บล.ฟิลลิป:
GPSC กำไร 3Q66 โตดีกว่าคาด
ซื้อ TP’66: 63.00
3Q66 โตดีกว่าคาด โดย +478%q-q, +443%y-y จากปัจจัยหนุนด้านต้นทุนก๊าซที่ลดต่ำลง รวมถึงส่วนแบ่งกำไรจากบริษัทร่วมที่เพิ่มขึ้นกว่า 184% ทั้งนี้ แม้คาด 4Q66 ยังกดดัน แต่มองเป็นโอกาสสะสมหุ้นสำหรับลงทุนระยะยาว เนื่องจากยังมีกำลังการผลิตในมือสำหรับเติบโตระยะยาวและคงคำแนะนำ “ซื้อ”
งบรวม | 3Q66 | 2066 | 3Q65 | % у-у | % q-q | 9M66 | 9M65 | % у-у |
กำไร | 1,790 | 309 | 330 | 443 | 478 | 3,067 | 1,327 | 131.2 |
EPS | 0.63 | 0.11 | 0.12 | 443 | 478 | 1.09 | 0.47 | 131.2 |
หมายเหตุ: กำไร = ล้านบาท, EPS = บาท
- 3Q66 กำไรดีกว่าคาด : กำไร 3Q66 โตมากกว่าคาด โดยกำไรมีปัจจัยหนุนหลายปัจจัย ได้แก่ ต้นทุนเชื้อเพลิงลดลง เนื่องจากราคาก๊าซลดลงจากเดิม 445 บาท/MMBTU เหลือ 339 บาท/MMBTU และราคาถ่านหินลดลงจาก 312 USD/Ton เหลือ 225 USD/Ton ส่งผลให้ต้นทนเชื้อเพลิงในส่วนของโรงไฟฟ้า SPP ลดลงประมาณ 40% ซึ่งสามารถชดเชยรายได้ในส่วน SPP ที่ลดลง 22% ได้ ซึ่งรายได้ลดลงโดยหลักจาก ค่าไฟต่อหน่วยในส่วนของโรงไฟฟ้า SPP จากเดิม 4.26 บาท/หน่วย เหลือ 3.71 บาทต่อหน่วย และยังหนุนด้วยกำไรของโรงไฟฟ้า IPP ที่เพิ่มขึ้นเช่นกัน เนื่องจากไม่มีรายการปรับปรุงค่าใช้จ่ายต้นทุนถ่านหินเหมือนไตรมาสก่อน นอกจากนี้ยังหนุนจากส่วนแบ่งกำไรจากบริษัทร่วมเพิ่มขึ้น 184% จาก 175 ลบ. เป็น 496 ลบ. โดยหลักจากโรงไฟฟ้าพลั่งงานน้ำไซยะบุรี ทำให้โดยรวมกำไรสุทธิ 3Q66 โตได้อย่างมีนัยสำคัญ +q-q, y-y
- 4Q ยังกดดัน : คาดแนวโน้มกำไร 4Q66 จะอ่อนตัวจากค่าไฟ Ft ที่ลดลงตามนโยบายรัฐ และความไม่แน่นอนของราคาก๊าซ ทั้งนี้ปัจจุบันราคาหุ้นมี upside พอสมควร ทางฝ่ายมองว่าเป็นโอกาสสะสมหุ้นสำหรับลงทุนระยะยาว เนื่องจากยังมีกำลังการผลิตในมือสำหรับเติบโตระยะยาว และคงคำแนะนำ “ซื้อ”
อดิสรณ์ มุ่งพาลชล, นักวิเคราะห์การลงทุนด้านหลักทรัพย์ #497
ณัฐนนท์ มนต์ขลัง, ผู้ช่วยนักวิเคราะห์