บล.หยวนต้า (ประเทศไทย):
Dohome (DOHOME) กำไรดีต่อเนื่องไปยังปี 2567
Action BUY (Maintain)
- TP upside (downside) +20.6%
- Close Oct 30, 2023 Price (THB) 11.30
- 12M Target (THB) 13.60
- Pervious Target (THB) 13.60
What’s new?
- คาดกำไรสุทธิ 3Q66 อยู่ที่ 79 ล้านบาท (+99.4% QoQ , +56.1% YoY) ได้แรงหนุนจากSSSG ติดลบน้อยลงเป็น -7.0% ดีขึ้นจาก 2Q66 ที่ -9.9% และ GPM ดีขึ้นหลังเริ่มใช้ต้นทุนสินค้ารอบใหม่ที่ถูกลง และไม่มีการจัดโปรโมชั่นเร่งระบายสต็อกสินค้าเหมือนช่วง 2Q66
- ดัชนีรายได้เกษตร เดือน ก.ย. +3.5% พลิกลับมาเป็นบวกครั้งแรกในรอบ 5 เดือน ทั้งนี้เรามองว่ารายได้เกษตรจะปรับตัวดีขึ้นต่อเนื่อง หนุนจากราคาสินค้าเกษตรที่ปรับตัวขึ้น เช่น ข้าว, น้ำตาล
Our view
- คาดผลประกอบการ 4Q66 อยู่ที่ 170 ล้าบาท ได้แรงหนุนจาก SSSG ติดลบน้อยลงถึงมีโอกาสพลิกกลับมาเป็นบวก และอัตรากำไรขั้นต้นปรับตัวดีขึ้น
- มีมุมมองเป็นบวกต่อแนวโน้มผลประกอบการในช่วงที่เหลือของปี และคาดดีต่อเนื่องไปยังปี 2567
- คงคำแนะนำ “ซื้อ” ที่ราคาเหมาะสมปี 2567 ที่ 13.60 บาท
คาดกำไร 3Q66 โตเด่นทั้ง QoQ และ YoY
คาดกำไรสุทธิ 3Q66 อยู่ที่ 79 ล้านบาท (+99.4% QoQ, +56.1% YoY) โดยคาดรายได้อยู่ที่ 7.99 พันล้านบาท (-3.7% QoQ , +3.0% Yoy) ได้แรงหนุนจาก SSSG ฟื้นตัว คาดติดลบ 7.0% ดีขึ้นจาก 2Q66 ที่ -9.9% ตามยอดขายลูกค้ารายย่อยที่ฟื้นตัว โดยเฉพาะสาขาในภาคอีสาน เช่นนครราชสีมา, อุบลราชธานี และคำสั่งซื้อจากกลุ่มงานโครงการทั้งภาครัฐและเอกชนปรับตัวดีขึ้น หลังการจัดตั้งรัฐบาลมีความชัดเจน รวมทั้งมีการเปิดสาขาใหม่ 2 สาขา ขณะที่ GPM คาดอยู่ที่ 15.3% ดีขึ้นจาก 2Q66 ที่ 14.0% หลังเริ่มใช้ต้นทุนสินค้ารอบใหม่ที่ถูกลง และไม่มีการจัดโปรโมชั่นเร่งระบายสต็อกสินค้าเหมือนช่วง 2Q66 ส่วน SG&A/Sales ปรับเพิ่มขึ้นเล็กน้อยเป็น 12.9% จาก 3Q65 ที่ 12.7% เป็นผลจากค่าใช้จ่ายในการเปิดสาขาใหม่บางส่วน
แนวโน้มผลประกอบการ 4Q66 โตเด่นจากฐานที่ต่ำ
เราคาดผลประกอบการ 4Q66 อยู่ที่ 170 ล้านบาท โตเด่นจากฐานที่ต่ำในปีก่อนหน้าที่ 24 ล้านบาท เนื่องจากได้รับผลกระทบจากน้ำท่วมที่อุบลราชธานี อย่างไรก็ดี 4Q66 คาดรายได้โตเด่นจาก SSSG ที่ติดลบน้อยลงถึงมีโอกาสพลิกกลับมาเป็นบวกได้ตามกำลังซื้อที่ปรับตัวดีขึ้นโดยเฉพาะลูกค้ารายย่อย นอกจากนี้ยังมีการเปิดสาขาใหม่เพิ่มอีก 1 สาขา ขณะที่ทางด้านอัตรากำไรขั้นต้นคาดปรับตัวดีขึ้นทั้ง QoQ และ YoY ตามการใช้ต้นทุนสินค้ารอบใหม่ที่ถูกลงเต็มไตรมาส
แนวโน้มรายได้เกษตรกรปรับตัวดีขึ้นต่อเนื่อง
เห็นสัญญาณการฟื้นตัวของดัชนีรายได้เกษตร เดือน ก.ย. อยู่ที่ระดับ 205.17 หรือ +3.5% พลิกกลับมาเป็นบวกครั้งแรกในรอบ 5 เดือน ซึ่งเป็นการเพิ่มขึ้นทั้งราคาและผลผลิต ทั้งนี้เรามองว่ารายได้เกษตรจะปรับตัวดีขึ้นต่อเนื่อง หนุนจากราคาสินค้าเกษตรที่ปรับตัวขึ้น เช่น ราคาข้าวจากการคาดการณ์ของ SCB EIC คาดว่าราคาข้าวเปลือกโดยเฉลี่ยในช่วง ส.ค. – ธ.ค.จะปรับตัวเพิ่มขึ้น 29.6% YoY, ราคาน้ำตาลทรายมีแนวโน้มปรับตัวขึ้นต่อเนื่อง หลังอินเดียประกาศระงับการส่งออกน้ำตาลตั้งแต่เดือนต.ค.เป็นต้นไป
มีมุมมองเป็นบวกต่อแนวโน้มผลประกอบการในช่วงที่เหลือของปี และคาดดีต่อเนื่องไปยังปี 2567 คงคำแนะนำ “ซื้อ” ที่ราคาเหมาะสมปี 2567 ที่ 13.60 บาท/หุ้น