บล.เคจีไอ (ประเทศไทย):

Delta Electronics (Thailand) (DELTA.BK/DELTA TB)*

มีประเด็นที่ต้องระวัง

Event

ประชุมนักวิเคราะห์

Impact

ยังต้องระวังแนวโน้มระยะสั้น แต่น่าจะยังโตได้ถึงสองหลักในระยะกลาง

ถึงแม้ว่ายอดขายของบริษัทจะทำสถิติสูงสุดใหม่ใน 3Q66 ที่ 1,129 ล้านดอลลาร์ฯ แต่บริษัทมองแนวโน้มในไตรมาสสี่แบบอนุรักษ์นิยม เนื่องจากมีการเลื่อนคำสั่งซื้อ เพราะความกังวลเกียวกับอุปสงค์ในภาพรวม ซึ่งทำให้ลูกค้าของบริษัทเลือกรอดูสถานการณ์ไปกอน โดยเฉพาะในกลุ่มยานยนต์ (ประมาณ 30% ของรายได้รวม) และกลุ่ม data center (ประมาณ 25% ของรายได้รวม) ซึ่งอาจจะทำให้ยอดขายใน 4Q66 ลดลง QoQ แต่น่าจะยังเพิ่มขึ้น YoY (เพราะกลุ่มยานยนต์หลังจากที่มีการขยายกำลังการผลิต) อย่างไรก็ตาม แนวโน้มคำสั่งซื้อของกลุ่ม data center ยังแข็งแกร่งในอีก 3-6 เดือนข้างหน้า โดยคาดว่าจะเติบโตในระดับปานกลาง (KGI Taiwan คาดว่ายอดส่งออก server ทั้งโลกจะเพิ่มขึ้น 15% YoY ในปี 2567F) นอกจากนี้ บริษัทยังมีแผนจะขยายกำลังการผลิต (กลุ่มยานยนต์) อีกประมาณ 40% ในปี 2567 เพื่อรองรับคำสั่งซื้อที่ได้มาตั้งแต่ปี 2563 บริษัทตั้งเป้าอัตราการเติบโตของรายได้ในปี 2567 อยู่ในช่วง 15-20% (สูงกว่าสมมติฐานของเราที่ 14%)

อัตรากำไรขั้นต้นจะแผ่วลง

product mix ที่ไม่ดีเหมือนเดิมจะกดดันอัตรากำไรขั้นต้นของบริษัท แต่การอ่อนค่าของเงินบาทอาจจะช่วยชดเชยได้  และทำให้อัตรากำไรขั้นต้นใน 4Q66 อยู่ที่ประมาณ 22.6% ซึ่งใกล้เคียงกับ 3Q66 ทั้งนี้ อัตราแลกเปลี่ยนเฉลี่ย QTD อยู่ที่ 36.50 บาท/ดอลลาร์ฯ สำหรับแนวโน้มในระยะกลางถึงยาว เราคาดว่าอัตรากำไรขั้นต้นจะดีขึ้น เนื่องจากอัตรากำไรขั้นต้นของกลุ่มยานยนต์เพิ่มขึ้นเป็น 20% (จาก 16.1% ใน 3Q66) ในขณะเดียวกัน บริษัทจะยังคงเน้นคุมต้นทุน อย่างเช่น การนำระบบอัตโนมัติมาใช้เพื่อคุมค่าใช้จ่าย SG&A

กำไรใน 4Q66 จะลดลง QoQ แต่เพิ่มขึ้น YoY

ถึงแม้ว่าจะต้องระมัดระวังแนวโน้มระยะสั้น แต่บริษัทเตรียมตัวรับมืออย่างดี ในขณะที่ความพยายามเข้าไปจับลูกค้ากลุ่มที่อยู่ในกระแสโลกจะช่วยหนุนการเติบโตของกำไร DELTA เราคาดว่ากำไรใน 4Q66 ของ DELTA จะลดลง QoQ แต่จะยังเพิ่มขึ้น YoY และกำไรเต็มปีนี้ยังน่าจะโตได้ 15% YoY

Valuation & action

เรายังคงราคาเป้าหมายสิ้นปี 2567 ที่ 100.00 บาท อิงจาก PER ที่ 64.0x (ค่าเฉลี่ยในอดีต +1.0 S.D.) และ
ยังคงคำแนะนำซื้อ

Risks

ภัยธรรมชาติ, มีการปิดโรงงานนอกแผน, ลูกค้าเปลี่ยนไปสั่งสินค้าจาก supplier รายอื่น, ขาดแคลนวัตถุดิบ, เงินบาทแข็งค่าขึ้น (เราใช้สมมติฐานอัตราแลกเปลี่ยนปี 2566-67 ที่ 33.80 บาท/ดอลลาร์ฯ)

- Advertisement -