บล.ทิสโก้:
อาร์ เอส (RS TB) คาดกำไรสุทธิ Q3 เพิ่มขึ้นจากการขายลิขสิทธิ์ มิวสิค ให้กับ UMG
ธุรกิจกลุ่มมีเดียเริ่มกลับมาเติบโต จากการขยายธุรกิจเข้าสู่กลุ่ม music มากขึ้น
เรายังคงคำแนะนำ “ถือ” จาก 1) ภาพรวมเศรษฐกิจยังซบเซากระทบต่อยอดขายธุรกิจ commerce 2) กำไรธุรกิจหลัก 3Q23F ลดลง YoY และ QoQ จากธุรกิจมีเดียเป็นหลัก 2) คาดกำไรสุทธิ 4Q23F จะดีขึ้นในกลุ่มธุรกิจมีเดียจากงานอีเว้นท์และคอนเสิร์ตร่วมกับ Grammy และการขย่ายธุรกิจสัตว์เลี้ยงแบบครบวงจร ปรับประมาณการลงสะท้อนภาพรวมธุรกิจหลักลดลง
คาดกำไรสุทธิ 3Q23F เพิ่มขึ้นจากการขายลิขสิทธิ์เพลงให้ UMG แต่กำไรหลักลดลง
คาดผลประกอบการ 3Q23F กำไรสุทธิที่ 840 ล้านบาท เทียบกับ 3Q22 กำไรสุทธิ 80 ล้านบาท และ 2Q23 กำไรสุทธิ 93 ล้านบาท โดยหากไม่รวมรายการพิเศษจากการขายลิขสิทธิ์คอนเทนต์มิวสิคให้กับ UMG คาดรับรู้กำไรหลังหักภาษี 765 ล้านบาท กำไรจากธุรกิจหลักอยู่ที่ 75 ล้านบาท (-6%YoY, -20%QoQ) คาดรายได้รวมเพิ่มขึ้น +8%YoY, +6%QoQ เติบโตจากกลุ่มมีเดียเป็นหลัก จากงานมิวสิคและงานอีเว้นท์คอนเสิร์ตที่เพิ่มขึ้น โดย 1) รายได้กลุ่มธุรกิจ commerce ลดลง YoY จากภาพรวมเศรฐกิจที่ยังซบเซา แต่เพิ่มขึ้น QoQ จากธุรกิจ U-Life มีจำนวนสมาชิกเพิ่มขึ้น และธุรกิจอาหารสัตว์เลี้ยง Life mate สินค้าใหม่เพิ่มขึ้น อัตรากำไรขั้นต้นลดลงจากธุรกิจตามสัดส่วนรายได้ commerce ที่ลดลง และค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารเพิ่มขึ้นจากการทำการตลาดและงานอีเว้นท์ที่เพิ่มขึ้น
ปรับประมาณการลงสะท้อนผลประกอบการธุรกิจหลัก 9M23F, คาดปีหน้าเริ่มฟื้นตัว
เราคาดแนวโน้มกำไร 4Q23F จะดีขึ้นต่อเนื่อง QoQ จากการเข้าสู่ช่วง high season และมีงานคอนเสิร์ตของ RS ร่วมกับ Grammy รวมถึงยังมีการรับรู้รายการพิเศษจากการลิขสิทธิ์มิวสิคอีกประมาณ 500 ล้านบาท เราปรับประมาณการ 2023-24F สะท้อนผลประกอบการ 9M23F ธุรกิจหลักที่ต่ำกว่าที่คาด โดยคาดกำไรสุทธิปี 2023F อยู่ที่ 1,609 ล้านบาท จากการรับรู้กำไรพิเศษจากการขายลิขสิทธิ์มิวสิคให้กับ UMG และคาดกำไรธุรกิจหลักปี 2023-24F ลดลงจากคาดเดิม 27% และ 13% ตามลำดับ อยู่ที่ 272 ล้านบาท (+98%) และ 365 ล้านบาท (+34%) จากธุรกิจ commerce ปีนี้ลดลง 15% จากภาพรวมเศรษฐกิจชะลอตัวกระทบต่อยอดขาย และคาดปีหน้าจะเพิ่มขึ้น 11% จากการขยายธุรกิจอาหารสัตว์เลี้ยง และ Pet wellness และคาดธุรกิจ Media ปีนี้ +35% จากการร่วมกับ Grammy จัดงานคอนเสิร์ต และคาดปีหน้าจะ +4%YoY เพิ่มขึ้นต่อเนื่อง เรายังคงคำแนะนำ”ถือ” ราคาเป้าหมายปี 2024 อยู่ที่ 16 บาท (อ้างอิงวิธี DCF, WACC 8%) โดยราคาปัจจุบันมี PER24F อยู่ที่ 41.4X, Dividend Yield’ 24F ที่ 1.5%
ความเสี่ยง: เศรษฐกิจชะลอตัว ยอดขายสินค้าไม่เป็นไปตามคาด