วันนี้คาดตลาด “Rebound”

แนวรับ 1,374 / 1,366 แนวต้าน 1,396 / 1,402

ยังต้องติดตามติดตามการประชุม FOMC คืนนี้ คาดยังคงอัตราดอกเบี้ยต่อไป ขณะที่ราคาน้ำมันอ่อนตัวลงต่อตามอุปทานที่เพิ่มขึ้น คาดจะกดดันทิศทางหุ้นในกลุ่มพลังงานได้บ้าง Fund Flow ไหลเข้า Bond ไทยต่อเนื่องแต่ยังไม่ไหลเข้าตลาดหุ้น

Our View? “อดทนเวลาที่ฝนพร่ำ”

คาดตลาดวันนี้ ‘Rebound” มองแนวรับที่บริเวณ 1,374 / 1,366 และแนวต้านที่บริเวณ 1,396 / 1,402 เมื่อคืนนี้สถาบันวิจัยเศรษฐกิจ Conference Board (CB) รายงานตัวเลขดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคสหรัฐเดือน ต.ค. ออกมาอยู่ที่ระดับ 102.6 สูงกว่าที่ตลาดคาดเล็กน้อย แต่ปรับตัวลงต่อเนื่อง จากความกังวลด้านเงินเฟ้อและการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ (FED) คาดจะส่งผลต่อคาดการณ์การปรับใช้อัตราดอกเบี้ยของ FED ได้บ้างเล็กน้อย โดยเรามองตลาดยังติดตามการประชุม FOMC ของธนาคารกลางสหรัฐ (FED) ในค่ำคืนนี้คาดจะคงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับ 5.25-5.50% ต่อไป ซึ่งเป็นการบ่งชี้ถึงอัตราดอกเบี้ยของ FED อยู่ในจุดที่สูงที่สุดแล้ว ขณะที่การเคลื่อนไหวของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐ (US-Bond Yield) พยายามฟื้นตัวขึ้นเข้าใกล้ระดับ 5.0% อีกครั้งเช้านี้อยู่ที่ระดับ 4.92%+/- ยังเป็นปัจจัยจำกัด Upside ในระยะสั้นของราคาสินทรัพย์เสี่ยงได้อยู่ อย่างไรก็ตามเรา แนะนำให้ติดตามถ้อยแถลงของคุณเจอโรม พาวเวล ประธาน FED ถึงมุมมองที่ FED มีต่อเศรษฐกิจสหรัฐและแนวโน้มของการปรับใช้นโยบายทางการเงินในระยะถัดไป ซึ่งอาจเป็นการส่งสัญญาณถึงแนวโน้มในการคงอัตราดอกเบี้ยในระดับสูงต่อไปอีกระยะ เรามองเป็นปัจจัยจำกัด Upside ของตลาดได้อยู่

ทางด้านราคาสัญญาน้ำมันดิบล่วงหน้า WTI. ส่งมอบเดือน ธ.ค. เมื่อคืนนี้ปรับตัวลงต่ำพยายามทำจุดต่ำสุดใหม่ ในภาพระยะสั้นปิดที่ระดับ 81.02 ดอลลาร์/บาร์เรล -129 ดอลลาร์ (-157%) คาดได้รับแรงกดดันจากรายงาน OPEC ได้ปรับเพิ่มกำลังการผลิตน้ำมันในเดือน ต.ค. เป็นเดือนที่ 3 ติดต่อกัน ที่กำลังการผลิต 27.9 ล้านบาร์เรล/วัน ในเดือน ต.ค. เพิ่มขึ้นราว 1.8 แสนบาร์เรล/วัน จากเดือน ก.ย. แม้ซาอุดิอาระเบียปรับลดกำลังการผลิตลงก็ตาม  ขณะที่สำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐ (EIA) รายงานว่า การผลิตน้ำมันดิบของสหรัฐในเดือน ส.ค.ทำสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ระดับ 13.05 ล้านบาร์เรล/วัน สะท้อนถึงอุปทานน้ำมันดิบปรับตัวขึ้นต่อเนื่อง  อีกทั้งสหรัฐมีโอกาสจะคลายมาตรการคว่ำบาตรมีต่ออุตสาหกรรมน้ำมันของเวเนซุเอลาเพื่อเพิ่มอุปทานน้ำมันเข้าสู่ตลาด เป็นปัจจัยกดดัน-จำกัด Upside ของราคาน้ำมัน-หุ้นในกลุ่มพลังงานได้อยู่

สำหรับปัจจัยในประเทศเรามีมุมมองเชิงบวกต่อการรายงานเศรษฐกิจเดือน ก.ย. และไตรมาสที่ 3 ของ 5 ปท. ออกมาฟื้นตัวขึ้นต่อเนื่อง โดยได้รับแรงหนุนจากการท่องเที่ยว-ส่งออกฟื้นตัวขึ้น หนุนดุลบัญชีเดินสะพัดเกิดดุลเพิ่มขึ้น และยังคาดมีช่วง 4Q’66 ยังคงสามารถฟื้นตัวขึ้นได้ต่อ เรามองเป็นปัจจัยหนุนทิศทางค่าเงินบาทที่แข็งค่าโดดเด่นในภูมิภาค แม้เช้านี้กลับมาอ่อนตัวลงอยู่ที่ระดับ 36.2 บาท/ดอลลาร์สหรัฐ แต่คาดมีโอกาสแกว่งในทิศทางแข็งค่าได้ต่อ กระตุ้นความหวัง Fund flow ไหลเข้า โดยเห็นแรงเข้าซื้อตลาดตราสารหนี้ต่อเนื่อง คาดมีโอกาสที่ Fund flow มีโอกาสเข้าสู่ตลาดหุ้นไทยได้ในระยะถัดไป

ธีมการลงทุน “Selective Play”

หุ้นแนะนำวันนี้ “ROJNA”

  • คาดราคาปรับตัวลงรับรู้ความกังวลในส่วนของกำไรจากโรงไฟฟ้าที่ลดลง รวมทั้งผลกระทบจากการบันทึกผลขาดทุนจากเงินลงทุนใน GULF ไปบ้างในระดับหนึ่งแล้ว ขณะที่ในส่วนของธุรกิจนิคมฯ ช่วง 3Q’66 คาดจะเติบโตขึ้นโดดเด่นจากยอดขายที่ดินให้กับนักลงทุนจีนหนุนราคาฟื้นตัวขึ้นได้
  • ทางเทคนิค ภาพรายสัปดาห์ราคาอ่อนตัวลงทดสอบแนวรับที่เส้นแนวโน้มขาขึ้นแล้วพยายามฟื้นตัวกลับขึ้นได้ ขณะที่ SSTO อยู่ในภาวะ Oversold แล้ว
  • แนะนำ “ซื้อสะสม” แนวรับ 5.85 / 5.65 Target 6.20 / 7.00 Stop <5.50

 

- Advertisement -