บล.เคจีไอ (ประเทศไทย):

Major Cineplex Group (MAJOR.BK/MAJOR TB)

ประมาณการ 3Q66F : คาดกำไรพุ่งแรง YoY แต่อ่อนตัว QoQ

Event

ประมาณการ 3Q66F

Impact

คาดกำไรสุทธิพุ่งขึ้น YoY แต่อ่อนตัว QoQ

เราประเมินว่า MAJOR จะรายงานกำไรสุทธิ 3Q66F ที่ 113 ล้านบาท (+445% YoY แต่ -79% QoQ) กำไร
พุ่งขึ้นเด่น YoY เนื่องจากการได้เครดิตภาษีเงินคืนของการขายหุ้น MPIC อยู่ราว 100 ล้านบาท และฐาน 3Q65 ที่ต่ำมาก ส่วนกำไรแย่ลง QoQ หลักๆ เป็นเพราะมีกำไรพิเศษของการขายหุ้น MPIC มูลค่า 346 ล้านบาทใน 2Q66 และเป็นช่วง high season ของหนังดังจาก Hollywood เข้าฉายใน 2Q66 ทั้งนี้ เราคาดกำไรสุทธิ 9M66F ที่ 715 ล้านบาท (+306% YoY) คิดเป็น 75% ของประมาณการเต็มปีนี้ของเรา

ไตรมาสสามของปีปกติเป็นช่วง low season เราจึงคาดรายได้ 3Q66F อยู่ที่ 1.7 พันล้านบาท (ทรงตัว YoY
แต่ -24% QoQ) เนื่องจาก i) รายได้จากการขายตั๋วหนังลดลงเหลือ 805 ล้านบาท (-6% YoY และ -32%
QoQ) ii) ยอดขายเครื่องดื่มและขนมขบเคี้ยวลดลงอยู่ที่ 450 ล้านบาท (-5% YoY และ -31% QoQ) iii)
รายได้จากค่าโฆษณาดีขึ้นอยู่ที่ 270 ล้านบาท (+55% YoY และ +11% QoQ) ผลจากการทำสัญญากับผู้ซื้อ
โฆษณารายใหม่และ iv) รายได้จากการดำเนินงานอื่นต่ำลง (ธุรกิจโบว์ลิ่ง ธุรกิจให้เช่า และธุรกิจสื่อ
ภาพยนตร์) รวมอยู่ที่ 205 ล้านบาท (-2% YoY และ -1% QoQ) ขณะที่อัตรากำไรขั้นต้น 3Q66F อาจต่ำลง
ทั้ง YoY และ QoQ อยู่ที่ 29.2% (เทียบกับ 31.6%/32.9% ใน 3Q65/2Q66) ในแง่ค่าใช้จ่ายในการขายและ
บริหารคาดเพิ่มขึ้น 10% YoY แต่ลดลง 2% QoQ ทำให้สัดส่วนค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารต่อยอดขายใน 3Q66F พุ่งขึ้นอยู่ที่ 29.9% (เทียบกับ 27.5% ใน 3Q65 และ 23.1% ใน 2Q66)

กำไรน่าจะฟื้นตัวใน 4Q66F

เราคาดกำไรสุทธิ 4Q66F ฟื้นตัวแรงแข็งแกร่ง YoY และ QoQ สนับสนุนจากหนังใหญ่ดังจากค่าย Hollywood และภาพยนตร์ไทยโกยเงินสูงอีกหลายเรื่อง (เช่น The Marvels, Aquaman and the Lost Kingdom, สัปเหร่อ, 4 Kings ภาค 2 และ ธี่หยด ) ช่วยผลักดันให้มีจำนวนผู้เข้าชมหนาแน่นขึ้น นอกจากนั้น ผลดีจากผู้เข้าชมภาพยนตร์มากขึ้น และการออกสินค้าใหม่ป๊อบคอร์นพร้อมทานที่วางขายในร้านสะดวกซื้อ 7-11 (ตั้งแต่ปลาย 3Q66) ทำให้ยอดขายเครื่องดื่มและขนมขบเคี้ยว 4Q66F ดีขึ้น ทั้งนี้ เราคงประมาณการกำไรปีนี้อยู่ที่ 955 ล้านบาท (+279% YoY) และปี 2567F อยู่ที่ 816 ล้านบาท (-15% YoY)

Valuation & Action

เราคงคำแนะนำซื้อ ประเมินราคาเป้าหมายด้วยวิธีคิดลดกระแสเงินสด (DCF) ณ สิ้นปี 2567 อยู่ที่ 20.60
บาท (ใช้ WACC ที่ 7.6% และ terminal growth rate ที่ 0.5%) ทั้งนี้ เรามองว่าราคาหุ้น MAJOR จะได้รับ
แรงสนับสนุนจาก i) ความคาดหวังกำไรใน 4Q66F ฟื้นตัวจากหนังใหญ่เด่นดังของค่าย Hollywood และ
ภาพยนตร์ไทย ทำให้มีผู้เข้าชมล้นหลาม และ ii) ผลบวกจากการซื้อหุ้นคืน 8.05% (ช่วง 16 ตุลาคม 2566
ถึง 15 มกราคม 2567) ด้วยวงเงิน 1.0 พันล้านบาท

Risks

รายได้จากโรงภาพยนต์ต่ำกว่าคาด

- Advertisement -