บล.หยวนต้า (ประเทศไทย)
IRPC (IRPC) 3Q66 พลิกมีกำไรสูงตามคาด แต่ยังไม่ยั่งยืน
Action TRADING (Maintain)
- TP upside (downside) +13.9%
- Close Nov 8, 2023 Price 2.02
- 12M Target 2.30
Earnings Results
- ประกาศงบ 3๐66 กำไรสุทธิ 2.4 พันล้านบาท เป็นไปตามที่เราคาดไว้ แต่ต่ำกว่าที่ Bloomberg Consensus ประเมินไว้เล็กน้อย (8%)
- ภาพรวมถือเป็นไตรมาสที่ฟื้นตัวได้ดี สามารถพลิกจากขาดทุน 2.2 พันล้านบาทใน 2Q66 และขาดทุน 2.5 พันล้านบาทใน 3Q65 สาเหตุหลักมาจากการพุ่งขึ้นของค่าการกลั่น และการบันทึกกำไรสต็อกน้ำมันจำนวนมาก 3.9 พันล้านบาท (vs ขาดทุน 1.1 พันล้านบาทใน 2Q66 และขาดทุน 2.7 พันล้านบาทใน 3Q65)
- หากหักรายการพิเศษ (กำไรสต็อกน้ำมัน 3.9 พันล้านบาท, ขาดทุน Hedging และ FX ราว 4 ร้อยล้านบาท) ผลการดำเนินงานปกติจะขาดทุน 462 ล้านบาท นับว่าขาดทุนลดลงจาก 1.4 – 1.6 พันล้านบาทใน 2Q66 และ 3Q65 หนุนจากการปรับตัวดีขึ้นของ ธุรกิจโรงกลั่น เมื่อเทียบกับ 2Q66 ค่าการกลั่นทำได้ US$8.5/bbl (+106% QoQ) สอดคล้องกับพุ่งขึ้นของ Crack Spread น้ำมันสำเร็จรูปทุกชนิด เนื่องจากโรงกลั่นหลายแห่งปิดซ่อมบำรุง, รัสเซียลดปริมาณส่งออก, เข้าสูดดูท่องเที่ยวของสหรัฐฯ, อุปทานลดลงจากการปรับลดการผลิตของ OPEC+ ส่งผลให้ Market GIM อยู่ที่ USS8.9/bbl (+30% QoQ)
- อย่างไรก็ตาม Market GIM ดังกล่าวยังไม่เพียงพอ Break-even ต้นทุนรวมระดับ US$9.6/bbl ส่งผลให้ผลการดำเนินงานหลักยังอยู่ระดับต่ำ และติดลบ -462 ล้านบาทกดดันจาก 1) อัตรากำไรปิโตรเคมีพลิกเป็นติดลบ -US$0.6/bbl (vs US$1.7/bbl ใน 2Q66) เนื่องจาก Spread ปีโตรเคมีกลุ่ม Olefins และ Styrenics (HDPE PP ABS) ปรับตัวลดลง QoQ และ YoY ทุกผลิตภัณฑ์ (ยกเว้นกลุ่ม Aromatics Toluene และ MX) เพราะอุปสงค์อ่อนแอตามภาวะเศรษฐกิจ, ต้นทุนวัตถุดิบ (Naphtha) สูงขึ้น, อุปทานล้นตลาด 2) อัตรากำไรผลิตภัณฑ์น้ำมันหล่อลื่น และยางมะตอยปรับตัวลดลงเหลือ US$0.4/bbl (-81% QoQ) จากต้นทุนวัตถุดิบ (HSFO) สูงขึ้น, เศรษฐกิจชะลอตัว, เข้าสู่ฤดูมรสุม นอกจากนี้ 3) ค่าใช้จ่ายทางการเงินสูงขึ้น +4% QoQ ตามอัตราดอกเบี้ย
Our Take
- กำไรสุทธิ 9M66 อยู่ที่ 494 ล้านบาท อย่างไรก็ตาม แนวโน้ม 4Q66 อ่อนแอลง QoQ เนื่องจาก 1) ค่าการกลันชะลอตัวหลัง Crack Spread 4QTD ปรับตัวลดลง สวนทางต้นทุน Crude Premium ที่สูงขึ้น 2) ความผันผวนจากกำไร/ขาดทุนสต็อกน้ำมัน 3) Spread ปิโตรเคมียังไม่ฟื้นตัวอย่างมีนัยสำคัญ
- เราประเมินว่าผลการดำเนินงานหลักใน 4Q66 ยังไม่กลับมาเป็นบวก เนื่องจาก Market GIM ยังมีความท้าทายเทียบกับต้นทุนรวมระดับ USS10/bbl ดังนั้น เรายังคงประมาณการปี 2566 ขาดทุนสุทธิ 761 ล้านบาท
- การฟื้นตัวในปี 2567 ยังมีความไม่แน่นอน อีกทั้งเมื่อเทียบกับคู่แข่งอุตสาหกรรม ปิโตรเคมี คาดการพื้นตัวของ IRPC จะล่าช้ากว่าคู่แข่ง เนื่องจากผลิตภัณฑ์ปิโตรเคมีชนิดหลัก PP และ ABS ยังอ่อนแอ กดดันจากอุปทานกำลังผลิตใหม่ล้นตลาดจำนวนมากและอุปสงค์สัมพันธ์กับสินค้า Durable Goods ซึ่งได้รับผลกระทบจากเศรษฐกิจโลกชะลอตัวมากกว่า
- คงมุมมองระมัดระวัง เชื่อว่ายังไม่ถึงเวลาเข้าลงทุน คงคำแนะนำเพียง TRADING ราคาเหมาะสม 2.30 บาท