บล.บัวหลวง: 

PTT Global Chemical (PTTGC TB / PTTGC.BK)

PTTGC – กำไรไตรมาส 3/66 ดีกว่าคาด; คาดอ่อนตัว QoQ ในไตรมาส 4/66

กำไรสุทธิสูงกว่าคาดจากรายการพิเศษ

PTTGC รายงานกำไรสุทธิไตรมาส 3/66 ที่ 1,427 ล้านบาท พลิกกลับ YoY และ QoQ หากไม่รวมรายการพิเศษ กำไรหลักจะอยู่ที่ 1,628 ล้านบาท ลดลง 42% YoY แต่พลิกกลับ QoQ ผลประกอบการดีกว่าที่เราคาด (โดยเราคาดกำไรสุทธิที่ 213 ล้านบาท) และที่ตลาดคาด (โดยตลาดคาดกำไรสุทธิที่ 46 ล้านบาท) เนื่องจากขาดทุนพิเศษน้อยกว่าคาด

ประเด็นสำคัญจากผลประกอบการ

ปัจจัยหลักที่ส่งผลให้ผลกำไรสุทธิพลิกกลับ ได้แก่ กำไรจากสต๊อกน้ำมัน (เทียบกับขาดทุนจากสต๊อกน้ำมันในไตรมาส 3/65 และไตรมาส 2/66) ปัจจัยสำคัญที่กดดันกำไรหลักให้ปรับตัวลดลง YoY ได้แก่ 1) กำไรจากธุรกิจโอเลฟินส์ที่ลดลง (ส่วนต่างราคาผลิตภัณฑ์ที่ลดลง), 2) กำไรจากธุรกิจ performance chemical ที่ลดลง, 3) ส่วนแบ่งขาดทุนจากบริษัทร่วม (เทียบกับส่วนแบ่งกำไรในไตรมาส 3/65), 4) ค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารที่เพิ่มขึ้น โดย อัตราส่วนค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารต่อยอดขายเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 5.3% จาก 4.7% ในไตรมาส 3/65, และ 5) ดอกเบี้ยจ่ายที่สูงขึ้น ในขณะที่ปัจจัยหลักที่ส่งผลให้กำไรหลักเติบโต QoQ ได้แก่ 1) กำไรจากธุรกิจโรงกลั่นที่เพิ่มขึ้น (ค่าการกลั่นที่สูงขึ้น), 2) กำไรจากธุรกิจโอเลฟินส์ที่สูงขึ้น, 3) กำไรจากธุรกิจ performance chemical ที่ดีขึ้น, และ 4) ส่วนแบ่งขาดทุนจากบริษัทร่วมที่ลดลง

อัตราการใช้กำลังการกลั่นอยู่ที่ 105% เพิ่มขึ้นจาก 100% ในไตรมาส 3/65 และ 103% ในไตรมาส 2/66 ค่าการกลั่น (market GRM) อยู่ที่ 12.6 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล เพิ่มขึ้นจาก 9.8 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรลในไตรมาส 3/65 และ 5.7 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรลในไตรมาส 2/66 กำไรของธุรกิจอะโรเมติกส์เพิ่มขึ้น YoY แต่ลดลง QoQ ในขณะที่กำไรของธุรกิจโอเลฟินส์อ่อนตัวลง YoY แต่เพิ่มขึ้น QoQ PTTGC รายงานส่วนแบ่งขาดทุนจากบริษัทร่วม (เทียบกับ ส่วนแบ่งกำไรในไตรมาส 3/65) เนื่องจากผลประกอบการที่อ่อนตัวลง YoY ของ HMC Polymers Co Ltd, PTT Asahi Chemical Co Ltd, และ AGC Vinythai PIc แต่ขาดทุนลดลง QoQ เนื่องจากผลประกอบการที่ปรับตัวดีขึ้นของ AGC Vinythai Pic

แนวโน้ม

เมื่อมองไปในไตรมาส 4/66 เราคาดว่าบริษัทจะรายงานผลการดำเนินงานหลักพลิกกลับ YoY หนุนโดยกำไรของธุรกิจอะโรเมติกส์และธุรกิจโอเลฟินส์ที่เพิ่มขึ้น (ส่วนต่างราคาผลิตภัณฑ์บางประเภทที่เพิ่มขึ้น) แต่กำไรหลักมีแนวโน้มที่จะลดลง QoQ เนื่องจากกำไรจากธุรกิจโรงกลั่นที่ลดลง (ค่าการกลั่นที่ลดลง) และกำไรจากธุรกิจโอเลฟินส์ที่ลดลง (ปริมาณขายที่ลดลงเนื่องจากการปิดซ่อมบำรุงโรงงานตามแผน)

สิ่งที่เปลี่ยนแปลง

แม้ว่า PTTGC จะรายงานขาดทุนหลักใน 9 เดือนแรกของปี 2566 ที่ 1,170 ล้านบาท แต่เรายังคงประมาณการขาดทุนหลักปี 2566 ไว้ดังเดิมไม่เปลี่ยนแปลงที่ 925 ล้านบาท เนื่องจากเราคาดว่าบริษัทจะรายงานกำไรหลักในไตรมาส 4/66 ในรายงานฉบับนี้ เราปรับเป้าหมายการลงทุนไปเป็น ณ สิ้นปี 2567 ด้วยราคาเป้าหมายใหม่ที่ได้มาจากวิธีคิดลดกระแสเงินสด (DCF) ที่ 44 บาท (WACC ที่ 10.4% และ Terminal Growth ที่ 1.0%]

คำแนะนำ

ถึงแม้ว่าแนวโน้มไตรมาส 4/66 จะดูน่าตื่นเต้น แต่มูลค่าหุ้นปัจจุบันอยู่ในระดับที่น่าสนใจ โดยซื้อขายที่ PBV ณ สิ้นปี 2567 เพียง 0.6 เท่า (ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยระยะยาวที่ 1.1 เท่า อยู่ 1.7 ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน) ซึ่งจะช่วยจำกัดความเสี่ยงขาลงของราคาหุ้น เมื่อมองไปข้างหน้า การเข้าซื้อกิจการ Allnex จะเป็นก้าวแรกของ PTTGC ในการเปลี่ยนพอร์ตโฟลิโอให้มีผลิตภัณฑ์ชนิดพิเศษมากขึ้น ซึ่งจะช่วยเพิ่มความสามารถในการทำกำไรและผลประกอบการในระยะยาว

- Advertisement -