อคืนวันศุกร์ที่ผ่านมา ดีดตัวขึ้นปิดที่ระดับ 85.54 ดอลลาร์/บาร์เรล +2.33 ดอลลาร์ (+2.80%) ได้รับแรงหนุนจากความตึงเครียดในตะวันออกกลาง คาดจะหนุนทิศทางหุ้นในกลุ่มพลังงานได้บ้าง แต่อย่างไรก็ตามเรายังมองแนวโน้มที่ FED มีโอกาสคงอัตราดอกเบี้ยในระดับสูงต่อไป ซึ่งจะส่งผลกระทบต่ออุปสงค์น้ำมัน รวมทั้งประเด็นสหรัฐมีโอกาสจะคลายมาตรการคว่ำบาตรมีต่ออุตสาหกรรมน้ำมันของเวเนซุเอลาเพื่อเพิ่มอุปทานน้ำมันเข้าสู่ตลาด เป็นปัจจัยจำกัด Upside ของราคาน้ำมัน-หุ้นในกลุ่มพลังงานได้อยู่

สำหรับปัจจัยในประเทศเราคาดว่าตลาดยังคงติดตามการออกนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจของไทย โดยเฉพาะโครงการดิจิทัลวอลเล็ต 1 หมื่นบาท ที่ยังมีความไม่แน่นอนค่อนข้างสูง โดยให้น้ำหนักไปที่แหล่งที่มาของงบประมาณดังกล่าง ขณะที่เริ่มมีการปรับเงื่อนไขการแจกเงินดิจิทัลวอลเล็ตอาทิให้ใช้ได้กว้างขึ้นจาก 4 ก.ม.เป็นภายในอำเภอ รวมทั้งตัดสิทธิ์ผู้มีรายได้มาก โดยแบ่งออกเป็น 3 แนวทาง คาดยังเป็นปัจจัย Overhang ตลาดได้อยู่ โดยเรามองหากมีความชัดเจนมากขึ้นคาดจะเป็นจิตวิทยาเชิงบวกต่อแนวโน้มโอกาสที่โครงการดังกล่าวจะสามารถออกมาตรการได้ในช่วง 1Q’67 ซึ่งอาจเห็นแรงซื้อกลับหุ้นไทยได้ในระยะถัดไป

ธีมการลงทุน “Selective Play”

หุ้นแนะนำวันนี้ “ROJNA”

  • คาดราคาปรับตัวลงรับรู้ความกังวลในส่วนของกำไรจากโรงไฟฟ้าที่ลดลง รวมทั้งผลกระทบจากการบันทึกผลขาดทุนจากเงินลงทุนใน GULF ไปบ้างในระดับหนึ่งแล้ว ขณะที่ในส่วนของธุรกิจนิคมฯ ช่วง 3Q’66 คาดจะเติบโตขึ้นโดดเด่นจากยอดขายที่ดินให้กับนักลงทุนจีน หนุนราคาฟื้นตัวขึ้นได้ทางเทคนิค
  • ภาพรายสัปดาห์ราคาอ่อนตัวลงทดสอบแนวรับที่เส้นแนวโน้มขาขึ้นแล้วชะลอการอ่อนตัวลงทำรูปแบบ Doji ขณะที่ SSTO เข้าใกล้ภาวะ Oversold แล้ว
  • กลยุทธ์ ซื้อสะสม แนวรับ 5.65 / 5.50 Target 6.20 / 7.00 Stop <5.40

- Advertisement -