บล.หยวนต้า (ประเทศไทย):

I-Tail Corporation (ITC) กำไร 3Q66 ที่ดีกว่าคาดจะยังไม่ใช่จุดพีคของปี

Action BUY (Maintain)

  • TP upside (downside) +35.4%
  • Close Oct 31, 2023 Price (THB) 19.20
  • 12M Target (THB) 26.00
  • Previous Target (THB) 26.00

What’s new?

  • กำไร 3Q66 ที่ออกมาดีกว่าคาด สะท้อนการกลับมา Restocking ของลูกค้า โดยแนวโน้มโมเมนตั้มคำสั่งซื้อคาดจะสูงขึ้นต่อใน 4Q66 ประกอบกับการรับรู้ราคาต้นทุนที่ปรับลงได้ชัดเจนจะหนุนให้กำไร 4Q66 คาดมีโอกาสทำระดับสูงสุดของปี
  • แนวโน้มกำไร 1Q67 อาจชะลอลงตามปัจจัยฤดูกาล แต่คาดเติบโตเด่น YoY

Our view

  • ด้วยงบ 3Q66 ที่ออกมาดีกว่าคาด ทำให้กำไร 9M66 คิดเป็น 80% ของประมาณการกำไรเดิมของเรา เราจึงปรับประมาณการกำไรปี 2566 ขึ้น 16% เป็น 2,185 ลบ. (-49.1% YoY) และคงกำไรปี 2567 ไว้ตามเดิมที่ 3,201 ลบ. (+46.5% YoY)
  • เราคงราคาเป้าหมายสิ้นปี 2567 ที่ 26.00 บาทและคงคำแนะนำ “ซื้อ”

แนวโน้มกำไร 4Q66 ทำระดับสูงสุดของปีสวนทาง Seasonal

เรามีมุมมองบวกหลังเข้าประชุมนักวิเคราะห์วานนี้ (31 ต.ค.) คาดแนวโน้มผลประกอบการ 4Q66 เบื้องต้น มีโอกาสเติบโตได้ต่อเนื่อง QoQ และทำระดับสูงสุดของปี จากสัญญาณการ Restocking ของลูกค้าที่ยังทำต่อเนื่องหนุนปริมาณคำสั่งซื้อให้สูงขึ้นต่อ QoQ แม้ว่าจะผ่านพ้นช่วง High Season ใน 3Q66 ก็ตาม ประกอบกับการรับรู้การปรับขึ้นราคาขายกับลูกค้าบางรายเพิ่มเติม ทำให้เราประเมินรายได้เบื้องต้นในกรอบ +/- 5,000 ลบ. ใกล้เคียงกับเป้าหมายของบริษัทที่ 5,200 ลบ. ขณะที่ด้านต้นทุนจะรับรู้ผลของราคาวัตถุดิบปลาทูน่า, เนื้อไก่ และราคาบรรจุภัณฑ์กระป๋องที่ปรับลดลงได้ชัดเจนมากขึ้นหนุน GPM ให้มีโอกาสเติบโตต่อ และมีโอกาสสูงขึ้นเหนือระดับ 20% ได้ โดยรวมเราประเมินกำไรปกติเบื้องต้น 4Q66 ในกรอบ 700 – 900 ลบ.

แนวโน้ม 1Q67 อาจชะลอลงตามฤดูกาล แต่คาดจะเติบโตเด่น YoY

ส่วนแนวโน้มผลประกอบการ 1Q67 อาจชะลอลง QoQ ตามปัจจัยฤดูกาลที่ปกติลูกค้าจะซะลอคำสั่งซื้อในช่วงเดือนม.ค. และบริษัทจะรับรู้กำลังการผลิตจากการติดตั้งเครื่องจักรใหม่แล้วเสร็จ (+18.7%) เงินลงทุน 2.1 พันลบ. ซึ่งจะทำให้บริษัทต้องรับรู้ค่าเสื่อมเพิ่มเติมปีละราว 247 ลบ. (บริษัทตัดค่าเสื่อม 8.5 ปี) ทำให้ใน 1Q67 จะต้องรับรู้ค่าเสื่อมเพิ่มขึ้นราว 60 ลบ. โดยเราประเมินว่าในช่วงแรกปริมาณคำสั่งซื้อของลูกค้าที่สูงขึ้นจะยังไม่สามารถค่าเสื่อมที่สูงขึ้นได้ ทำให้อาจกดดัน GPM ให้ชะลอลงเช่นกันในระยะสั้น อย่างไรก็ตาม เรามองบวกต่อภาพระยะยาว โดยบริษัทตั้งเป้าอัตราการใช้กำลังการผลิตปี 2567 ไม่ต่ำกว่า ปี 2566 (ราว 50%) แม้จะมีกำลังการผลิตเพิ่มขึ้น โดยทุกๆอัตราการใช้กำลังการผลิตที่สูงขึ้นจะเป็นปัจจัยหนุน GPM ของบริษัท และเราประเมินว่ากำไรรายไตรมาสของ ITC จะเติบโตเด่น YoY ได้ทุกไตรมาส หากไม่มีปัจจัยนอกเหนือการควบคุมกระทบ

ปรับประมาณการกำไรปกติปี 2566 ขึ้น คงคำแนะนำ “ซื้อ”

ผลประกอบการ 9M66 คิดเป็น 80% ของประมาณการทั้งปีของเรา และด้วยแนวโน้มกำไร 4Q66 ที่คาดจะทำระดับสูงสุดใหม่ ทำให้เราปรับประมาณการกำไรปกติปี 2566 ขึ้น 16% เป็น 2,185 ลบ. (-49.1% YoY) จากการปรับสมมติฐานรายได้ขึ้น และปรับ SG&ASales ลง แต่ยังคงประมาณการกำไรปกติปี 2567 ที่ 3,201 ลบ. (+46.5% YoY) เราคงราคาเป้าหมายสิ้นปี 2567 ที่ 26.00 บาท และคงคำแนะนำ “ซื้อ”

- Advertisement -