บล.บัวหลวง: 

Transportation – ปรับมาเลือกหุ้นปลอดภัย (NEUTRAL)

ความเสี่ยงด้านราคาน้ำมันเพิ่มความไม่แน่นอนให้กับแนวโน้มของ AAV ภาพกำไรของ BTS ยังถูกกดดัน เราจึงมอง BEM เป็นตัวเลือกที่ดีที่สุดในกลุ่มธุรกิจขนส่ง เนื่องจากแนวโน้มกำไรที่มั่นคง เราปรับน้ำหนักลงทุนจากมากกว่าตลาดมาเป็นเท่ากับตลาดและปรับเป้าหมายการลงทุนไปเป็นสิ้นปี 2567

ปัจจัยทางฤดูกาลกดดันการเดินทางทางอากาศแต่หนุนกลุ่มทางบก

กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬารายงานจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เดินทางมาประเทศไทย 7.09 ล้านคนในช่วงไตรมาส 3/66 เพิ่มขึ้น 96% YoY และ 10% QoQ นักท่องเที่ยวชาวจีนมีจำนวนทั้งสิ้น 1.05 ล้านคน เพิ่มขึ้น 1,074% YoY และ 13% QoQ เราเชื่อมั่นว่านักท่องเที่ยวที่เดินทางเข้าไทย น่าจะฟื้นตัวในช่วงเดือน พ.ย.-ธ.ค. การใช้บริการการขนส่งทางบกเพิ่มขึ้น QoQ ในไตรมาส 3/66 เนื่องจากปัจจัยทางฤดูกาลและการเริ่มดำเนินงานเชิงพาณิชย์ของรถไฟฟ้าสายสีเหลือง BEM รายงานปริมาณการใช้ทางด่วนรวม 102.42 ล้านเที่ยว (เพิ่มขึ้น 4% YoY และ 2% QoQ) และจำนวนผู้โดยสาร MRT รวม 37.77 ล้านเที่ยว (เพิ่มขึ้น 31% YoY และ 18% QoQ) BTSGIF รายงานยอดผู้โดยสารรวม 53.55 ล้านเที่ยว เพิ่มขึ้น 17% YoY และ 8% QoQ เราคาดว่าตัวเลขไตรมาส 4/66 จะเพิ่มขึ้น YoY (หนุนจากสายสีเหลือง) แต่ลดลง QoQ (ตามฤดูกาล)

ผู้โดยสารที่น้อยลง และต้นทุนพลังงานที่สูงขึ้นกดดันภาพของ AAV ในไตรมาส 3/66

AAV รายงานจำนวนผู้โดยสารในไตรมาส 3/66 อยู่ที่ 4.56 ล้านราย (อัตราการขนส่งอยู่ที่ 90%) เราจึงปรับคาดการณ์กำไรหลักไตรมาสนี้มาอยู่ที่ 184 ล้านบาท พลิกกลับเป็นกำไร YoY (ปริมาณเที่ยวบินในประเทศและระหว่างประเทศที่มากขึ้น) แต่ลดลง 60% QoQ (จำนวนผู้โดยสารลดลงและราคาน้ำมันสูงขึ้น) สายการบินมีแนวโน้มที่จะรายงานขาดทุนสุทธิในไตรมาส 3/66 ที่ 555 ล้านบาท เนื่องจากขาดทุนจากอัตราแลกเปลี่ยนจำนวนมาก (เงินบาท อ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับดอลลาร์ในไตรมาสนี้) ประมาณการกำไรหลักของเราในไตรมาส 4/66 อยู่ที่ 332 ล้านบาท ฟื้นตัว YoY และเพิ่มขึ้น 81% QoQ หนุนจากจำนวนผู้โดยสารที่เพิ่มขึ้นจากการยกเว้นวีซ่าสำหรับชาวจีนและค่าโดยสารเฉลี่ยที่สูงขึ้น (ซึ่งเราคาดว่าจะกลบผลกระทบของราคาน้ำมันที่สูงขึ้นเล็กน้อย)

BEM-มีภาพกำไรที่แน่นอนที่สุดในกลุ่มขนส่ง

การเปิดตัวของรถไฟฟ้าสายสีเหลืองจะหนุนจำนวนผู้โดยสารใหม่ๆ ให้สายสีน้ำเงินของ BEM ดังนั้น เราคาดกำไรหลักในไตรมาส 3/66 ของ BEM ที่ 923 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 7% YoY และ 2% QoQ โดยหนุนจากการเดินทางและจำนวนผู้โดยสารที่เพิ่มขึ้น (การเปิดตัวรถไฟฟ้าสายใหม่ของ BTS และการเดินทางทางบกที่มากขึ้นตามฤดูกาล) เราคาดกำไรหลักในไตรมาส 4/66 ที่ 671 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 11% YoY หนุนจากการเดินทางและผู้โดยสารที่มากขึ้นอย่างไรก็ตาม ตัวเลขดังกล่าวถือว่าลดลง 27% QoQ เนื่องจากไม่มีรายได้เงินปันผล

ขาดทุนจากสายสีเหลืองกดดันกำไรโดยรวมของ BTS

เราคาดกำไรหลักของ BTS ในไตรมาส 2/66 (เดือน ก.ค.-ก.ย. 2566) อยู่ที่ 156 ล้านบาท ลดลง 57% YoY และ 11% QoQ จากผลขาดทุนของรถไฟฟ้าสายสีเหลือง (ในช่วงแรกของการดำเนินงานของรถไฟฟ้าสายใหม่ รายได้ค่าโดยสาร โดยทั่วไปจะต่ำกว่าต้นทุน) แต่มีกำไรจำนวนมากครั้งเดียวจากการขายหุ้นบริษัท Rabbit Line Pay เราจึงค่าดกำไรสุทธิไตรมาส 2/66 ที่ 418 ล้านบาท ลดลง 12% YoY แต่พลิกกลับเป็นกำไร QoQ เราคาดกำไรหลักไตรมาส 3/66 (เดือน ต.ค.-ธ.ค. 2566) ที่ 274 ล้านบาท ลดลง 72% YoY (ขาดทุนจากสายสีเหลือง) แต่เพิ่มขึ้น 76% QoQ (ขาดทุนน้อยกว่าของสายสีเหลือง)

 

- Advertisement -