บล.หยวนต้า (ประเทศไทย):

Bec World (BEC) คาด 3Q66 กำไรวูบ… 4Q66 ลุ้น พรหมลิขิต – ธี่หยดช่วยพยุง

Action TRADING (Maintain)

  • TP upside (downside) +9.5%
  • Close Nov 1, 2023 Price (THB) 5.65
  • 12M Target (THB) 6.19
  • Previous Target (THB) 8.58

What’s new?

  • เราคาดกำไร 3Q66 ลดลง 37%QoQ และ 58% YoY ตามเม็ดเงินโฆษณาผ่านสื่อทีวีที่หายไป และการให้ส่วนลดโฆษณา
  • แนวโน้ม 4Q66 คาดกำไรฟื้นตัว QoQ แม้ธุรกิจสื่อทีวีรายได้แค่ทรงตัว แต่ได้แรงหนุนจากธุรกิจภาพยนต์ ซึ่งภาพยนตร์ธี่หยดที่ร่วมสร้างกับ MAJOR ได้รับการตอบรับที่ดี
  • เพื่อสะท้อนธุรกิจที่ฟื้นตัวช้ากว่าคาด เรามีการปรับลดประมาณการกำไรปี 2565 และ 2566 ลง 51% และ 37% ตามลำดับ

Our view

  • เราคงคำแนะนำ “TRADING” ผลประกอบการใน ปี 2566 ชะลอตัวมากกว่าที่เราคาด จากเม็ดเงินโฆษณาสื่อทีวีที่ลดลง เราคาดผลประกอบการจะกลับมาเติบโตในปี 2567 ซึ่งคาดอุตสาหกรรมโฆษณาสื่อทีวีจะฟื้นตัว
  • เราปรับลดมูลค่าพื้นฐานปี 2566 จากเดิมที่ 8.58 บาท เหลือ 6.19 บาท สะท้อนการปรับลดกำไร โดยอิงวิธี DCF ที่ WACC ที่ 8.4%

คาดกำไร 3Q66 ลดลง YoY ตามเม็ดเงินโฆษณาทีวีที่ชะลอตัว

เราคาดกำไรปกติ 3Q66 ที่ 47 ล้านบาท -37%QoQ, -58%YoY โดยรายได้รวม -7%QoQ, -13%YoY เป็น 1,127 ล้านบาท ตามเม็ดเงินโฆษณาของอุตสาหกรรมทีวีที่ชะลอตัว และบริษัทมีการปรับลดค่าโฆษณาลง เพื่อให้แข่งขันได้ ส่งผลให้รายได้โฆษณา -7%QoQ, -16%YoY เหลือ 950 ล้านบาท ส่วนรายได้เกี่ยวกับการขายลิขสิทธิ์ในไตรมาสนี้ดีขึ้น โดยมีรายได้ 177 ล้านบาท +33%QoQ, +2%YoY ด้านประสิทธิภาพในการทำกำไรลดลง  เนื่องจากผลของรายได้ที่ลดลง และการให้ส่วนลดค่าโฆษณา ส่งผลให้ EBITDA Margin ปรับลดลงจาก 3Q65 ที่ 49.5% เหลือ 47.5%

แนวโน้ม 4Q66 ดีขึ้น QoQ

เราคาดผลประกอบการใน 4Q66 ฟื้นตัว QoQ สำหรับรายได้จากโฆษณาคาดทรงตัว QoQ แม้ว่าละครพรหมลิขิต (ภาคต่อของบุพเพสันนิวาส) ที่เริ่มออกอากาศ 18 ต.ค.จะมีเรทติ้งสูงสุดของปี และเพิ่มรายได้โฆษณาในช่วงที่ออกอากาศ แต่ด้วยเม็ดเงินโฆษณาสื่อทีวีที่ชะลอตัวตามเศรษฐกิจ ทำให้ลูกค้ามีการลดโฆษณาช่วงอื่นลง เช่นเดียวกับรายได้จากการขายลิขสิทธิ์คาดทรงตัว QoQ อย่างไรก็ตาม ไตรมาสนี้จะได้แรงหนุนจากธุรกิจภาพยนตร์ ซึ่งทาง BEC จับมือกับ เอ็ม สตูดิโอ บริษัทลูกของ MAJOR ในการสร้างยนตร์ ซึ่งมีเข้าฉาย 1 เรื่อง คือภาพยนตร์ “ธี่หยด” โดยได้รับการตอบรับที่ดี เข้าฉาย 5 วันทำรายได้ 300 ล้านบาทเป็นภาพยนตร์ไทยที่ทำเงินเร็วสุดของปี

ปรับลดประมาณการปี 2566-2567 สะท้อนความเสี่ยง

ด้วยกำไร 9M66 ถ้าเป็นไปตามที่เราคาดจะคิดเป็นเพียง 25% ของประมาณการเดิมทั้งปีของเรา และเพื่อสะท้อนปัจจัยเสี่ยงอุตสาหกรรมทีวีฟื้นตัวช้ากว่าที่เราคาด เรามีการปรับลดประมาณการกำไรปี 2566 และปี 2567 ลงจากเดิม 51% และ 37% เหลือ 244 ล้านบาท (-58%YoY) และ 356 ล้านบาท (+ 46%YoY) ตามลำดับ (จากการปรับสมมติฐานรายได้ และอัตรากำไรลง

คงคำแนะนำ “TRADING”

ผลประกอบการในปี 2566 ชะลอตัวตามอุตสาหกรรมโฆษณาสื่อทีวีที่หายไป เราคาดผลประกอบการจะกลับมาเติบโต 44%YoY ในปี 2567 ซึ่งคาดอุตสาหกรรมโฆษณาสื่อทีวีจะฟื้นตัว ได้แรงหนุนจากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจจากภาครัฐ และรายได้จากการขายลิขสิทธิ์จะเพิ่มขึ้น จากแผนในการผลิตคอนเทนส์ใหม่ๆเพิ่ม และขยายฐานโดยการรับจ้างผลิต เราปรับลดมูลค่าพื้นฐานปี 2567 จากเดิมที่ 8.58 บาทเหลือ 6.19 บาท สะท้อนการปรับลดกำไร โดยอิงวิธี DCF ที่ WACC ที่ 8.4% Terminal growth 2%

- Advertisement -