บล.หยวนต้า (ประเทศไทย):
Bluebik Group (BBIK) คาด 3Q66 โตเด่น QoQ และ YoY
Action TRADING (Upgrade)
- TP upside (downside) -2.0%
- Close Nov 3, 2023 Price (THB) 102.00
- 12M Target (THB) 100.00
- Previous Target (THB) 99.50
What’s new?
- คาดกำไรปกติ 3Q66 ที่ 72 ล้านบาท (+9% QoQ, +110% Yor) กำไรที่เติบโตเด่นทั้ง QoQ และ YoY มาจากการลดต้นทุน SG&A และอัตราภาษีจ่ายที่ลดลง
- เราคงประมาณการปี 2566 แต่ปรับลดประมาณการปี 2567 ลง 19% เพื่อให้สะท้อนความเสียงเศรษฐกิจโลกและตลาดทุนที่สูงขึ้น
Our view
- เราปรับลด Multiple ลงเป็น -1.5SD เพื่อให้สอดคล้องกับการปรับลดหุ้นกลุ่ม Growth ตัวอื่นๆใน Coverage ของเราก่อนหน้า
- เราปรับไปใช้ราคาเหมาะสม ณ สิ้นปี 2567 ที่ 100.00 บาทต่อหุ้น อิง PER ที่ 30.4x เราแนะนำ “TRADING”
- ราคาหุ้นมี Upside ที่จำกัดในระยะสั้น ควรรอราคาหุ้นปรับฐาน ก่อนถึงน่าสนใจกลับเข้าลงทุนรอบใหม่
คาดกำไรปกติ 3Q66 เติบโตเด่น YoY
คาดกำไรปกติ 3Q66 ที่ 72 ล้านบาท (+9% QoQ, +110% YoY) กำไรที่เติบโตเด่นทั้ง QoQ และ YoY มาจากการลดต้นทุน SG&A และอัตราภาษีจ่ายที่ลดลง ดังนี้
- คาดรายได้หลักที่ 335 ล้านบาท (-1% QoQ, +85% YoY) รายได้ที่เติบโต YoY เป็นผลบวกจากการรวมงบการเงินของ VDD และ Innoviz เต็มไตรมาส รายได้ที่ไม่เติบโต QoQ เนื่องจากมีโครงการขนาดใหญ่ในเวียดนามที่รับรู้รายได้ไม่ทันในไตรมาสนี้ราว 35 ล้านบาท ซึ่งจะถูกเลื่อนไปรับรู้ในไตรมาสหน้า
- คาดอัตราการทำกำไรขั้นต้นที่ 52.4% (-73 bps QoQ, +571 bps YoY) กำไรขั้นต้นยังรักษาระดับที่สูงได้ต่อเนื่อง
- คาด SG&A ที่ 100 ล้านบาท (-6% QoQ, +107% YoY) ค่าใช้จ่ายลดลง QoQ จากไตรมาส ก่อนมีรายการพิเศษ
- ส่วนแบ่งกำไรจากบริษัทร่วมคาดที่ 12 ล้านบาท (-1% QoQ, +74% YoY) รายได้ของ Orbit เติบโตเด่นตามปริมาณงานของ OR
- อัตราภาษีจ่ายของ BBIK คาดที่ 9% ลดลงจาก 17%ใน 2Q66 หลักๆมาจากการที่ส่งมอบใน 3Q66 ส่วนใหญ่ได้สิทธิประโยชน์ทางภาษี
BBIK จะรายงานผลประกอบการ 3Q66 ในวันที่ 10 พ.ย. 66
ปรับลดประมาณการปี 2567 สะท้อนความเสี่ยงเศรษฐกิจโลก
หากกำไรออกมาตามคาด กำไรปกติ 9M66 จะคิดเป็น 74% ของประมาณการกำไรปกติทั้งปี 2566 ของเราที่ 264 ล้านบาท (+96% YoY) เราคาดผลประกอบการ 4Q66 ทรงตัว QoQ ทำให้ประมาณการทั้งปี 2566 ของเรายังสมเหตุสมผล
อย่างไรก็ดีเราปรับลดประมาณการกำไรปกติปี 2567 ลง 19% เป็น 358 ล้านบาท (+36% YoY) หลักๆมาจาก 1) การปรับลดประมาณการรายได้จาก 1.78 พันล้านบาทลงเป็น 1.6 พันล้านบาท เพื่อให้สะท้อนภาพรวมเศรษฐกิจโลกที่ท้าทายมากขึ้น กระทบต่อการลงทุนด้าน Digital Transformation ของบริษัทขนาดใหญ่ให้มีความระมัดระวังมากขึ้น 2) ปรับลด GPM จาก 51.5% เป็น 50.9% หลักๆ จากการต้องแย่งงานในอุตสาหกรรมที่สูงขึ้นกระทบต่อการแข่งขันด้านราคา และ 3) ปรับลดสมมติฐานอัตราภาษีจาก 5% เป็น 8% ให้อนุรักษ์นิยมมากขึ้น
ปรับไปใช้ราคาเหมาะสม ณ สิ้นปี 2567 ที่ 100.00 บาทต่อหุ้น แนะนำ “TRADING”
เราปรับลด PER เป็นระดับ -1.5SD จาก -1.0SD เพื่อให้สะท้อนความเสี่ยงของเศรษฐกิจโลก และตลาดทุนที่สูงขึ้นผลกระทบจากอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่คงไว้ในระดับสูงยาวนาน การปรับลด PER ดังกล่าวสอดคล้องกับหุ้น Growth อื่นๆ ใน Coverage ของเราที่เราได้ทำการปรับลด Multiple ไปก่อนหน้า เราปรับไปใช้ราคาเหมาะสม ณ สิ้นปี 2567 ที่ 100.00 บาทต่อหุ้น อิง PER ที่ 30.4x หรือ -1.5SD ของค่าเฉลี่ยในอดีต
เราแนะนำ “TRADING” ราคาหุ้นไม่มี Upside เทียบกับราคาเหมาะสมของเรา หุ้นจะน่าสนใจมากขึ้นหากการ De-rating ของตลาดทำให้หุ้น Growth ปรับตัวลงต่อและทำให้ Upside เปิดกว้างมากขึ้น
ความเสี่ยงสำคัญ คือ 1) การเติบโตของตลาด Digital Transformation ไม่ได้เร็วอย่างที่คาด 2) สูญเสียทรัพยากรบุคคลสำคัญ และ 3) การแข่งขันด้านราคา