บล.หยวนต้า (ประเทศไทย)
TTCL ยังเป็นไตรมาสที่แข็งแกร่ง
Action BUY (Maintain)
- TP upside (downside) +87.8%
- Close Nov 1, 2023 Price (THB) 3.78
- 12M Target (THB) 7.10
- Previous Target (THB) 8.35
What’s new?
- คาดกำไรปกติ 3Q66 ที่ 115 ลบ. (-5.8% QoQ, +134.9% YoY) กำไรยังคงแข็งแกร่งจากรายได้ที่มี Backlog สูง แม้ว่าจะมีค่าใช้จ่ายที่ปรึกษากฎหมายเพิ่มขึ้นในไตรมาสนี้ และโรงไฟฟ้าในเมียนมายังมีปิดซ่อมบำรุงอยู่บ้าง
- แนวโน้มกำไร 4Q66 คาดที่ระดับ 120 ลบ.+/- คาด SG&A จะลดลงได้ QoQ
- ปรับประมาณการกำไรลงตาม GPM ที่ยังทรงตัว 7- 8% ต่ำกว่าที่คาดไว้ที่ 9 – 10% และปรับดอกเบี้ยจ่ายเพิ่มขึ้นตามภาวะดอกเบี้ยในตลาด
Our view
- เราคงมุมมองเชิงบวกต่อแนวโน้มผลประกอบการของ TTCL โดยผ่านช่วงผันผวนที่สุดไปแล้ว
- Backlog ปัจจุบันอยู่ที่ราว 19,000 ลบ. งานรอประมูลในปี 66 อีกราว 4.0 – 5.0 หมื่นลบ. คาดว่าในช่วงที่เหลือของปีมีลุ้นชนะงานอีกราว 2.0 – 3.0 พันลบ.
- ปัจจุบันซื้อขายด้วย PER66 เพียง 4.8 เท่า ให้ผลตอบแทนจากเงินปันผลงวด 2H66 ที่ 3.2% ปรับลด PER ลงตามภาวะตลาดเป็น 9 เท่า ได้ราคาเป้าหมายสิ้นปี 67 ที่ 7.10 บาท คงคำแนะนำ ซื้อ
คาดกำไร 3Q66 ยังเหนือ 100 ลบ. ได้แม้มีค่าใช้จ่ายด้านกฎหมายมากระทบ
Backlog ณ สิ้น 2Q66 อยู่ที่ 23,500 ลบ. เราคาดรับรู้เป็นรายได้ใน 3Q66 ที่ 4,184 ลบ. และรายได้จากการบริหารจัดการโรงไฟฟ้า 15 ลบ. รวมรายได้หลักที่ 4,199 ลบ. คาด GPM ที่ 7.8% ทรงตัวถึงเพิ่มขึ้นเล็กน้อยทั้ง QoQ และ YoY คาด SG&A ที่ 195 ลบ. เพิ่มขึ้น 15.5% QoQ จากการเพิ่มขึ้นของค่าใช้จ่ายที่ปรึกษากฎหมายในประเด็นข้อพิพาทต่างๆ ของบริษัท ซึ่งหากประเด็น Rocksalt จบได้ภายใน เดือนพ.ย. จะทำให้ค่าใช้จ่ายนี้ลดลงใน 4Q66 และทำให้ SG&A ปี 2567 ลดลงจากประมาณการได้ ส่วนแบ่งกำไรจากธุรกิจโรงไฟฟ้าในเมียนมาคาดที่ 38 ลบ. เพิ่มขึ้น 17.1% QoQ จากโรงไฟฟ้าที่ปิดซ่อมบำรุงน้อยกว่า 2Q66 คาดกำไรปกติใน 3Q66 ที่ 115 ลบ. (-5.8% QoQ, +134.9% YoY)
ปรับประมาณการกำไรลง 10 – 16% … Backlog ยังสูง อุตสาหกรรมยังโต
หากประมาณการกำไรปกติ 3Q66 ใกล้เคียงคาดจะส่งผลให้กำไรปกติ 9M66 คิดเป็นสัดส่วน 66% ของประมาณการทั้งปีที่ 515 ลบ. เราปรับประมาณการกำไรปี 2566 ลง 10.5% เป็น 460 ลบ. (+15.5% YoY) และปรับประมาณการกำไรปกติปี 2567 ลง 15.6% เป็น 486 ลบ. (+5.6% YoY) จากการปรับลด GPM ลงเนื่องจากยังทรงตัวที่ระดับ 7- 8% ขณะที่ประมาณการเดิมคาดไว้ที่ 9- 10% และปรับประมาณการดอกเบี้ยจ่ายเพิ่มขึ้นตามภาวะตลาดที่ต้นทุนทางการเงินที่สูงขึ้น แต่ก็ปรับรายได้ขึ้นตามแนวโน้ม Backlog ที่แข็งแกร่งกว่าคาดช่วยลด Downside risk ของประมาณการ อย่างไรก็ตาม TTCL ยังมีฐานะการเงินในระดับค่อนข้างดี โดย IBD/E ณ 2Q66 อยู่ที่ 1 เท่า เป็นระดับที่ยังปลอดภัยและต่ำกว่านโยบายบริษัทที่ 3 เท่า ณ สิ้น 3Q66 คาดว่า Backlog จะอยู่ที่ราว 19,000 ลบ. ขณะที่ช่วงที่เหลือของปีนี้ยังมีโอกาสได้งานเพิ่มเติมอีกราว 2.0- 3.0 พันลบ. และมีงานใหม่รอเปิดประมูลสูงถึง 4.0-5.0 หมื่นลบ. นอกจากนี้หลัง BCP ซื้อกิจการ ESSO ทำให้ TTCL มีโอกาสได้งานขนาดใหญ่มากขึ้น เนื่องจากได้งานของ BCP บ่อยครั้ง แต่ยังไม่เคยรับงาน ESSO
PER66 ยังต่ำเพียง 4.8 เท่าให้ปันผล 6% คงคำแนะนำ ซื้อ
สำหรับคดี Rocksalt ที่อยู่ระหว่างรอแถลงจากอนุญาโตตุลาการในช่วงกลางเดือน พ.ย. หลังขอขยายเวลาพิจารณาออกไปอีก 15 วัน เนื่องจากมีเอกสารต้องพิจารณาจำนวนมาก หากศาลมีความเห็นให้คู่กรณีชดใช้ความเสียหายมากกว่า 1,600 ลบ. สามารถบันทึกกลับรายการเพิ่มเติมได้ แต่หากต่ำกว่า 1,600 ลบ. จะถูกตั้งสำรองเพิ่ม อย่างไรก็ตาม คู่กรณีสามารถอุทธรณ์ต่อได้ ซึ่งเราให้น้ำหนักการออกมามากกว่า 1,600 ลบ. มากกว่า เนื่องจากการตั้งสำรองที่ผ่านมาผู้ตรวจสอบบัญชีใช้หลักอนุรักษ์นิยมในการตั้งสำรองไว้แล้ว และศาลเคยสั่งให้ชำระเงินบางส่วนมาแล้ว สะท้อนว่าศาลย่อมเห็นว่ามูลค่าชดใช้สูงกว่าที่ตั้งสำรองไว้ แต่ก็มีความเสี่ยงอยู่บ้าง เนื่องจากเป็นการพิจารณาของศาลในประเทศของคู่กรณี อย่างไรก็ตาม ในกรณีเลวร้ายเชื่อว่าจะไม่กระทบฐานะทางการเงินอย่างมีนัยสำคัญ เพราะธุรกิจหลักมีความสามารถในการทำกำไรดีขึ้น และปัจจุบันราคาหุ้นชี้ขายที่ PER66-67 ที่ 5.1 และ 4.8 เท่าตามลำดับ คาดเงินปันผลงวด 2H66 ที่ 0.12 บาท (1H66 จ่ายไปแล้ว 0.10 บาท) ให้ผลตอบแทน 3.2% เราปรับไปใช้ราคาเป้าหมายสิ้นปี 2567 โดยลด PER ลง จาก 10 เท่าเป็น 9 เท่า ตามภาวะตลาด ได้ราคาเป้าหมายสิ้นปี 2567 ที่ 7.10 บาท คงคำแนะนำ ซื้อ