บล.เคจีไอ (ประเทศไทย):

Gulf Energy Development (GULF.BK/GULF TB)*

ประมาณการ 3Q66F: กำไรจะขึ้นทำสถิติสูงสุดใหม่

Event

ประมาณการ 3Q66F และปรับลดกำไรเต็มปี

Impact

ประมาณการ 3Q66F – กำไรหลักจะทำสถิติสูงสุดใหม่

วันที่ 9 พ.ย. เราคาดว่า GULF จะมีกำไรสุทธิใน 3Q66F จะอยู่ที่ 3.3 พันล้านบาท (+14% QoQ, +204%
YoY) แต่หากไม่รวมขาดทุน FX 3Q23F กำไรหลักจะอยู่ที่ 4.0 พันล้านบาท (+13% QoQ, +85% YoY)
ทำให้กำไรหลัก 9M66F เพิ่มขึ้นเป็น 1.12 หมื่นล้านบาท (+32% YoY) คิดเป็น 70% ของกำไรปี 2566F
เนื่องจากผลการดำเนินงานของ SPPs แข็งแกร่งขึ้น และเริ่มเปิดดำเนินการโครงการ IPPs

ผลการดำเนินงานของ SPPs และบริษัทร่วมมีแนวโน้มสดใส

กำไรที่พุ่งสูงขึ้น YoY จะมาจากผลการดำเนินงานที่แข็งแกร่งขึ้นของ SPPs, การเริ่มรับรู้ผลการดำเนินงานของ GPD Unit1, การรับรู้ผลการดำเนินงานเต็มที่ของ GSRC Unit 3-4 (928MWe) และ JV ของ GGC ส่วนกำไรที่เพิ่มขึ้น QoQ จะเป็นเพราะส่วนแบ่งกำไรเพิ่มขึ้น (นำโดย Jackson) และผลการดำเนินงานของ SPPs แข็งแกร่งขึ้น ซึ่งนอกจากจะปิดซ่อมบำรุง SPPs น้อยลงแล้ว ราคาก๊าซ SPP ที่ลดลงเหลือ 360 บาท/mmbtu (-46 บาท QoQ) น่าจะมีน้ำหนักมากกว่าค่า Ft เฉลี่ยที่ลดลง 0.67 บาท/kWh (-Bt0.45 QoQ) ส่งผลให้ GPM ของ GULF เพิ่มเป็น 20.9% (จาก 16.7% ใน 2Q66) เราคาดว่า Jackson น่าจะพลิกฟื้นได้อย่างแข็งแกร่ง จากราคาก๊าซที่พุ่งสูงขึ้น และการกลับมาเปิดดำเนินการหลังจากที่ปิดซ่อมบำรุงตามแผนไปใน 2Q66 ในขณะที่คาดว่าผลการดำเนินงานของทั้ง PTTNGD และ JV ของ GGC จะแข็งแกร่งขึ้นทั้งคู่จากต้นทุนก๊าซที่ลดลง และความเร็วลมที่เพิ่มขึ้น ทั้งนี้ เราคาดว่ารายได้ขายไฟจะลดลง 29% QoQ เนื่องจากการส่งผ่านผลของน้ำมันเชื้อเพลิง และการจ่ายไฟฟ้าให้กับ กฟผ. ผ่าน IPPs ลดลง

ปรับลดประมาณการกำไรสุทธิปี 2566-68F ลง 7-10%

การปรับลดกำไรสะท้อนถึงผลขาดทุน FX ใน 9M66, ต้นทุนดอกเบี้ยที่สูงขึ้น, สมตติฐานค่า Ft ที่ลดลง และรายได้ดอกเบี้ยที่สูงขึ้น ซึ่งหลังจากที่ปรับประมาณการใหม่แล้ว เราคาดว่ากำไรสุทธิปี 2566-2568F จะโต 26% YoY / 27% YoY / 16% YoY จากหลาย ๆ โครงการที่อยู่ใน pipeline เราคาดว่ากำไรจากธุรกิจหลักใน 4Q66 จะเพิ่มขึ้น QoQ จากการเริ่มรับรู้ผลการดำเนินงานของ GPD Unit 2 (464MWe ตั้งแต่เดือนตุลาคม 2566) แม้ว่าผลการดำเนินงานของ SPPs จะอ่อนแอลง ในขณะที่ต้นทุนดอกเบี้ย และ SG&A สูงขึ้น ทั้งนี้ GULF ได้ออกหุ้นกู้ 1.5 หมื่นล้านบาทในเดือนกันยายน โดย GULF จะเผชิญกับค่า Ft ที่ลดลงเหลือ 0.20 บาท/kWh (-0.47 บาท QoQ) ในขณะที่ราคาก๊าซ SPP ลดลงเหลือ 330 บาท/mmbtu ทั้งนี้ ค่า Ft ที่ลดลงทุก ๆ 1 สตางค์/kWh จะกระทบกับกำรเต็มปี 30-35 ล้านบาท

Valuation & Action

เรายังแนะนำ ซื้อ GULF แต่ราคาเป้าหมายเหลือ 55.00 บาท (เดิม 60.00 บาท) เรามองว่า GULF น่าจะเติบโตราบรื่นและโดดเด่นขึ้นในอีกห้าปีข้างหน้า เพราะทุกปีจะมีโครงการที่อยู่ใน pipeline รวมถึงการลงทุนในธุรกิจโครงสร้างพื้นฐาน ซึ่งจะทำให้ GULF แตกต่างจากกลุ่ม O และ ROE กับ ROA ออกมาดี

Risks

การปิดซ่อมบำรุงนอกแผน, ปัญหา cost overrun และความผันผวนของ FX และ อัตราดอกกเบี้ย

- Advertisement -