บล.หยวนต้า (ประเทศไทย):

Global Green Chemicals (GGC) 3Q66 พลิกขาดทุนสูง

Action SELL (Maintain)

  • TP upside (downside) +2.8%
  • Close Nov 3, 2023 Price (THB) 8.95
  • 12M Target (THB) 9.20
  • Previous Target (THB) 10.50

What’s new?

  • ประกาศงบ 3Q66 ขาดทุนสุทธิ 262 ล้านบาท อ่อนแอกว่าคาด พลิกจากกำไรทั้ง QoQ และ YoY โดย EBITDA ธุรกิจหลักติดลบ กดดันจากขาดทุนสต็อก 222 ล้านบาท, ราคาผลิตภัณฑ์ลดลง, ภาวะการแข่งขันรุนแรง, การหยุดผลิตเพื่อเปลี่ยน Catalyst ในกระบวนการผลิต
  • 9M66 ขาดทุน 216 ล้านบาท แย่กว่าคาด ปรับกำไรปี 2566 – 2567 เป็น 4 ล้านบาท และ 474 ล้านบาท ประเมินราคาเหมาะสมใหม่ 9.20 บาท

Our view

  • แนวโน้ม 4Q66 ฟื้นตัวตามฤดูกาล และขาดทุนสต็อกจำนวนมากไม่เกิดขึ้นซ้ำ
  • ปี 2567 ฟื้นตัวแบบค่อยเป็นค่อยไป เพราะกำลังผลิต FA ใหม่ในอินโดนีเซีย และอุตสาหกรรมไบโอดีเซลยังแข่งขันสูงจากภาวะอุปทานล้นตลาด
  • คงมุมมองเดิมยังไม่ต้องรีบเข้าลงทุน เนื่องจากปี 2567 ยังเป็นช่วงท้าทายของอุตสาหกรรมไบโอดีเซล และงบ 3Q66 แย่กว่าคาด ทำให้หุ้นมีความเสี่ยงถูกตลาดปรับลดประมาณการ

3Q66 พลิกเป็นขาดทุนสูง…EBITDA ติดลบ อ่อนแอกว่าคาด

ประกาศงบ 3Q66 ขาดทุนสุทธิ 262 ล้านบาท อ่อนแอกว่าคาด พลิกจากกำไร 7 ล้านบาทใน 2Q66 และ 70 ล้านบาทใน 3Q65 จากขาดทุนสต็อก 222 ล้านบาท และธุรกิจแฟตตี้แอลกอฮอล์ (FA) ลดลงอย่างมีนัยยะ

สำหรับธุรกิจไบโอดีเซล – มี EBITDA -13 ล้านบาท ถือว่าติดลบน้อยลง YoY เนื่องจากขาดทุนสินค้าคงคลังน้อยลงมาก และได้อานิสงส์อัตราผสมดีเซล B7 (เทียบกับ 3Q65 เป็น B5) อย่างไรก็ตาม ผลการดำเนินงานยังอยู่ในเกณฑ์อ่อนแอเพราะราคาผลิตภัณฑ์ -16% YoY จากปริมาณสต็อกน้ำมันปาล์มในประเทศสูงขึ้น และการแข่งขันรุนแรง เมื่อเทียบกับ 2Q66 EBITDA อ่อนแอลง พลิกจาก +14 ล้านบาท สาเหตุหลักจากปริมาณขายลดลงเหลือ 6.9 หมื่นตัน (-24% QoQ) เพราะการเดินทาง – ขนส่งสินค้าลดลง ช่วงฤดูมรสุม และราคาผลิตภัณฑ์ -4% QoQ จากปริมาณสต็อกน้ำมันปาล์มดิบในประเทศเพิ่มขึ้น

ธุรกิจแฟตตี้แอลกอฮอล์ (FA) – มี EBITDA -76 ล้านบาท โดยแม้ว่าขาดทุนสต็อกจะลดลง YoY แต่ EBITDA อ่อนแอลงอย่างมากจาก +527 ล้านบาทใน 3Q65 กดดันจากการปรับตัวลงของราคาผลิตภัณฑ์ -32% YoY ตามทิศทางราคาน้ำมันเมล็ดในปาล์มดิบที่ได้รับผลกระทบจากเศรษฐกิจโลก และการแข่งขันจากผลิตภัณฑ์ทางเลือก เช่น แฟตตี้แอลกอฮอล์สังเคราะห์ นอกจากนี้ ปริมาณขาย -12% ตามอัตราการผลิตเหลือ 76% (-25% YoY) เพราะมีการหยุดผลิตตามแผน ขณะที่เทียบกับ 2Q66 แม้ปริมาณขาย +13% QoQ จากอุปสงค์ Restocking เพื่อเตรียมการผลิตสินค้ารองรับงานเอเชียนเกมส์ในประเทศจีน ทั้งนี้ EBITDA อ่อนแอลง QoQ จากขาดทุนสินค้าคงคลัง และการปรับตัวลงของราคาผลิตภัณฑ์

4Q66 ฟื้นตัวตามปัจจัยฤดูกาล

แนวโน้ม 4Q66 คาดผลการดำเนินงานฟื้นตัว QoQ เนื่องจากขาดทุนสินค้าคงคลังจำนวนมากไม่น่าเกิดขึ้น ซ้ำ (ราคาน้ำมันปาล์มดิบปัจจุบันอยู่ที่ 31.4 บาท/กก. Vs สิ้นเดือนก.ย.อยู่ที่ 29.8 บาท/กก.) นอกจากนี้ 4Q66 ยังเป็นช่วง High Season ของธุรกิจไบโอดีเซล และ FA เนื่องจากกิจกรรมการเดินทางท่องเที่ยวมากขึ้น และเกิดอุปสงค์การผลิตสินค้ารองรับเทศกาลปีไหม่

ปีหน้าฟื้นตัวแบบค่อยเป็นค่อยไป…ปรับลดประมาณการปี 2566 – 2567

ช่วง 9M66 ขาดทุนสุทธิ 216 ล้านบาท แย่กว่าที่ประเมินไว้จากขาดทุนสินค้าคงคลัง 350 ล้านบาท มองข้ามไปปี 2567 แม้หุ้นมีปัจจัยบวกจากอุปสงค์ฟื้นตัวของภาคท่องเที่ยว – นโยบายลดค่าน้ำมัน, ไม่มีกำลังผลิต B100 ใหม่ในประเทศ, ผลผลิตปาล์มลดลงจาก El Nino, อินโดนีเซีย – มาเลเซียปรับเพิ่มอัตราผสม B100 อย่างไรก็ตาม คาดการฟื้นตัวจะเป็นแบบค่อยเป็นค่อยไป เนื่องจากกำลังผลิตไบโอดีเซลในประเทศยังล้นตลาด ทำให้อัตราผลิตของอุตสาหกรรมยังอยู่ต่ำเพียง 40-50% รวมทั้งยังมีกำลังผลิต FA ใหม่จากอินโดนีเซีย ปรับประมาณการปี 2566 – 2567 ลงเป็น 4 ล้านบาท และ 474 ล้านบาท ตามลำดับโดยปรับสมมติฐานอัตรากำไรให้ระมัดระวัง และรวมขาดทุนสต็อกช่วง 9M66 ไว้ในประมาณการ

คงมุมมองเดิม ยังไม่ถึงเวลาเข้าลงทุน

ประเมินราคาเหมาะสมใหม่อยู่ที่ 9.20 บาท อ้างอิง PBV ที่ 0.9 เท่า (-1.5 SD) สะท้อนความเปราะบางของเศรษฐกิจมหภาค และภาวะดอกเบี้ยสูง คงคำแนะนำ “ขาย” มองว่าปี 2567 อุตสาหกรรมไบโอดีเซลยังท้าทายจากภาวะแข่งขันสูง และงบ 3Q66 ต่ำกว่าคาด ทำให้หุ้นมีโอกาสถูกตลาดปรับลดประมาณการ

- Advertisement -