บล.หยวนต้า (ประเทศไทย)

CK Power (CKP) คาดกำไร 3Q66 เป็นจุดสูงสุดของปี 

Action BUY (Maintain)

  • TP upside (downside) +35.8%
  • Close Oct 31, 2023 Price (THB) 3.02
  • 12M Target (THB) 4.10
  • Previous Target (THB) 4.50

What’s new?

  • คาดกำไรปกติ 882 ล้านบาท ลดลง YoY จากอัตราการไหลผ่านของน้ำของโรงไฟฟ้าไซยะบุรีที่ลดลง YoY (ผลจากฝนในลาวที่ตกน้อยกว่าปีปกติ) แต่พลิกเป็นกำไร QoQ จากปัจจัยฤดูกาลของโรงไฟฟ้าพลังงานน้ำในลาวและต้นทุนก๊าซธรรมชาติที่ปรับตัวลงต่อเนื่อง
  • คาดกำไร 4Q66 ที่ระดับ 200-300 ล้านบาท เติบโต YoY จากปริมาณน้ำในลาวที่มีโอกาสสูงขึ้น YoY หลังมรสุมมาช้ากว่าปีปกติ ขณะที่ QoQ คาดลดลงจากปัจจัยฤดูกาล

Our view

  • ปรับไปใช้ราคาเหมาะสม ณ สิ้นปี 2567 ที่ 4.10 บาท/หุ้น มี Upside +35.8% คงคำแนะนำ “ซื้อ” สำหรับการลงทุนระยะยาว
  • การฟื้นตัวของราคาหุ้นในระยะสั้น-กลางอาจยังถูกจำกัดจาก Bond Yield ระยะ 10 ปี ของไทยและสหรัฐฯ ที่ยังอยู่ในระดับสูง เชิงกลยุทธ์ นักลงทุนที่รับความเสี่ยงได้น้อย อาจพิจารณาเข้าลงทุนหลังเห็นสัญญาณการปรับตัวลงของ Bond Yield (คาดในช่วง 1H67)

คาดกำไร 3Q66 ลดลง QoQ แต่เติบโต YoY และเป็นจุดสูงสุดของปี

คาดกำไรปกติ 3Q66 ที่ 882 ล้านบาท (พลิกเป็นกำไร QoQ, -39% YoY) คาดกำไรปกติลดลง YoY แม้ปริมาณน้ำที่ไหลเข้าโรงไฟฟ้าน้ำงึม 2 (NN2) เพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 3,546 ล้านลูกบาศก์เมตร (+546% QoQ, +41% Yor) เนื่องจากถูกกดดันจากอัตราการไหลผ่านของน้ำของโรงไฟฟ้าไชยะบุรี (XPCL) ที่ลดลงมาสู่ระดับ 5,017 ลูกบาศก์เมตร/วินาที (+149% QoQ, -8% YoY) หลังฝนในลาวตกน้อยกว่าปีปกติ ขณะที่ QoQ คาดพลิกเป็นกำไรได้จาก 1) ปัจจัยฤดูกาลของโรงไฟฟ้าพลังงานน้ำในลาว 2) ค่าเงินบาทที่อ่อนค่า ส่งผลให้อัตราค่าไฟฟ้าของโรงไฟฟ้าพลังงานน้ำในลาวสูงขึ้น (มีการผูกราคาขายบางส่วนกับค่าเงินบาท/ดอลลาร์สหรัฐฯ) และ 3) อัตรากำไรขั้นต้นของโรงไฟฟ้าก๊าซธรรมชาติ BIC ที่มีแนวโน้มฟื้นตัว หลังคาดต้นทุนก๊าซธรรมชาติที่ปรับตัวลงมาสู่ระดับ 360 บาท/MMBtu (-10% QoQ, -64% YoY) ตามราคาในตลาดโลกจะสามารถชดเชยผลกระทบได้ หากกำไรปกติ 3Q66 ออกมาใกล้เคียงคาด กำไรปกติ 9M66 จะคิดเป็นสัดส่วน 80% ของกำไรทั้งปี

กำไร 4Q66 มีโอกาสเติบโต YoY

เบื้องต้นคาดกำไรปกติ 4Q66 ที่ระดับ 200-300 ล้านบาท เติบโต YoY จาก 1) ปริมาณน้ำในลาวที่มีแนวโน้มสูงขึ้น YoY จากมรสุมที่มาช้ากว่าปีปกติ (หนุนรายได้ของโรงไฟฟ้า NN2 และส่วนแบ่งกำไรของโรงไฟฟ้า XPCL) และ 2) อัตรากำไรขั้นต้นของโรงไฟฟ้า BIC ที่สูงขึ้น YoY หลังต้นทุนก๊าซธรรมชาติปรับตัวลง YoY ขณะที่ QoQ คาดกำไรปกติลดลงจากปัจจัยฤดูกาลของโรงไฟฟ้าพลังงานน้ำในลาวและการรับรู้ผลกระทบจากการปรับค่าไฟฟ้างวด ก.ย. – ธ.ค. ลงเป็น 3.99 บาท/หน่วย แบบเต็มไตรมาส

ปรับไปใช้ราคาเหมาะสม ณ สิ้นปี 2567 ที่ 4.10 บาท/หุ้น…คงคำแนะนำ “ซื้อ”

เราปรับ WACC ที่ใช้ประเมินมูลค่าขึ้นเป็น 9.3% เพื่อสะท้อนสภาวะตลาดที่มีความเสี่ยงมากขึ้น และปรับไปใช้ราคาเหมาะสม ณ สิ้นปี 2567 ส่งผลให้ได้ราคาเป้าหมายใหม่ที่ 4.10 บาท/หุ้น มี Upside +35.8% คงคำแนะนำ “ซื้อ” สำหรับการลงทุนระยะยาว โดยการฟื้นตัวในระยะสั้น-กลาง อาจยังถูกจำกัดจาก Bond Yield ระยะ 10 ของไทยและสหรัฐฯ ที่มีแนวโน้มทรงตัวอยู่ในระดับสูง (ณ สิ้น 2Q66 โรงไฟฟ้า XPCL มีหนี้สินที่อิงดอกเบี้ยสหรัฐฯ ราว 80% ของหนี้สินทั้งหมดของโครงการ) ดังนั้นในเชิงกลยุทธ์ นักลงทุนที่รับความเสี่ยงได้น้อยอาจพิจารณาเข้าลงทุนหลังเห็นสัญญาณการปรับตัวลงของ Bond Yield ไทยและสหรัฐฯ (คาดในช่วง 1H67)

- Advertisement -