บล.เคจีไอ (ประเทศไทย):
Supalai (SPALI.BK/SPALI TB)*
ประมาณการกำไร 3Q66F : อ่อนตัวลง
Event
ประมาณการ 3Q66F/9M66F และปรับประมาณการกำไรสุทธิ
Impact
พรีเซล 3Q66 อ่อนตัวเป็นนัยว่ากำไรอาจหดตัวทั้ง YoY และ QoQ
การที่พรีเซลใน 3Q66 ลดลงอยู่ที่ 6.2 พันล้านบาท (-24.5% QoQ และ -8.5% YoY) อาจทำให้พรีเซล 9M66 ลดลงอยู่ที่ 2.35 หมื่นล้านบาท (-6% YoY) โดยโมเมนตัมของพรีเซลอ่อนแอกว่าคาด ทำให้ผลการดำเนินงานใน 3Q66F อาจน่าผิดหวัง ขณะที่เราประเมินรายได้อ่อนแอปานกลางที่ 7.4 พันล้านบาท (-33% YoY และ -9%QoQ) นอกจากอัตรากำไรน่าจะอ่อนตัวแล้ว รายได้จากการร่วมค้าและบริษัทร่วมในประเทศออสเตรเลียอาจแย่ลงด้วยทั้ง YoY และ QoQ ทั้งนี้ ยอดโอนและรายได้จากโครงการคอนโดมิเนียมใหม่สร้างเสร็จที่ Supalai พรีเมียร์ สี่พระยา-สามย่านมูลค่าโครงการที่ 2.3 พันล้านบาท โดยราว 40% จะถูกรับรู้ใน 3Q66 และส่วนที่เหลืออีกเกือบ 60% จะถูกบันทึกใน 4Q66 ในภาพรวม เราคาดกำไร 3Q66F อยู่ราว 1.46 พันล้านบาท (-47% YoY และ -14%QoQ) ขณะที่ฐานกำไร 9M65 สูง ทำให้ประมาณการกำไร 9M66F ของเราที่ 4.2 พันล้านบาทจะลดลง 29% YoY
ทั้งพรีเซลและรายได้น่าจะต่ำกว่าระดับปานกลางจาก guidance ในปีนี้ของบริษัท
SPALI ได้ปรับลดจำนวนและมูลค่าโครงการเปิดใหม่รวมเหลือ 31 โครงการมีมูลค่ารวมอยู่ที่ 3.57 หมื่นล้านบาท ลดจาก 37 โครงการ มูลค่ารวมเดิมที่ 4.1 หมื่นล้านบาท ดังนั้น guidance ด้านพรีเซลและรายได้เต็มปีนี้ของบริษัทที่ 3.6 หมื่นล้านอาจสูงเกินไป ขณะที่เราประเมินพรีเซลและรายได้ปี 2566F ที่ 3.25 หมื่นล้านบาทและ 3.06 หมื่นล้านบาทซึ่งยังต่ำกว่า guidance เต็มปีนี้ของ SPALI อยู่ราว 10% และ 15% ตามลำดับ ทั้งนี้ สมมติฐานพรีเซลและรายได้ 9M66F คิดเป็น 72%/70% ของเป้าหมายเต็มปีนี้ของเรา
ปรับลดประมาณการกำไรปี 2566F-67F ลง 12-13% ต่อปี
เมื่อพิจารณาจากผลการดำเนินงานจนถึงปัจจุบันอ่อนแอกว่าคาดทั้งรายได้และอัตรากำไร (margin) เราจึงปรับลดกำไรสุทธิปีนี้ลง 12% อยู่ที่ 6.34 พันล้านบาท (-22% YoY) แต่คาดปีหน้ากำไรฟื้นตัว 8% YoY เป็น 6.85 พันล้านบาท (Figure 8) ขณะที่ ปัจจัยหนุนหลักในปีหน้ามาจากยอดขายรอโอน (backlog) ก้อนใหญ่มูลค่า 9 พันล้านบาทของโครงการคอนโด ฯ 5 แห่งมูลค่ารวมที่ 1.7 หมื่นล้านบาทโดยสร้างเสร็จพร้อมโอนในปี 2567 เพิ่มโดดเด่นจากเพียง 2 โครงการมีมูลค่ารวมที่ 3.8 พันล้านบาทในปีนี้
Valuation & Action
เราคาดกำไรสุทธิ 4Q66 ฟื้นตัว QoQ จากการเปิดโครงการใหม่ ๆ มูลค่ารวมที่ 1.37 หมื่นล้านบาท และการรับรู้รายได้เพิ่มจากโครงการคอนโดฯ ใหม่สร้างเสร็จมูลค่า 2.3 พันล้านบาทที่ Supalai พรีเมียร์ สี่พระยา-สามย่าน โดยเราประเมินราคาเป้าหมายใหม่ปี 2567F อยู่ที่ 23.50 บาท คิดเป็นส่วนลด (discount) จาก PE ที่ 6.7x เท่ากับค่าเฉลี่ยระยะยาว -0.5 S.D. ทั้งนี้ ราคาปิดล่าสุดเป็นนัยว่าเทรดอยู่ PE ปี 2567F ที่ 5x (ต่ำกว่าระดับ -1S.D) และคาด dividend yield อยู่ราว 6-7% ต่อปี โดยยังมี upside อยู่ราว 27% บนราคาเป้าหมายใหม่ นอกจากนี้ จุดแข็งอีกด้านหนึ่งของ SPALI คือการมีอัตราส่วนหนี้สินสุทธิต่อทุน (net D/E) ต่ำเพียง 0.4-0.5x ดังนั้น เรายังคงคำแนะนำ “ซื้อ”
Risks
ภาวะเศรษฐกิจอ่อนแอ โอกาสการปฏิรูปนโยบายจากภาครัฐ การให้สินเชื่อมีความเข้มงวดมากขึ้น
ท่ามกลางภาวะหนี้สินภาคครัวเรือนสูง แนวโน้มอัตราดอกเบี้ยขาขึ้น รวมทั้ง การปรับขึ้นค่าแรงขั้นต่ำ