รอดูผลประกอบการที่ทยอยประกาศออกมา
Market Update
ตลาดหุ้น Dow Jones เมื่อคืนปิดบวก 1.58% ได้แรงหนุนจากผลประกอบการบริษัทจดทะเบียน หลังรายงานสูงกว่านักวิเคราะห์คาดการณ์ ด้านราคาน้ำมันดิบ BRT ปิดลบ 3.3% หลังนักลงทุนมองว่าสถานการณ์อิสราเอลจะไม่กระทบกับอุปทานน้ำมัน
Market Outlook
การปรับตัวขึ้นเมื่อคืนของ Dow Jones อาจพอช่วยหนุนตลาดหุ้นไทยในวันนี้ได้บ้าง แต่ก็เชื่อว่าผลกระทบจำกัด เนื่องจากเป็นปัจจัยเฉพาะของตลาดหุ้นสหรัฐฯ กับเรื่องของผลประกอบการ ซึ่งเช้านี้ Nikkei เคลื่อนไหวเพียง (-0.06%) ประกอบกับราคาน้ำมันดิบ BRT ที่ปรับฐานแรงจะสร้างแรงกดดันต่อกลุ่มน้ำมัน ขณะที่ปัจจัยมหภาคอย่างการเคลื่อนไหวของ US Bond Yield ยังไม่เห็นสัญญาณเชิงบวก (อายุ 10 ปี) ยังทรงตัวระดับสูง พร้อมกับ Dollar Index ที่ทรงตัวระดับสูงในทางแข็งค่า เชื่อว่านักลงทุนกำลังรอดูผลประชุม FED ที่จะทราบผลอย่างเป็นทางการในวันพฤหัสบดีช่วงเช้าตามเวลาประเทศไทย ข้อมูลล่าสุดจาก CME FED Watch ให้น้ำหนัก 95% ที่ FED จะคงดอกเบี้ยไว้ที่ระดับเดิม
สำหรับเช้านี้รอติดตาม PMI ของจีนช่วงเวลา 8.30 น. ตามเวลาประเทศไทย Bloomberg ประเมินไว้ที่ 50.2 รวมถึง PMI ที่มิใช่ภาคผลิต Bloomberg ประเมินไว้ที่ 51.9 ส่วนในประเทศช่วงบ่ายรอติดตามแถลงเศรษฐกิจไทยจากธนาคารแห่งประเทศไทยพร้อมกับดุลบัญชีเดินสะพัด Bloomberg ประเมินไว้เกินดุล 2.1 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ หากเกินดุลมากกว่าคาดจะเป็นปัจจัยบวกต่อค่าเงินบาท รวมถึงจิตวิทยาเชิงบวกต่อกระแสเงินทุนต่างชาติ
ด้านผลประกอบการบริษัทจดทะเบียนวานนี้กำไรที่ดีกว่า Bloomberg คาดประกอบไปด้วย (ADVANC DELTA ITC) อย่างไรก็ตาม ยังไม่เห็นประมาณการกำไรบริษัทจดทะเบียนจาก Bloomberg ปรับขึ้น ปัจจัยติดตามคืนนี้ได้แก่ ความเชื่อมั่นผู้บริโภคจากสถาบัน CB Bloomberg ประเมินไว้ที่ 100.5 วันนี้ประเมิน SET INDEX เคลื่อนไหวในกรอบ 1390 – 1405 เชิงกลยุทธ์การลงทุนยังแนะ SET INDEX ระดับปัจจุบันเป็นโอกาสสะสมของการลงทุนระยะกลาง – ยาว จากระดับ Valuation ที่น่าสนใจ ซึ่งล่าสุดซื้อขายเพียง 14x PE 2024 ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยในรอบ 15 ปีย้อนหลังที่ 15.5x ประกอบกับในเชิง PBV ลงมาต่ำกว่าบริเวณ -1SD ใบรอบ 15 ปีเช่นกัน โดยแนะสะสมในกลุ่มหุ้นขนาดใหญ่ อาทิ ค้าปลีก (BJC CPALL HMPRO) ท่องเที่ยว (AOT CENTEL MINT) ธนาคารพาณิชย์ (BBL KBANK KTB SCB) ศูนย์การค้า (CPN) ส่งออก (TU)
หุ้นแนะนำซื้อวันนี้
TU (ซื้อ / ราคาเป้าหมาย 16.90 บาท)
ปัจจัยบวกคือกำไรขั้นต้นที่ดีขึ้นต่อเนื่องหลังต้นทุนปรับตัวลดลง ทั้งนี้การลดลงของต้นทุนเมื่อรวมกับค่าเงินบาทที่อ่อนค่าลงจะเห็นผลดีชัดเจนในช่วง 4Q23 เป็นต้นไป ซึ่งจะทำให้ผลประกอบการงวดดังกล่าวมีโอกาสที่จะออกมาดีที่สุดในรอบปี
ADVANC (ซื้อ / ราคาเป้าหมาย 249.00 บาท)
ผลประกอบการ 3Q23 ค่อนข้างสดใส รายงานกำไรสุทธิที่ 8.1 พันล้านบาท (+35%YoY +13%QoQ) ได้แรงหนุนจากกำไรขั้นต้นที่ขยายตัว 8.4%YoY ประกอบกับค่าใช้จ่ายทางการตลาดที่ลดลง 38%YoY
