บล.ฟิลลิป:

แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส – ADVANC ดีจากพื้นฐาน และจะเข้าสู่ High Season

Key Point

3Q66 กำไรดีกว่าคาดสู่ 8,146 ล้านบาท. +35%y-y ทำให้ทางฝ่ายยังมองปีนี้กำไรอาจแตะระดับ 3 หมื่นล้านบาท ได้ไม่ยาก โดยเฉพาะในช่วง 4Q66 ที่กำลังจะเข้าสู่ High Season ซึ่งจะรับรู้ยอดขายเครื่องมือถือ พร้อมแพ็คเกจที่เต็มไตรมาส นอกจากนี้ยังได้ประโยชน์จากสภาวะแข่งขันที่ลดลง ทำให้ ARPU ทยอยปรับเพิ่มขึ้น ทางฝ่ายมองราคาพื้นฐานปี 67 ที่ 250 บาท กับ Upside 14.15% จึงคงคำแนะนำ “ซื้อ”

กำไรเติบโตแบบ q-q และ y-y

งวด 3Q66 รายได้รวมที่ 46,069 ล้านบาท (+2.9%q-q, -0.4%y-y) โดยรายได้ฝั่งโครงข่ายโทรศัพท์เคลื่อนที่ใกล้เคียง 2Q66 ที่ 29,495 ล้านบาท สู่ 3Q66 ที่ 29,311 ล้านบาท (-0.6%q-q, +0.7%y-y) แต่หากพิจารณารายละเอียดแล้ว พบว่าบริษัทมีความพยายามยกเลิก, ไม่ต่อสัญญาแพ็คเกจราคาประหยัดดังที่ได้กล่าวไว้ก่อนนี้ ทำให้ ARPU เพิ่มขึ้นเป็นเดือนที่ 2 ติดต่อกัน นอกจากนี้บริษัทยังมีการเติบโตของลูกค้ากลุ่มองค์กรที่เพิ่มขึ้น และกำลังซื้อผู้บริโภคที่ฟื้นตัว ทำให้ Blend ARPU งวด 2Q66 ที่ 213 บาทต่อเดือนต่อเลขหมาย (Pre-paid 123 บาท, Post-paid 448 บาท) สู่ 3Q66 ที่ 216 บาทต่อเดือนต่อเลขหมาย (Pre-paid 125 บาท, Post-paid 446 บาท) อย่างไรก็ตาม ปัจจัยดังกล่าวทำให้ Subscriber โทรศัพท์เคลื่อนที่รวมนั้นลดลงเป็นเดือนที่สองติดต่อกันด้วยเช่นกัน จาก 2Q66 ที่ 45.32 ล้านเลขหมาย สู่ 3Q66 ที่ 44.45 ล้านเลขหมาย (-8.67 แสนเลขหมาย) ด้านธุรกิจ Fixed Broadband ยังเติบโต โดย ARPU เพิ่มจาก 2Q66 ที่ 414 บาท สู่ 3Q66 ที่ 428 บาท และมี Subscriber เพิ่มจากงวด 2Q66 ที่ 2.33 ล้านเลขหมาย สู่ 3Q66 ที่ 2.38 ล้านเลขหมาย ทำให้สัดส่วนรายได้จาก Fixed Broadband เทียบรายได้รวมมีมากขึ้นจาก 2Q66 ที่ 6.4% สู่ 3Q66 ที่ 6.6% จากกล ยุทธ์การขายแพ็คเกจและบริการเสริมรูปแบบต่าง ๆ อย่างไรก็ตาม ยอดขายเครื่องโทรศัพท์มือถือรุ่นใหม่งวด 3Q66 นี้ไม่ได้เติบโตมากนัก เป็นผลจากการเปิดตัวและส่งมอบ iPhone 15 ที่อยู่ในช่วงท้ายไตรมาส ทำให้คาดว่าจะรับรู้ยอดขายที่ชัดเจนและเต็มไตรมาสกว่าในไตรมาสหน้า ด้านต้นทุนรวม 30,306 ล้านบาท (+2.0%q-q, -4.4%y-y) ซึ่งต้นทุนยังคง Flat แต่ได้ประโยชน์จากการตัดค่าเสื่อมราคาอุปกรณ์ 3G ที่เต็มจำนวน ทั้งหมดนี้จึงทำให้กำไรงวด 3Q66 ดีกว่าคาดไว้สู่ 8,146 ล้านบาท (+13.5%q-q, +35.1у-y)

ทางฝ่ายคาดงวด 4Q66 ซึ่งเข้าสู่เข้า High Season จะทำให้ ADVANC ดีได้อีก

ดีล TTTBB และ JASIF ปัจจุบันยังประสบปัญหาถูกเลื่อนพิจารณาจากทางภาครัฐ แม้ว่าในสมมุติฐานทางฝ่ายจะยังให้น้ำหนักว่าดีลเข้าซื้อ JASIF และ TTTBB จะสำเร็จอยู่ และได้ปรับสมมติฐานอันล่าช้าออกไปแล้ว แต่สำหรับผลบวกในปีนี้จะไม่โดดเด่น เนื่องจากปีนี้เหลือไม่เต็มหนึ่งไตรมาสสุดท้าย ทำให้คาดจะรับรู้เต็มที่ได้ในปี 2567 เป็นต้นไป อย่างไรก็ตาม บริษัทยังมีปัจจัยบวกเข้าสนับสนุนทั้งจาก 1) ภาพเศรษฐกิจโดยรวม ที่กำลังซื้อผู้บริโภคทยอยฟื้นตัว, เงินเฟ้อของไทยที่อยู่ในระดับต่ำ ทำให้อำนาจซื้อผู้บริโภคไม่ถูกลดทอนมากนัก 2) บริษัทกำลังเข้าสู่ช่วงไตรมาส 4Q ซึ่งเป็น High Season ทางธุรกิจปีแรกที่ไม่ต้องเผชิญโรคระบาด ทำให้คาดว่าจะช่วยหนุนนักท่องเที่ยวเปิดใช้งานซิมการ์ด และหนุนลูกค้าเดิมเปิด Roaming มากขึ้น

พื้นฐานดี, Upside มี คำแนะนำ “ซื้อ”

สรุปงวด 9M66 บริษัทสามารถสะสมกำไรได้ 22,084 ล้านบาท (+18.4% y-y) สะท้อนผลการดำเนินงานที่ทำได้ดีมาก ทางฝ่ายมองปัจจัยลบเรื่องดีลควบรวมที่ถูกเลื่อนออกไปกระทบไม่มาก และตลาดได้ Price-in ไปแล้ว โดยพิจารณาได้จากวันที่นัดประชุมรอบ 4 ต.ค. ที่ผ่านมา และภายหลังถูกเลื่อนประชุม ราคาปิดของวันที่ 3 และ 4 ต.ค. นั้นไม่เปลี่ยนแปลงไปจากระดับ 226 บาทต่อหุ้น จึงมองเป็นหุ้นที่มี Downside ค่อนข้างจำกัด ด้านภาพรวมธุรกิจทางฝ่ายยังมองมีโอกาสเติบโตดังที่กล่าวไป ทั้งจากแรงหนุนด้านมหภาคด้วยสภาวะเศรษฐกิจ, Fixed Broadband ที่เติบโตโดดเด่นแบบ Double Digits (y-y) สำหรับกำไรปีนี้คาดไว้ที่ 30,766 ล้านบาท (+18.3% y-y) คงราคาเป้าหมายปี 2567 ประเมินไว้ที่ 250.00 บาทต่อหุ้น มี Upside 14.15% ทางฝ่ายจึงคงคำแนะนำ “ซื้อ”

ความเสี่ยง

  1. ความเสี่ยงจากการเปลี่ยนแปลงด้านคลื่นความถี่
  2. ความเสี่ยงจากการแข่งขันที่รุนแรงในธุรกิจผู้ให้บริการโทรคมนาคม
  3. ความเสี่ยงจากภาวะเศรษฐกิจชะลอตัว
- Advertisement -