บล.บัวหลวง:
Thai Union Feedmill (TFM TB / TFM.BK)
TFM – ดีกว่าคาด! คาดว่าจะเห็นการฟื้นตัวอย่างแข็งแกร่งในไตรมาส 2/67
กำไรสุทธิและกำไรหลักดีกว่าคาด
TFM รายงานกำไรสุทธิไตรมาส 3/66 ที่ 52 ล้านบาท ลดลง 9% YoY แต่เพิ่มขึ้น 10% QoQ หากไม่รวมรายการพิเศษ ได้แก่ การตั้งด้อยค่าลูกหนี้การค้า 20 ล้านบาท และกำไรจากอัตราแลกเปลี่ยนสุทธิ 4 ล้านบาท กำไรหลักในไตรมาสนี้อยู่ที่ 69 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 3% YoY และ 14% QoQ กำไรสุทธิและกำไรหลักสูงกว่าคาด 31% และ 37% ตามลำดับ เนื่องจากอัตรากำไรขั้นต้นที่สูงกว่าคาด และค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารที่ต่ำกว่าคาด ยอดขายถือว่าเป็นไปตามที่เราคาด อัตรากำไรขั้นต้นในไตรมาสนี้อยู่ที่ 11.1% เทียบกับที่เราคาดก่อนหน้าที่ 10% (เทียบกับ 11.1% ในไตรมาส 3/65 และ 9.1% ในไตรมาส 2/66)
ประเด็นสำคัญจากผลประกอบการ
กำไรหลักเพิ่มขึ้นเล็กน้อย YoY เนื่องมาจากค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารที่ลดลง (จากการควบคุมต้นทุนภายในที่ทำได้ดีขึ้น) และอัตรากำไรขั้นต้นที่ทรงตัว (จากการเพิ่มประสิทธิภาพและควบคุมต้นทุนการผลิต) ยอดขายในไตรมาสนี้ลดลง 5% YoY และ 3% QoQ เนื่องจากยอดขายอาหารกุ้งและอาหารปลา (ยอดขายทั้งสองผลิตภัณฑ์ปรับตัวลดลง 7% YoY) ราคากุ้งในประเทศที่ปรับตัวลดลงได้ส่งผลให้เกษตรกรผู้เลี้ยงกุ้งชะลอการลงกุ้งออกไปจากเดิม และเปลี่ยนไปใช้อาหารกุ้งที่มีราคาถูกลง (ซึ่ง TFM เน้นการขายแบรนด์อาหารกุ้งที่เป็นพรีเมี่ยมมากกว่า) ยอดขายอาหารกุ้งในไตรมาสนี้ลดลง 7% YoY และ 17% QoQ ในแง่มูลค่า และลดลง 15% YoY และ 12% QoQ ในแง่ของวอลุ่มขาย ในขณะที่ยอดขายอาหารปลาในไตรมาสนี้ลดลง 7% YoY เนื่องจากยอดขายอาหารปลาที่ลดลงของบริษัทย่อยในประเทศปากีสถาน AMG-TFM ในส่วนของยอดขายอาหารสัตว์บกในไตรมาสนี้เพิ่มขึ้น 12% YoY และ 9% QoQ ซึ่งมีปัจจัยหนุนจากยอดขายอาหารสัตว์บกที่เพิ่มขึ้นของ AMG-TFM
วอลุ่มขายอาหารสัตว์โดยรวมในไตรมาส 3/66 ที่ปรับตัวลดลง 14% YoY กลบผลกระทบของราคาขายอาหารสัตว์เฉลี่ยที่ปรับเพิ่มขึ้น 10% YoY ดังนั้นจึงส่งผลให้มูลค่ายอดขายรวมในไตรมาสนี้ปรับตัวลดลง 5% YoY อัตรากำไร ขันต้นของธุรกิจอาหารกุ้งปรับลดลงจาก 13.5% ในไตรมาส 3/65 เหลือ 10.8% ในไตรมาส 3/66 ในขณะที่อัตรากำไรขั้นต้นของธุรกิจอาหารปลาปรับเพิ่มขึ้นเล็กน้อยจาก 9.7% ไปเป็น 11.1% ในไตรมาส 3/66 และอัตรากำไร ขั้นต้นของธุรกิจอาหารสัตว์บกปรับตัวเพิ่มขึ้นเกือบสองเท่าจาก 5.9% ไปเป็น 11.5% ในไตรมาส 3/66
แนวโน้ม
เราคาดกำไรหลักไตรมาส 4/66 ที่ 31 ล้านบาท ทรงตัว YoY แต่ลดลง 55% QoQ และเนื่องจากราคากุ้งไทยที่ยังคงอยู่ในระดับต่ำในช่วง 110-115 บาท/กก. (สำหรับ 70 ตัว/กก.) ตั้งแต่ช่วงเดือนต.ค. จนถึงเดือนพ.ย. ณ ปัจจุบันและการเป็นช่วงโลว์ซีชั่นของการเลี้ยงกุ้งของไทยในช่วงไตรมาสสี่จนถึงไตรมาสแรก เราจึงคาดว่าเกษตรกรผู้เลี้ยงกุ้งไทยส่วนใหญ่มีแนวโน้มที่จะเลื่อนหรือชะลอการลงกุ้งในช่วงไตรมาส 4/66 ไปจนถึงไตรมาส 1/67 แล้วกลับมาลงกุ้งใหม่อีกครั้งในช่วงตรมาส 2/67 ดังนั้นเราจึงคาดว่าวอลุ่มขายอาหารกุ้งของ TFM สำหรับในไตรมาส 4/66 มีแนวโน้มที่จะลดลง QoQ
สิ่งที่เปลี่ยนแปลงไป
เนื่องจากกำไรไตรมาส 3/66 ที่ดีกว่าที่เราคาดก่อนหน้า ส่งผลให้เราทำการปรับประมาณการกำไรสุทธิปี 2566 เพิ่มขึ้นอีก 16% ไปเป็น 93 ล้านบาท แต่เรายังคงประมาณการกำไรสุทธิสำหรับทั้งปี 2567 ไว้เท่าเดิมไม่เปลี่ยนแปลง
คำแนะนำ
เรายังคงคำแนะนำ “ซื้อเก็กำไร” จากการคาดหวังการเข้าสู่ฤดูการเพาะเลี้ยงกุ้งซึ่งจะเป็นช่วงไฮซีซั่นในไตรมาส 2/67 ดังนั้นเราจึงแนะให้นักลงทุนมองข้ามกำไรที่อ่อนแอในช่วงไตรมาส 4/66-1/67 และไปดูกำไรไตรมาส 2/67-3/67 ที่มีแนวโน้มกลับมาฟื้นตัวแรง ทั้งนี้เรามองว่าผลขาดทุนสุทธิของ TM ในไตรมาส 1/66 ถือว่าเป็นจุดต่ำสุดของปี 2566