ตลาดหุ้นวานนี้

SET Index ร่วง 14 จุด (-1%) ปิดที่ระดับ 1,382 จุด จากแรงขายหุ้น TRUE และกลุ่มน้ำมัน โดย TRUE มีปัจจัยลบเฉพาะตัว ขณะที่กลุ่มน้ำมันร่วงแรงตามราคานำมันดิบในตลาดโลกที่ย่อตัว

แนวโน้มตลาดหุ้นวันนี้

ประเมิน SET แกว่งตัว 1,370 – 1,390 จุด แม้จะได้ sentiment บวกสถานการณ์ต่างชาติ อย่างไรก็ตาม ราคาน้ำมันดิบที่หรุดตัวลง หลังกลุ่มไอเปกผลิตน้ำมันเพิ่มขึ้น เป็นลบต่อกลุ่มพลังงาน นอกจากนี้การชะลอการซื้อขายเพื่อติดตามการประชุม FOMC (คาดคงดอกเบี้ย 5.25-5.50% ) และจับสัญญาณทิศทางดอกเบี้ยในอนาคต จะกดดันให้ดัชนีผันผวน

กลยุทธ์การลงทุน: Selvectie buy

  • GPSC BGRIM GULF TASCO SCGP อานิสงส์ราคาน้ำมันอ่อนตัวลง
  • กลุ่มคาดงบ 3Q23F เติบโต BDMS BH BCH CHG BTS BEM SAPPE ICHI OSP CBG AMATA TOP SPRC CENTEL AOT

หุ้นแนะนําวันน้ี

CBG (ปิด 67.50 ซื้อ/เป้า 98.30 บาท) ได้ข่าวดี ก.พาณิชย์ประกาศให้น้ําตาลทรายเป็นสินค้าควบคุม ขณะที่ 3Q23 เริ่มรับรู้รายได้จากการผลิตและจําหน่ายเบียร์ โดยจะรับรู้รายได้และกําไรเต็มไตรมาสใน 4Q23

BCH (ปิด 20.10 ซื้อ/เป้า 23 บาท) เราคาดว่ากําไรสุทธิของ BCH จะกลับมาเติบโตอย่างแข็งแกร่งใน 3Q23 จากแรงส่งของโรคระบาดที่มากขึ้น รวมถึงมีกลุ่มผู้ป่วยจากตะวันออกกลางเพิ่มขึ้น เบื้องต้นเราคาดกําไรสุทธิประมาณ 425 ล้าน บาทเพิ่มขึ้น 22%qoq

บทวิเคราะห์วันน้ี

INTUCH, GLOBAL, HMPRO, TRUE, Thailand Strategy

ประเด็นสําคัญวันน้ี

(+) ดุลบัญชีเดินสะพัดของไทยเกินดุลเป็นเดือนที่ 2 และเร่งตัวขึ้นจากเดือน ส.ค.: ธปท. รายงานตัวเลขดุลบัญชีเดินสะพัดเดือน ก.ย. มียอดเกินดุล 3.4 พันล้านเหรียญฯ เพิ่มขึ้นจากเดือน ส.ค.ที่เกินดุล 400 ล้านเหรียญฯ นับเป็นการเกินดุล 2 เดือนติดต่อกัน ส่วนใหญ่เป็นการเกินดุลการค้า 3.8 พันล้านเหรียญฯ ชดเชยดุลบริการและเงินโอนที่ขาดดุล 400 ล้านเหรียญ เรามีมุมมองบวกกับประเด็นนี้ คาดหวังจะเห็น Fund flow ต่างชาติทยอยไหลเข้าตามดุลบัญชีเดินสะพัดที่เป็นบวกมากขึ้น

(-) ดัชนี PMI ภาคการผลิตจีนเดือน ต.ค.ปรับตัวลงสวนทางกับที่ตลาดคาดว่าจะยืนเหนือระดับ 50: วานนี้จีนรายงานดัชนี PMI ภาคการผลิตเดือน ต.ค.ลดลงสู่ ระดับ 49.5 จาก 50.2 ในเดือน ก.ย. ต่ำกว่าที่ Consensus คาดว่าจะทรงตัวที่ระดับ 50.2 ดัชนีที่ลดลงและต่ำกว่า 50 สะท้อนการผลิตจีนหดตัวเป็นลบต่อ Sentiment การลงทุนของหุ้นในกกลุ่ม China play อาทิ กลุ่มปิโตรฯ และวัสดุก่อสร้าง

(+/-) คืนนี้ติดตาม FED Meeting คาดคงดอกเบี้ยที่ระดับ 5.25-5.5% ตามเดิม: สะท้อนจาก FED Watch tool นักลงทุนให้น้ําหนัก 97% คาดเฟดคงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับ 5.2-5.5% โดยมีเพียง 3% เท่านั้นที่คาดว่าเฟดจะขึ้นดอกเบี้ยเป็น 5.5-5.75% อย่างไรก็ตามต้องติดตามถ้อยแถลงของ นายเจอโรม พาวเวลประธานเฟดจะส่งสัญญาณการดําเนินโยบายการเงินในช่วงที่เหลือของปีนี้และปีหน้าอย่างไร

ข่าวในประเทศและต่างประเทศ

สรุปข่าวเศรษฐกิจในประเทศและต่างประเทศ

ไทย

(+/-) ครม. อนุมัติหลายโครงการ อาทิ ลดราคาน้ํามันแก๊สโซฮอล์ 91 และ 95 3 เดือน เริ่ม 7 พ.ย., ให้น้ําตาลทรายเป็นสินค้าควบคุม และให้ฟรีวีซ่านักท่องเที่ยวอินเดีย-ไต้หวัน เริ่ม 10 พ.ย. 66-10 พ.ค.67

(-) ดัชนีผลผลิตภาคอุตสาหกรรมเดือน ก.ย. หดตัว 6.06%yoy จากเดือน ส.ค.ที่หดตัว 7.53%yoy แต่แย่กว่าที่ Consensus คาดว่าจะหดตัวเพียง 5%

(+) ยอดเกินดุลบัญชีเดินสะพัดเดือน ก.ย. 3.4 พันล้านเหรียญฯ จากเกินดุล 400 ล้านเหรียญฯ ในเดือน ส.ค. และเกินดุลต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 2

สหรัฐ

(-) ดัชนีความเช่ือมั่นของผู้บริโภคสหรัฐปรับตัวลงสู่ระดับ 102.6 ในเดือนต.ค. ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดในรอบ 5 เดือน จากระดับ 104.3 ในเดือนก.ย.

(+) ดัชนีราคาบ้านทั่วประเทศในสหรัฐในเดือนส.ค. เพิ่มขึ้น 0.4%ทmom และเพิ่มขึ้น 2.6%yoy

ยุโรป

(+/-) โอเปก – เดือนต.ค. กลุ่มโอเปกผลิตน้ํามัน 27.90 ล้านบาร์เรล/วัน เพิ่มขึ้น 180,000 บาร์เรล/วันจากเดือนก.ย. และผลิตน้ํามันเพิ่มขึ้นติดต่อกัน 3 เดือน

(+) ฝรั่งเศส – เศรษฐกิจของฝรั่งเศสขยายตัว 0.1% ในไตรมาส 3/2566 โดยขยายตัวช้าลงเมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนหน้า แต่ยังคงอยู่เหนือระดับ 0%

เอเชีย

(+/-) ญี่ปุ่น – BoJ มีมติคงดอกเบี้ยนโยบายที่ -0.10% และคง YCC ที่ระดับ 1.0% ต่ำกว่าคาด พร้อมปรับเพิ่มเงินเฟ้อปี 2023 สู่ระดับ 2.8% จาก 2.5%

(-) จีน – ดัชนี PMI ภาคการผลิตที่ 49.5 จุด จากเดือนก่อนหน้าที่ 50.2 จุด และต่ำกว่าที่ตลาดคาด ขณะที่ PMI ภาคบริการรายงานที่ 50.6 จุด ลดลงจากเดือนก่อนหน้าที่ 51.7 จุด และต่ำกว่าที่ตลาดคาดที่ 51.8 จุด

- Advertisement -